ReadyPlanet.com
bulletรับฟ้องคดีแพ่ง/อาญา
bulletพระราชบัญญัติ
bulletป.แพ่งและพาณิชย์
bulletป.อาญา ฎีกา
bulletป.วิอาญา
bulletป.วิแพ่ง
bulletป.กฎหมายที่ดิน
bulletป.รัษฎากร
bulletฟ้องหย่า
bulletอำนาจปกครอง
bulletนิติกรรม
bulletคดีมรดก
bulletอายุความฟ้องร้องคดี
bulletครอบครองปรปักษ์
bulletเอกเทศสัญญา
bulletเกี่ยวกับแรงงาน
bulletเกี่ยวกับคดีอาญา
bulletคดียาเสพติดให้โทษ
bulletตั๋วเงินและเช็ค
bulletห้างหุ้นส่วน-บริษัท
bulletคำพิพากษาและคำสั่ง
bulletทรัพย์สิน/กรรมสิทธิ์
bulletอุทธรณ์ฎีกา
bulletเกี่ยวกับคดีล้มละลาย
bulletเกี่ยวกับวิแพ่ง
bulletเกี่ยวกับวิอาญา
bulletการบังคับคดี
bulletคดีจราจรทางบก
bulletการเล่นแชร์ แชร์ล้ม
bulletอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล
bulletมรรยาททนายความ
bulletถอนคืนการให้,เสน่หา
bulletข้อสอบเนติบัณฑิต
bulletคำพิพากษา 2550
bulletทรัพย์สินทางปัญญา
bulletสัญญาขายฝาก
bulletสำนักทนายความ
bulletป-อาญา มาตรา1- 398
bulletภาษาอังกฤษ
bulletการสมรสและการหมั้น
bulletแบบฟอร์มสัญญา
bulletข้อสอบเนติ-ปี2551-อาญา
bulletข้อสอบเนติ-ปี2551-แพ่งพาณิชย์
bulletข้อสอบเนติ-ปี2550-วิ-แพ่ง
bulletข้อสอบเนติ-ปี2550-วิ-อาญา
bulletข้อสอบเนติ-ปี2550-อาญา
bulletข้อสอบเนติ-ปี2550-แพ่งพาณิชย์
bulletข้อสอบเนติ-ปี2549-แพ่งพาณิชย์
bulletข้อสอบเนติ-ปี2548-แพ่งพาณิชย์
bulletข้อสอบเนติ-ปี2547-แพ่งพาณิชย์
bulletข้อสอบเนติ-ปี2546-แพ่งพาณิชย์
bulletข้อสอบเนติ-ปี2545-แพ่งพาณิชย์
bulletนิติกรรมสัญญา
bulletพระธรรมนูญศาล
bulletทรัพย์สิน-สามีภริยา
bulletบิดามารดา-รับรองบุตร
bulletคดีครอบครัว
bulletสัญญาระหว่างสมรส
bulletสิทธิครอบครองที่ดิน
bulletสัญญาซื้อขาย
bulletแปลงหนี้ใหม่
bulletการได้กรรมสิทธิ์
bulletคดีเรื่องบุตร
bulletเช่าซื้อรถยนต์
bulletถอนผู้จัดการมรดก
bulletฟ้องค่าทดแทน
bulletฟ้องหย่า-ฟ้องหย่า
bulletสินสมรส-สินสมรส
bulletบันดาลโทสะ
bulletเบิกความเท็จ
bulletสิทธิ-สัญญาเช่า
bulletค้ำประกัน
bulletเจ้าของรวม
bulletจำนอง
bulletลูกหนี้ร่วม
bulletคำพิพากษาฎีกาทั่วไป
bulletกระดานถาม-ตอบ
bulletป-กฎหมายยาเสพติด2564
bulletขนส่งทางทะเล
bulletสมรสเป็นโมฆะ
bulletสามีภริยา
bulletตัวการไม่เปิดเผยชื่อ
bulletทนายความของสภาจัดให้
bulletอาวุธปืน
bulletรับช่วงสิทธิ
bulletแพ่งมาตรา1-1755




อายุความฟ้องร้องคดี

ทนายความ อาสา ปรึกษาฟรี

 

