
ติดต่อเรา โทร. 085-9604258
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3306/2567 บทนำ คำพิพากษาศาลฎีกานี้เกี่ยวกับการเลิกจ้างผู้จัดการภาคที่ปรับเงินผู้ใต้บังคับบัญชาโดยไม่มีบัญญัติในข้อบังคับการทำงาน ศาลวินิจฉัยว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการฝ่าฝืนแต่ไม่ใช่กรณีร้ายแรง เนื่องจากไม่มีหลักฐานทุจริต และการเลิกจ้างโดยไม่เคยตักเตือนเป็นหนังสือมาก่อน จึงต้องชำระค่าชดเชยและค่าจ้างวันหยุดพักผ่อนตามกฎหมายแรงงาน
ข้อเท็จจริงโดยสรุป • โจทก์ทำงานตั้งแต่ปี 2546 เลิกจ้างในปี 2563 ด้วยข้อกล่าวหาปรับเงินลูกน้อง • ศาลแรงงานกลางสั่งให้จำเลยจ่ายค่าชดเชยบางส่วน • ศาลอุทธรณ์เห็นว่าเป็นกรณีร้ายแรง ไม่ต้องชดเชย • ศาลฎีกากลับวินิจฉัยว่าไม่ใช่กรณีร้ายแรง และต้องจ่ายค่าชดเชยพร้อมสิทธิวันหยุดพักผ่อน
คำวินิจฉัยของศาลฎีกา 1. การฝ่าฝืนข้อบังคับ o การปรับเงินเป็นการฝ่าฝืน แต่ไม่มีการหาประโยชน์ส่วนตน 2. การเลิกจ้างและค่าชดเชย o การเลิกจ้างโดยไม่ตักเตือน ไม่เข้าข่าย ม.119 o จำเลยต้องจ่ายค่าชดเชย 838,950 บาท พร้อมดอกเบี้ย 15% 3. สิทธิวันหยุดพักผ่อน o โจทก์เหลือ 1.5 วัน ได้รับค่าจ้าง 4,194.75 บาท พร้อมดอกเบี้ย การวิเคราะห์กฎหมาย • หากการกระทำไม่ร้ายแรงจนถึงขั้นเลิกจ้างทันที นายจ้างต้องตักเตือนก่อน • การตีความ “กรณีร้ายแรง” ต้องพิจารณาพฤติการณ์และผลกระทบ ไม่ใช่แค่การฝ่าฝืนข้อบังคับ • ลูกจ้างยังมีสิทธิวันหยุดพักผ่อนและค่าจ้าง แม้ถูกเลิกจ้าง
English Summary The Supreme Court Decision No. 3306/2567 ruled that imposing fines on subordinates, though a breach of regulations, was not a serious offense as there was no personal gain. Since the dismissal occurred without prior written warning, the employer was ordered to pay compensation, unused annual leave, and statutory interest.
|
หน้า 1/1 1 | [Go to top] |