
ติดต่อเรา โทร. 085-9604258
(อ่าน)คำพิพากษาศาลฎีกา 928/2568 ศาลวินิจฉัยข้อพิพาทจากสัญญาประนีประนอม โจทก์และจำเลยตกลงโอนที่ดินและชำระเงิน 40,000 บาท แต่ไม่ได้กำหนดเรื่องรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง ต่อมาโจทก์ขอบังคับรื้อถอน ศาลชั้นต้นยกคำร้อง ศาลอุทธรณ์กลับให้บังคับได้ จำเลยฎีกา ศาลฎีกาเห็นว่าตามมาตรา 852 สิทธิที่ไม่ระบุในสัญญาถือว่าสละแล้ว โจทก์จึงไม่มีสิทธิรื้อถอน ทำได้เพียงบังคับโอนที่ดินและเรียกหนี้เงิน พร้อมแก้ไขค่าฤชาธรรมเนียมตามกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3237/2567 บทนำ คำพิพากษาศาลฎีกานี้มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับการไกล่เกลี่ยและสัญญาประนีประนอมยอมความ โดยคู่ความตกลงถอนฟ้องและถอนฟ้องแย้ง ศาลวินิจฉัยว่าข้อตกลงดังกล่าวเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความตาม ป.พ.พ. มาตรา 850 และ 852 ส่งผลให้ข้อพิพาทสิ้นสุดและโจทก์ไม่มีสิทธิฟ้องซ้ำ
ข้อเท็จจริง • โจทก์ทำสัญญาซื้อขายที่ดินกับจำเลย แต่ไม่สามารถสร้างโรงงานได้ • โจทก์ฟ้องขอให้โอนที่ดินคืน ต่อมามีการไกล่เกลี่ย • คู่ความตกลงขายที่ดินไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาท หากขายไม่ได้จำเลยที่ 2 จะซื้อเอง และรับรองว่าโจทก์จะได้รับไม่น้อยกว่า 8.5 ล้านบาท • ทั้งสองฝ่ายถอนฟ้องและศาลจำหน่ายคดี แต่โจทก์กลับมายื่นฟ้องใหม่ คำวินิจฉัย • การถอนฟ้องพร้อมข้อตกลงดังกล่าวถือเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความตามมาตรา 850 • ผลทำให้สิทธิเรียกร้องเดิมสิ้นสุดตามมาตรา 852 • โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องใหม่ ศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ให้ยกฟ้อง วิเคราะห์กฎหมาย 1. สัญญาประนีประนอมยอมความ – เป็นการยอมผ่อนผันเพื่อระงับข้อพิพาท 2. ผลของการถอนฟ้อง – มีผลผูกพันคู่ความ ไม่สามารถฟ้องซ้ำ 3. มาตรา 850 และ 852 – กำหนดให้การสละสิทธิเรียกร้องเป็นที่สิ้นสุด
English Summary The Supreme Court Decision No. 3237/2024 held that a settlement reached in mediation and followed by withdrawal of claims constituted a binding compromise under Sections 850 and 852 of the Civil and Commercial Code. The dispute was extinguished, and the plaintiff could not re-file the case. |
หน้า 1/1 1 | [Go to top] |