ทนาย ลีนนท์ พงษ์ศิริสุวรรณ ปรึกษากฎหมายทางแชทไลน์

ติดต่อเรา โทร. 085-9604258 


(อ่าน)คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1174/2568 เกี่ยวข้องกับข้อพิพาทเรื่องหนี้ที่เกิดจากการใช้บัตรเครดิตและสินเชื่อเงินสด โดยจำเลยอ้างว่าเป็นหนี้บัตรเครดิตซึ่งมีกำหนดอายุความ 2 ปี แต่โจทก์ยืนยันว่าเป็นหนี้เงินกู้ผ่อนชำระรายเดือนซึ่งต้องใช้อายุความ 5 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 193/33 (2) ศาลฎีกาพิจารณาข้อเท็จจริงว่า จำเลยสมัครขอสินเชื่อเงินสดและมีการกำหนดให้ผ่อนชำระต้นเงินและดอกเบี้ยเป็นงวด ๆ จึงเข้าลักษณะหนี้เงินกู้ ไม่ใช่หนี้บัตรเครดิต แม้โจทก์อ้างว่ามีการชำระหนี้ครั้งสุดท้ายเมื่อปี 2560 อันอาจทำให้อายุความสะดุดหยุดลง แต่พยานหลักฐานยังมีข้อสงสัยและไม่อาจรับฟังได้ ศาลฎีกาจึงวินิจฉัยว่าการฟ้องร้องเมื่อปี 2564 เกิน 5 ปีนับจากการผิดนัดครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2558 ทำให้คดีนี้ขาดอายุความและมีคำพิพากษายกฟ้อง

 

ฎีกา 1174/2568 ศาลวินิจฉัยว่าหนี้ที่พิพาทเป็นหนี้เงินกู้ผ่อนงวด ไม่ใช่บัตรเครดิต อายุความ 5 ปี ตาม ป.พ.พ. มาตรา 193/33 (2) การฟ้องในปี 2564 เกิน 5 ปีจากการผิดนัดปี 2558 แม้มีข้ออ้างชำระเงินปี 2560 แต่หลักฐานไม่รับฟัง ศาลจึงพิพากษายกฟ้อง

 

(อ่าน)คำพิพากษาฎีกา 2140/2568 จำเลยถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดตาม ป.อ. มาตรา 149, 151, 157 และกฎหมาย ป.ป.ช. เหตุเกิดปี 2555 ป.ป.ช. ไต่สวนปี 2560 และมีมติปี 2564 ศาลชั้นต้นยกฟ้อง ศาลอุทธรณ์กลับคำพิพากษา จำเลยฎีกา อ้างว่าเกินเวลาตามมาตรา 48 ศาลฎีกาย้ำว่า มาตรา 48 เป็นกรอบเวลา ไม่ใช่อายุความ คดีนี้ยังไม่พ้น 15–20 ปี ป.ป.ช. มีอำนาจฟ้อง ศาลพิพากษายืน

 

คดีทุจริต ป.ป.ช. จำเลยถูกกล่าวหาตาม ป.อ. มาตรา 149, 151, 157 และกฎหมาย ป.ป.ช. ศาลชั้นต้นยกฟ้อง ศาลอุทธรณ์กลับคำพิพากษา จำเลยฎีกาอ้างว่าหมดอำนาจเพราะไต่สวนเกิน 3 ปี ศาลฎีกาวินิจฉัยว่ามาตรา 48 พ.ร.บ.ป.ป.ช. เป็นเพียงกรอบเวลา ไม่ใช่อายุความ คดีนี้ยังไม่พ้นอายุความ 15–20 ปี ป.ป.ช. มีอำนาจฟ้อง พิพากษายืน

 

(อ่าน)คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1685/2568 ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า แม้การวางเงินชำระค่าที่ดินตามสัญญาประนีประนอมถือเป็นการบังคับคดีโดยวิธีอื่นตาม ป.วิ.พ. มาตรา 276 แต่ก็ต้องกระทำภายในอายุความ 10 ปีตามมาตรา 274 คดีนี้ครบกำหนดวันที่ 15 มกราคม 2566 แต่โจทก์วางเงินปลายกุมภาพันธ์ 2566 เกินกำหนด สิทธิบังคับคดีจึงขาดไป

