
ติดต่อเรา โทร. 085-9604258
Quick Summary คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2959/2567 เกี่ยวข้องกับจำเลยที่ยิงผู้ตายและผู้เสียหายซึ่งลักผลปาล์มในสวน ศาลวินิจฉัยว่าเป็นความผิดฐานฆ่าและพยายามฆ่าโดยบันดาลโทสะตาม ป.อ. มาตรา 72 ไม่ใช่ฆ่าโดยเจตนา อีกทั้งยังมีความผิดฐานพกพาอาวุธปืนในที่สาธารณะ อย่างไรก็ตาม เมื่อจำเลยได้ชดใช้ค่าสินไหมและไม่เคยมีประวัติ ศาลจึงลดโทษและรอการลงโทษจำคุกไว้ 2 ปี บทนำ คดีนี้เกี่ยวกับจำเลยที่ยิงผู้ตายและผู้เสียหายซึ่งเข้ามาลักผลปาล์ม ศาลวินิจฉัยว่าการกระทำเป็น “ฆ่าโดยบันดาลโทสะ” ไม่ใช่ฆ่าโดยเจตนา และยังมีประเด็นการพกพาอาวุธปืน การบรรเทาโทษ และการรอการลงโทษ ข้อเท็จจริง • ผู้ตายและผู้เสียหายลักผลปาล์มในสวนของบุตรชายจำเลย • จำเลยซึ่งพกปืนเห็นเหตุ ตะโกนให้หยุด แต่ทั้งสองกลับขับรถหนี • จำเลยยิง กระสุนถูกผู้ตายเสียชีวิต คำพิพากษา • ศาลชั้นต้น: ฆ่าโดยบันดาลโทสะ จำคุก 7 ปี ลดเหลือ 4 ปี 8 เดือน รอลงโทษ 2 ปี • ศาลอุทธรณ์: เห็นว่าเป็นฆ่าโดยเจตนา จำคุก 15 ปี ลดเหลือ 7 ปี 6 เดือน ไม่รอลงโทษ • ศาลฎีกา: ยืนยันว่าเป็นฆ่าโดยบันดาลโทสะ ลงโทษ 3 ปี 6 เดือน ปรับ 1,000 บาท รอลงโทษ 2 ปี ประเด็นกฎหมาย 1. เหตุบันดาลโทสะ (ป.อ. ม.72): การลักทรัพย์และหนีสร้างโทสะต่อเนื่อง 2. สิทธิผู้ดูแลทรัพย์ (ป.วิ.อ. ม.79): มีสิทธิติดตามจับกุมผู้กระทำผิด 3. พกพาอาวุธปืน: การเดินทางจากบ้านไปสวนถือว่าผ่านทางสาธารณะ 4. การบรรเทาโทษ: จำเลยชดใช้ค่าเสียหาย ผู้เสียหายให้อภัย ศาลรอการลงโทษ สรุปข้อคิด คำพิพากษานี้ชี้ว่า “บันดาลโทสะ” สามารถลดโทษจากฆ่าโดยเจตนาได้ การพกพาปืนรวมถึงการเดินทางผ่านทางสาธารณะ และการชดใช้พร้อมการให้อภัยมีผลต่อการรอการลงโทษ
Quick Summary คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2952/2567 คดีนี้เกี่ยวกับความผิดฐาน ฆ่าผู้อื่นโดยบันดาลโทสะ และ พกพาอาวุธในที่สาธารณะ ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ความผิดทั้งสองฐาน ไม่ใช่ความผิดต่อส่วนตัว แม้จำเลยจะชดใช้ค่าสินไหมให้ครอบครัวผู้ตายและผู้เสียหายไม่ติดใจเอาความ แต่การยอมความมีผลเฉพาะ ระงับสิทธิเรียกค่าสินไหมทางแพ่ง เท่านั้น ไม่กระทบสิทธิในการดำเนินคดีอาญา
ศาลยังย้ำหลักการตาม ป.วิ.อ. มาตรา 195 วรรคสอง และมาตรา 225 ที่ให้อำนาจศาลฎีกายกข้อกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยขึ้นวินิจฉัยเองได้ โดยเห็นว่าศาลล่างกำหนดโทษจำคุก 15 ปีหนักเกินไป จึงแก้ไขลงโทษจำคุกจำเลยที่ 1 เหลือ 4 ปี 3 เดือน และปรับ 500 บาท
|
หน้า 1/1 1 | [Go to top] |