ติดต่อเรา โทร. 085-9604258
ตาม ป.พ.พ.มาตรา 193/9 ที่บัญญัติว่า “สิทธิเรียกร้องใดๆ ถ้ามิได้บังคับภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด สิทธิเรียกร้องนั้นเป็นอันขาดอายุความ” และมาตรา 193/10 “สิทธิเรียกร้องที่ขาดอายุความ ลูกหนี้มีสิทธิที่จะปฏิเสธการชำระหนี้ตามสิทธิเรียกร้องนั้นได้” อายุความเป็นเรื่องที่มีความสำคัญเนื่องจากมีผลกระทบถึงสิทธิในการดำเนินคดีในทางกฎหมายไม่ว่าในทางคดีแพ่ง หรือในคดีอาญา โดยในทางแพ่งหากเจ้าหนี้ไม่ใช้สิทธิเรียกร้องภายในกำหนดอายุความ ลูกหนี้ย่อมปฏิเสธการชำระหนี้ได้ ส่วนในทางอาญาถ้าไม่ได้ตัวผู้กระทำความผิดมาฟ้องภายในกำหนดอายุความสิทธินำคดีอาญามาฟ้องระงับ ย่อมไม่อาจนำตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษได้ ด้วยความสำคัญดังที่กล่าวมานั้น จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องทำความเข้าใจในเรื่องนี้ให้ชัดเจน โดยต้องเข้าใจคำว่า "อายุความ" หมายความว่าอย่างไร ทำไมต้องกำหนดอายุความไว้ด้วย ในแต่ละคดีมีกรณีแตกต่างกันอย่างไร และอายุคววามจะมีผลกระทบกับสิทธิและหน้าที่ในทางกฎหมายอย่างไร ความหมายเรื่องอายุความ เรื่องอายุความนั้นโดยสรุปแล้วก็คือระยะเวลาที่กฎหมายในทางสารบัญญัติกำหนดให้ผู้ที่เกี่ยวข้องต้องดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่ง มิฉะนั้นจะเกิดความเสียหายแก่สิทธิของผู้นั้นหรือทำให้ไม่อาจดำเนินการเพื่อให้บรรลุผลตามที่กฎหมายมุ่งประสงค์ซึ่งสามารถพิจารณาได้ดังนี้คือ 1. ในทางแพ่ง อายุความคือระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดให้ใช้สิทธิเรียกร้องทางศาลหรือระยะเวลาที่กฎหมายบังคับผู้ทรงสิทธิเรียกร้องให้ต้องฟ้องคดีต่อศาล หากไม่ดำเนินการตามที่กำหนดอาจจะเกิดความเสียหายแก่เจ้าของสิทธิได้ คือมีผลให้ "สิทธิเรียกร้องขาดอายุความ" มาตรา 193/9 ที่บัญญัติว่า “สิทธิเรียกร้องใดๆ ถ้ามิได้บังคับภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด สิทธิเรียกร้องนั้นเป็นอันขาดอายุความ” และยังหมายรวมถึงระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดไว้ให้ผู้ที่ดำเนินการตามเงื่อนไขจนครบระยะเวลาดังกล่าวได้สิทธิอย่างใดอย่างหนึ่งด้วย สำหรับอายุความในทางแพ่งนั้นมีได้ 2 ประเภทกล่าวคือ "อายุความเสียสิทธิ" และ "อายุความได้สิทธิ" อายุความเสียสิทธิ คืออายุความที่กฎหมาย กำหนดให้ผู้ทรงสิทธิบังคับใช้สิทธิ เรียกร้อง หากไม่ดำเนินการภายในกำหนดเช่นนั้นจะทำให้เกิดผลเสียหายแก่ผู้ทรงสิทธิได้หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งได้ว่าเป็นกำหนดเวลาที่ทำให้สิทธิเรียกร้องขาดสิทธิฟ้องร้องโดยต้องเข้าใจว่าอายุความเสียสิทธินี้คือสิทธิเรียกร้องที่ต้องยื่นฟ้องคดีต่อศาล ไม่ใช่ระยะเวลาที่กำหนดไว้ให้เรียกร้องทวงหนี้ แก่ลูกหนี้แต่อย่างใด เช่นสิทธิเรียกร้องค่าเสียหาย อันเกิดแต่มูลละเมิดมีกำหนดอายุความ 1 ปีนับแต่วันที่ผู้ต้องเสียหายรู้ถึงการละเมิดและรู้ตัวผู้ที่จะพึงใช้ค่าสินไหมทดแทนหรือ 10 ปีนับแต่วันทำละเมิด มาตรา 448 วรรคหนึ่ง ผู้ต้องเสียหายซึ่งเป็นเจ้าหนี้ต้องฟ้องร้องลูกหนี้ต่อศาลภายในกำหนดระยะเวลาดังกล่าว มิฉะนั้นสิทธเรียกร้องย่อมเป็นอันขาดอายุความ และกรณีที่คดีขาดอายุความหากลูกหนี้ยกเรื่องอายุความขึ้นเป็นข้อต่อสู้ ตัดฟ้องซึ่งเรื่องคดีขาดอายุความหรือ ไม่ ในทางแพ่งไม่ใช่ข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลยกขึ้นพิจารณาเองไม่ได้ ถ้าคดีขาดอายุความศาลก็ต้องพิพากษายกฟ้อง มาตรา 448 สิทธิเรียกร้องค่าเสียหายอันเกิดแต่มูลละเมิดนั้น ท่านว่าขาดอายุความเมื่อพ้นปีหนึ่งนับแต่วันที่ผู้ต้องเสียหายรู้ถึงการละเมิดและรู้ตัวผู้จะพึงต้องใช้ค่าสินไหมทดแทน หรือเมื่อพ้นสิบปีนับแต่วันทำละเมิด
-Line Official Account : เพิ่มเพื่อนด้วย QR CODE |
หน้า 1/1 1 | [Go to top] |