 

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า แม้การวางเงินชำระค่าที่ดินตามสัญญาประนีประนอมถือเป็นการบังคับคดีโดยวิธีอื่นตาม ป.วิ.พ. มาตรา 276 แต่ก็ต้องกระทำภายในอายุความ 10 ปีตามมาตรา 274 คดีนี้ครบกำหนดวันที่ 15 มกราคม 2566 แต่โจทก์วางเงินปลายกุมภาพันธ์ 2566 เกินกำหนด สิทธิบังคับคดีจึงขาดไป

(อ่าน)คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1856/2568 โจทก์ฟ้องหน่วยงานของรัฐให้รับผิดตามมาตรา 5 พ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 ซึ่งไม่กำหนดอายุความไว้โดยเฉพาะ ศาลจึงให้นำมาตรา 193/30 ป.พ.พ. กำหนดอายุความ 10 ปี และให้นับตั้งแต่วันที่คดีอาญาถึงที่สุดตามมาตรา 193/12 ส่วนการยึดรถยนต์เป็นของกลางเป็นไปตาม ป.วิ.อ. มาตรา 85 วรรคสาม ซึ่งเจ้าพนักงานมีอำนาจยึดจนกว่าคดีจะสิ้นสุด เมื่อคดีถึงที่สุดวันที่ 23 ธันวาคม 2563 โจทก์ยื่นฟ้องวันที่ 16 เมษายน 2564 ยังอยู่ในกำหนดอายุความ คดีจึงไม่ขาดอายุความ

 

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าการฟ้องละเมิดหน่วยงานรัฐต้องใช้อายุความ 10 ปี ตาม ป.พ.พ. มาตรา 193/30 นับจากวันที่คดีอาญาถึงที่สุด ไม่ใช่มาตรา 448. การยึดรถยนต์ของกลางและการคืนทรัพย์เป็นไปตาม ป.วิ.อ. มาตรา 85 เมื่อฟ้องภายในกำหนด คดีไม่ขาดอายุความ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3329/2567

บทนำ

คำพิพากษาศาลฎีกานี้เกี่ยวข้องกับการชำระหนี้เงินกู้ที่กำหนดเป็นงวดและการนับอายุความ ศาลวางหลักว่า หนี้แต่ละงวดต้องนับอายุความแยกกัน ไม่หมดอายุความพร้อมกัน อีกทั้งหนังสือรับสภาพหนี้ที่จำเลยลงนามยังมีผลผูกพัน เนื่องจากพยานหลักฐานของโจทก์น่าเชื่อถือมากกว่า


สรุปข้อเท็จจริง

โจทก์ฟ้องให้จำเลยชำระหนี้ 825,000 บาท

ศาลชั้นต้นยกฟ้อง

ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ชำระ 390,000 บาท

จำเลยฎีกา อ้างว่าคดีขาดอายุความและเอกสารปลอม


คำวินิจฉัยศาลฎีกา

1. อายุความ

หนี้งวดแต่ละงวดมีอายุความ 5 ปีแยกกัน (ป.พ.พ. มาตรา 193/30)

งวดก่อนปี 2560 ขาดอายุความแล้ว แต่หนี้ตั้งแต่มกราคม 2560–7 ม.ค. 2565 ยังไม่ขาด

2. หนังสือรับสภาพหนี้

จำเลยลงชื่อจริง แม้อ้างว่าเป็นเอกสารเปล่า

ศาลเห็นว่าข้ออ้างไม่น่าเชื่อถือ เพราะโจทก์มีพยานบุคคลและเอกสารยืนยันชัด


ขยายประเด็นทางกฎหมาย

อายุความหนี้งวด: แต่ละงวดครบกำหนดต่างกัน ต้องนับอายุความแยก ไม่ถือรวมทั้งหมด

หนังสือรับสภาพหนี้: หากลูกหนี้ลงชื่อ จะทำให้อายุความเริ่มนับใหม่ (ป.พ.พ. มาตรา 193/12)


ข้อคิดทางกฎหมาย

หนี้งวดต้องนับอายุความแยก ไม่หมดสิทธิเรียกร้องพร้อมกัน

หนังสือรับสภาพหนี้เป็นหลักฐานสำคัญ ตัดข้ออ้างเรื่องอายุความได้

ลูกหนี้ควรตรวจสอบเอกสารก่อนลงนามทุกครั้ง


IRAC

Issue: หนี้งวดหมดอายุความพร้อมกันหรือไม่ และหนังสือรับสภาพหนี้มีผลหรือไม่

Rule: มาตรา 193/30 และ 193/12 ป.พ.พ.

Application: หนี้งวดก่อนปี 2560 ขาดอายุความ แต่หนี้หลังปี 2560 ยังฟ้องได้ เอกสารรับสภาพหนี้มีผล

Conclusion: จำเลยยังต้องรับผิดตามหนี้ ศาลฎีกาพิพากษายืน


English Summary

 

Supreme Court Decision No. 3329/2024 clarified that each debt installment has a separate five-year limitation period. Earlier installments had expired, but later ones remained enforceable. The Court also confirmed the validity of the debtor’s signed acknowledgment, finding the creditor’s evidence more convincing.


ภาพสรุปคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3329/2567 อธิบายการชำระหนี้เป็นงวดและการนับอายุความ ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าหนี้แต่ละงวดมีอายุความ 5 ปีนับแยกกัน ไม่ขาดอายุความพร้อมกัน พร้อมวิเคราะห์ประเด็นหนังสือรับสภาพหนี้ตาม ป.พ.พ. มาตรา 193/30 และมาตรา 193/12 เหมาะสำหรับค้นหาในคดีแพ่ง อายุความหนี้ และการบังคับชำระหนี้

 บทนำ

คำพิพากษาศาลฎีกานี้เกี่ยวข้องกับการฟ้องเรียกหนี้ค่ารักษาพยาบาล เมื่อบุตรลงชื่อรับผิดแทนมารดาที่เข้ารับการรักษา ศาลเห็นว่าถือเป็นการรับผิดในฐานะลูกหนี้ชั้นต้น สิทธิเรียกร้องของโรงพยาบาลจึงมีอายุความ 2 ปีตาม ป.พ.พ. มาตรา 193/34 (11) แต่การฟ้องเกินกำหนดทำให้คดีขาดอายุความ

 

ข้อเท็จจริงโดยย่อ

ผู้ป่วยเข้ารับการรักษาในปี 2556 ค่ารักษาพยาบาลกว่า 1.4 ล้านบาท

จำเลยลงชื่อรับผิดชอบ และชำระไปแล้ว 700,000 บาท เหลือหนี้ 478,852.45 บาท

โรงพยาบาลออกใบแจ้งหนี้ 22 ก.ย. 2556

โจทก์ฟ้อง 28 ก.ย. 2564 เกิน 2 ปี

 

คำวินิจฉัย

การลงชื่อคือการรับผิดเป็น ลูกหนี้โดยตรง ไม่ใช่ผู้ค้ำประกัน

สิทธิเรียกร้องตาม มาตรา 193/34 (11) มีอายุความ 2 ปี

การฟ้องเกินกำหนดจึง ขาดอายุความ

ศาลฎีกาพิพากษายืนยกฟ้อง

 

วิเคราะห์ประเด็นกฎหมาย

1. ฐานะของจำเลย – ลงชื่อรับผิดผูกพันในฐานะลูกหนี้ ไม่ใช่เพียงผู้ค้ำประกัน

2. อายุความ – สิทธิเรียกร้องค่ารักษาพยาบาลต้องฟ้องภายใน 2 ปีนับจากวันออกใบแจ้งหนี้

3. ผลของการฟ้องล่าช้า – แม้มีหนี้จริง แต่เมื่อฟ้องเกินกำหนด สิทธิบังคับตามกฎหมายย่อมสิ้นไป

 

ข้อคิดทางกฎหมาย

ผู้ที่ลงชื่อรับผิดค่ารักษาพยาบาลถือเป็นลูกหนี้โดยตรง

โรงพยาบาลควรฟ้องร้องภายใน 2 ปี ไม่เช่นนั้นสิทธิเรียกร้องจะหมดไป

คดีนี้ตอกย้ำความสำคัญของหลักอายุความในกฎหมายแพ่ง

 

IRAC (สรุปสั้น)

Issue: ฟ้องเรียกหนี้ค่ารักษาพยาบาลเกิน 2 ปี ขาดอายุความหรือไม่

Rule: ป.พ.พ. มาตรา 193/34 (11) กำหนดอายุความ 2 ปี

Application: จำเลยเป็นลูกหนี้โดยตรง แต่โจทก์ฟ้องช้าเกินกำหนด

Conclusion: คดีขาดอายุความ ศาลฎีกายืนยกฟ้อง

 

English Summary

The Supreme Court Decision No. 3376/2024 ruled that signing as responsible for medical expenses makes the defendant a primary debtor. Hospital claims prescribe in two years under Section 193/34 (11). Since the case was filed late, the claim was time-barred and dismissed.

ภาพสรุปคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3376/2567 เกี่ยวกับคดีค่ารักษาพยาบาล การลงชื่อรับผิดของบุตรแทนมารดาในฐานะลูกหนี้โดยตรง ไม่ใช่ผู้ค้ำประกัน ศาลวินิจฉัยว่าสิทธิเรียกร้องค่ารักษาพยาบาลมีอายุความ 2 ปีตาม ป.พ.พ. มาตรา 193/34 (11) และเมื่อฟ้องเกินกำหนดจึงขาดอายุความ พร้อมสัญลักษณ์ตราชั่งความยุติธรรม

 

ตาม ป.พ.พ.มาตรา 193/9 ที่บัญญัติว่า “สิทธิเรียกร้องใดๆ ถ้ามิได้บังคับภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด สิทธิเรียกร้องนั้นเป็นอันขาดอายุความ” และมาตรา 193/10 “สิทธิเรียกร้องที่ขาดอายุความ ลูกหนี้มีสิทธิที่จะปฏิเสธการชำระหนี้ตามสิทธิเรียกร้องนั้นได้” 

ตาม ป.พ.พ.มาตรา 193/9 ที่บัญญัติว่า “สิทธิเรียกร้องใดๆ ถ้ามิได้บังคับภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด สิทธิเรียกร้องนั้นเป็นอันขาดอายุความ” และมาตรา 193/10 “สิทธิเรียกร้องที่ขาดอายุความ ลูกหนี้มีสิทธิที่จะปฏิเสธการชำระหนี้ตามสิทธิเรียกร้องนั้นได้”

อายุความเป็นเรื่องที่มีความสำคัญเนื่องจากมีผลกระทบถึงสิทธิในการดำเนินคดีในทางกฎหมายไม่ว่าในทางคดีแพ่ง หรือในคดีอาญา โดยในทางแพ่งหากเจ้าหนี้ไม่ใช้สิทธิเรียกร้องภายในกำหนดอายุความ ลูกหนี้ย่อมปฏิเสธการชำระหนี้ได้ ส่วนในทางอาญาถ้าไม่ได้ตัวผู้กระทำความผิดมาฟ้องภายในกำหนดอายุความสิทธินำคดีอาญามาฟ้องระงับ ย่อมไม่อาจนำตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษได้ ด้วยความสำคัญดังที่กล่าวมานั้น จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องทำความเข้าใจในเรื่องนี้ให้ชัดเจน โดยต้องเข้าใจคำว่า "อายุความ" หมายความว่าอย่างไร ทำไมต้องกำหนดอายุความไว้ด้วย ในแต่ละคดีมีกรณีแตกต่างกันอย่างไร และอายุคววามจะมีผลกระทบกับสิทธิและหน้าที่ในทางกฎหมายอย่างไร

ความหมายเรื่องอายุความ

เรื่องอายุความนั้นโดยสรุปแล้วก็คือระยะเวลาที่กฎหมายในทางสารบัญญัติกำหนดให้ผู้ที่เกี่ยวข้องต้องดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่ง มิฉะนั้นจะเกิดความเสียหายแก่สิทธิของผู้นั้นหรือทำให้ไม่อาจดำเนินการเพื่อให้บรรลุผลตามที่กฎหมายมุ่งประสงค์ซึ่งสามารถพิจารณาได้ดังนี้คือ

1. ในทางแพ่ง อายุความคือระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดให้ใช้สิทธิเรียกร้องทางศาลหรือระยะเวลาที่กฎหมายบังคับผู้ทรงสิทธิเรียกร้องให้ต้องฟ้องคดีต่อศาล หากไม่ดำเนินการตามที่กำหนดอาจจะเกิดความเสียหายแก่เจ้าของสิทธิได้ คือมีผลให้ "สิทธิเรียกร้องขาดอายุความ" มาตรา 193/9 ที่บัญญัติว่า “สิทธิเรียกร้องใดๆ ถ้ามิได้บังคับภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด สิทธิเรียกร้องนั้นเป็นอันขาดอายุความ” และยังหมายรวมถึงระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดไว้ให้ผู้ที่ดำเนินการตามเงื่อนไขจนครบระยะเวลาดังกล่าวได้สิทธิอย่างใดอย่างหนึ่งด้วย สำหรับอายุความในทางแพ่งนั้นมีได้ 2 ประเภทกล่าวคือ "อายุความเสียสิทธิ" และ "อายุความได้สิทธิ" 

อายุความเสียสิทธิ คืออายุความที่กฎหมาย กำหนดให้ผู้ทรงสิทธิบังคับใช้สิทธิ เรียกร้อง หากไม่ดำเนินการภายในกำหนดเช่นนั้นจะทำให้เกิดผลเสียหายแก่ผู้ทรงสิทธิได้หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งได้ว่าเป็นกำหนดเวลาที่ทำให้สิทธิเรียกร้องขาดสิทธิฟ้องร้องโดยต้องเข้าใจว่าอายุความเสียสิทธินี้คือสิทธิเรียกร้องที่ต้องยื่นฟ้องคดีต่อศาล ไม่ใช่ระยะเวลาที่กำหนดไว้ให้เรียกร้องทวงหนี้ แก่ลูกหนี้แต่อย่างใด เช่นสิทธิเรียกร้องค่าเสียหาย อันเกิดแต่มูลละเมิดมีกำหนดอายุความ 1 ปีนับแต่วันที่ผู้ต้องเสียหายรู้ถึงการละเมิดและรู้ตัวผู้ที่จะพึงใช้ค่าสินไหมทดแทนหรือ 10 ปีนับแต่วันทำละเมิด มาตรา 448 วรรคหนึ่ง ผู้ต้องเสียหายซึ่งเป็นเจ้าหนี้ต้องฟ้องร้องลูกหนี้ต่อศาลภายในกำหนดระยะเวลาดังกล่าว มิฉะนั้นสิทธเรียกร้องย่อมเป็นอันขาดอายุความ และกรณีที่คดีขาดอายุความหากลูกหนี้ยกเรื่องอายุความขึ้นเป็นข้อต่อสู้ ตัดฟ้องซึ่งเรื่องคดีขาดอายุความหรือ ไม่ ในทางแพ่งไม่ใช่ข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลยกขึ้นพิจารณาเองไม่ได้ ถ้าคดีขาดอายุความศาลก็ต้องพิพากษายกฟ้อง

มาตรา 448 สิทธิเรียกร้องค่าเสียหายอันเกิดแต่มูลละเมิดนั้น ท่านว่าขาดอายุความเมื่อพ้นปีหนึ่งนับแต่วันที่ผู้ต้องเสียหายรู้ถึงการละเมิดและรู้ตัวผู้จะพึงต้องใช้ค่าสินไหมทดแทน หรือเมื่อพ้นสิบปีนับแต่วันทำละเมิด

มาตรา 448 สิทธิเรียกร้องค่าเสียหายอันเกิดแต่มูลละเมิดนั้น ท่านว่าขาดอายุความเมื่อพ้นปีหนึ่งนับแต่วันที่ผู้ต้องเสียหายรู้ถึงการละเมิดและรู้ตัวผู้จะพึงต้องใช้ค่าสินไหมทดแทน หรือเมื่อพ้นสิบปีนับแต่วันทำละเมิด

 



(ฎีกา 1174/2568) คดีบัตรเครดิตหรือเงินกู้ & อายุความ 5 ปี
(ฎีกา 2140/2568)คดีทุจริต ป.ป.ช. & อายุความ
คำพิพากษาศาลฎีกา 1685/2568 – สัญญาประนีประนอม & อายุความ 10 ปี
(ฎีกาที่ 1856/2568) ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่รัฐ & อายุความ 10 ปี
(ฎีกาที่ 3329/2567) ว่าด้วยการชำระหนี้เป็นงวด อายุความ และการรับสภาพหนี้, ป.พ.พ. มาตรา 193/30,
(ฎีกาที่ 3376/2567): ความรับผิดค่ารักษาพยาบาลและอายุความ 2 ปีตาม ป.พ.พ. มาตรา 193/34 (11)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5660/2567: อายุความเรียกร้องค่าสินค้าและค่าว่าจ้างถมทราย พร้อมวิเคราะห์ประเด็นข้อกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5783/2567 กรณีซื้อขายที่ดิน ข้อตกลงคืนเงินเมื่อที่ดินขาด อายุความฟ้องเรียกคืน 10 ปี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6568/2567 : อายุความฟ้องเรียกหนี้บัตรกดเงินสด และการนับระยะเวลาตาม ป.พ.พ. มาตรา 193/30
คำพิพากษาศาลฎีกา 1174/2568 เกี่ยวกับหนี้สินเชื่อ “อายุความ 2  ปี หรือ 5  ปี” วิเคราะห์ครบถ้วน
ฟ้องเพิกถอนการโอนที่ดินมรดกขาดอายุความ
สิทธิฟ้องเพิกถอนนิติกรรมโอนที่ดินสินสมรส อายุความ ฟ้องซ้ำ ฟ้องซ้อน
อายุความมูลละเมิด, ฟ้องทายาทผู้ทำละเมิดที่ตายแล้ว, มรดกและความรับผิดของทายาท, การขุดดินและความเสียหายทางสาธารณะ,
คดีเช่าซื้อรถตู้, ยักยอกรถตู้, ฟ้องร้องเกินกำหนด 3 เดือน, คดีขาดอายุความ,
สิทธิในการฟ้องคดีมรดก, อายุความมรดก, การครอบครองที่ดินโดยมิได้จดทะเบียนสมรส
อายุความค่าจ้างว่าความ, อายุความสะดุดลง, ดอกเบี้ยผิดนัด, สัญญาจ้างทำของ,
อายุความ 5 ปี หนี้ตามสัญญา, หนี้ที่ต้องชำระเป็นงวดๆ อายุความ, ฟ้องคดีขาดอายุความ หนี้เงินกู้
การชำระหนี้ซึ่งขาดอายุความแล้วจะเรียกคืนไม่ได้
หนังสือรับสภาพหนี้ทำให้อายุความมูลหนี้เดิมสะดุดหยุดลง
อายุความฟ้องเรียกค่าทดแทนจากสามีและหญิงชู้
สิทธิฟ้องเรียกเงินคืนผิดสัญญาจะซื้อขาย
อายุความสิทธิเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนจากเจ้าหน้าที่
สิทธิเรียกร้องตามสัญญาประนีประนอมยอมความ
การฟ้องคดีเพื่อเอาคืนซึ่งการครอบครอง
ฟ้องผิดตัวอายุความไม่เคยสะดุดหยุดลง-อำนาจฟ้อง
อายุความรับผิดในฐานะตัวแทนไม่มีกฎหมายกำหนดไว้โดยเฉพาะ
อายุความตามสัญญาให้บริการทางการแพทย์อันเป็นเอกเทศสัญญา
อายุความคดีความผิดฐานฉ้อโกง ร้องทุกข์เกิน 3 เดือน
วันวินาศภัยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 882 วรรคหนึ่ง
อายุความสะดุดหยุดลงย่อมเป็นคุณเฉพาะแก่ฝ่ายโจทก์
รับสภาพความรับผิดโดยมีหลักฐานเป็นหนังสือ
ผู้ค้ำประกันยกข้อต่อสู้เรื่องขาดอายุความ
ฟ้องเรียกให้ชำระหนี้เงินกู้อย่างเจ้าหนี้สามัญ
ไม่ได้แสดงเหตุแห่งการขาดอายุความ
ความรับผิดของผู้เป็นหุ้นส่วนในหนี้ที่ห้างได้ก่อให้เกิดขึ้น
กำหนดหนึ่งเดือนในการเพิกถอนมติที่ประชุมใหญ่ไม่ใช่อายุความ
หน้า 1/1
1
[Go to top]