
ค่าเลี้ยงดูบุตร & เพิกถอนโอนทรัพย์(ฎีกา 6926/2560) ยินดีให้คำปรึกษากฎหมายแชทไลน์ ข้อพิพาทเกิดหลังการหย่า คู่สมรสทำสัญญาหย่ากำหนดให้บิดาชำระค่าอุปการะเลี้ยงดูและค่าเล่าเรียนจนจบปริญญาตรี และกำหนดการแบ่งทรัพย์สินว่า บ้านพร้อมที่ดินเป็นทรัพย์ร่วม ส่วนของบิดาหลังเสียชีวิตตกแก่บุตร ต่อมาบิดาโอนส่วนของตนให้บุคคลภายนอกโดยเสน่หา มารดาฟ้องเรียกค่าเลี้ยงดู ค่าการศึกษา และเพิกถอนการโอน ศาลวินิจฉัยว่า ข้อตกลงหย่าเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความและมีคำมั่นที่ก่อหนี้แก่บุคคลภายนอกคือบุตร จึงเป็น “สัญญาเพื่อประโยชน์บุคคลภายนอก” ไม่ใช่พินัยกรรม เมื่อผู้เป็นบิดาโอนทรัพย์ให้ผู้อื่นโดยเสน่หาเพื่อหลีกเลี่ยงภาระที่ตกแก่บุตร ย่อมมีเหตุเพิกถอนนิติกรรมเพื่อให้กลับสู่สถานะเดิม และบังคับตามข้อตกลงได้ นอกจากนี้ ข้อโต้แย้งเรื่องค่าเลี้ยงดูซึ่งทุนทรัพย์พิพาทต่ำกว่าเกณฑ์เป็นเพียงปัญหาข้อเท็จจริง จึงต้องห้ามยกขึ้นฎีกา ศาลชั้นต้นและอุทธรณ์มีคำพิพากษาให้ชำระหนี้ค่าเลี้ยงดูและยกเลิกการโอน ศาลสูงสุดเห็นพ้อง วางหลักว่า 1) ข้อตกลงหย่าที่มุ่งให้ประโยชน์แก่บุตรย่อมผูกพันคู่สัญญาและคุ้มครองบุตร 2) การโอนทรัพย์เพื่อหลบภาระ สามารถเพิกถอนได้ และ 3) คดีครอบครัวยังต้องถือเกณฑ์ทุนทรัพย์ในการอุทธรณ์/ฎีกาเมื่อเป็นปัญหาข้อเท็จจริง(อ่านคำพิพากษาศาลฎีกาฉบับเต็ม) คำพิพากษาศาลฎีกา, 6926/2560 กฎหมายที่ใช้หลักในการวินิจฉัย 1. ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 374 – สัญญาเพื่อประโยชน์บุคคลภายนอก 2. ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 850 – สัญญาประนีประนอมยอมความ 3. ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 วรรคหนึ่ง – ห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง หากทุนทรัพย์ไม่ถึงเกณฑ์ 4. พระราชบัญญัติศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ. 2553 มาตรา 6 – ขอบเขตการพิจารณาของศาล 5. หลักทั่วไปว่าด้วย การเพิกถอนนิติกรรม เมื่อคู่สัญญาหลีกเลี่ยงการปฏิบัติหน้าที่ที่ตกลงไว้ Keywords ที่เป็นแก่นคดี 1. สัญญาเพื่อประโยชน์บุคคลภายนอก (ป.พ.พ. มาตรา 374) o ข้อตกลงหย่าที่ให้บุตรได้รับทรัพย์เมื่อบิดาเสียชีวิตเป็นสัญญาที่ก่อหนี้แก่บุคคลภายนอก ไม่ใช่พินัยกรรม 2. การเพิกถอนนิติกรรมโอนทรัพย์สิน o การโอนบ้านและที่ดินให้บุคคลภายนอกโดยเสน่หา เป็นการหลีกเลี่ยงหนี้ที่มีต่อบุตร จึงเพิกถอนได้ 3. สัญญาประนีประนอมยอมความ (ป.พ.พ. มาตรา 850) o ข้อตกลงหย่าเป็นการระงับข้อพิพาทเรื่องบุตรและสินสมรส โดยต่างฝ่ายยอมผ่อนปรน 4. ข้อห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง (ป.วิ.พ. มาตรา 248) o คดีค่าเลี้ยงดูมูลค่าต่ำกว่า 200,000 บาท ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยข้อเท็จจริง 5. สิทธิฟ้องของคู่สัญญา o มารดาในฐานะคู่สัญญาในสัญญาหย่า มีสิทธิฟ้องบังคับและเพิกถอนนิติกรรม เพื่อคุ้มครองสิทธิของบุตร สรุป: คดีนี้เด่นที่การตีความ สัญญาหย่า ว่าเป็นสัญญาเพื่อประโยชน์บุคคลภายนอก ไม่ใช่พินัยกรรม จึงบังคับได้จริง และหากคู่สัญญาพยายามโอนทรัพย์หลีกเลี่ยงภาระ ย่อมถูกเพิกถอนได้ ขณะเดียวกัน ศาลย้ำหลักข้อจำกัดการฎีกาเมื่อทุนทรัพย์ต่ำกว่าเกณฑ์
1. ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 374 – สัญญาเพื่อประโยชน์บุคคลภายนอก • หลักการ: หากบุคคลสองฝ่ายทำสัญญากัน และในสัญญานั้นกำหนดให้บุคคลภายนอกได้รับสิทธิหรือประโยชน์โดยตรง บุคคลภายนอกมีสิทธิที่จะเรียกร้องบังคับตามสัญญาได้ แม้จะไม่ได้เป็นคู่สัญญาเอง • ตัวอย่างฎีกา: o คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2751/2539 วินิจฉัยว่า เมื่อคู่สัญญาทำสัญญาประกันชีวิตกำหนดให้ผู้เอาประโยชน์เป็นบุคคลภายนอก บุคคลดังกล่าวมีสิทธิโดยตรงที่จะได้รับเงินผลประโยชน์ตามกรมธรรม์ ถือเป็นสัญญาเพื่อประโยชน์บุคคลภายนอก (อ้างอิง: ฎีกาที่ 2751/2539, ประมวลคำพิพากษาศาลฎีกา ปี 2539)
2. ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 850 – สัญญาประนีประนอมยอมความ • หลักการ: เมื่อคู่กรณีตกลงกันยุติข้อพิพาทด้วยการต่างฝ่ายต่างยอมผ่อนปรน สัญญาดังกล่าวย่อมมีผลผูกพันและไม่สามารถกลับมาฟ้องเรียกร้องในเรื่องเดียวกันได้อีก เว้นแต่พิสูจน์ได้ว่ามีเหตุให้เป็นโมฆะ เช่น ถูกบังคับ ขู่เข็ญ หรือฝ่าฝืนกฎหมาย • ตัวอย่างฎีกา: o คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4624/2540 ศาลวินิจฉัยว่าการที่คู่กรณีตกลงแบ่งทรัพย์สินกันเพื่อระงับข้อพิพาท ถือเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความตามมาตรา 850 แม้จะไม่เป็นไปตามแบบของพินัยกรรมก็ตาม ย่อมมีผลบังคับได้ (อ้างอิง: ฎีกาที่ 4624/2540, ประมวลคำพิพากษาศาลฎีกา ปี 2540)
3. ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 วรรคหนึ่ง – ห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง หากทุนทรัพย์ไม่ถึงเกณฑ์ • หลักการ: หากทุนทรัพย์ที่เป็นข้อพิพาทไม่เกิน 200,000 บาท คู่ความจะฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้ (ยกเว้นบางประเภท เช่น คดีสิทธิครอบครัวหรือสถานะบุคคล) • ตัวอย่างฎีกา: o คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3532/2541 ศาลไม่รับฎีกาของจำเลยเพราะทุนทรัพย์พิพาทต่ำกว่า 200,000 บาท ถือว่าต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
4. พระราชบัญญัติศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ. 2553 มาตรา 6 – ขอบเขตการพิจารณาของศาล • หลักการ: กำหนดให้ศาลเยาวชนและครอบครัวมีเขตอำนาจพิจารณาคดีเกี่ยวกับสถานะบุคคล ครอบครัว สิทธิการปกครองบุตร ค่าอุปการะเลี้ยงดู การเพิกถอนอำนาจปกครอง รวมทั้งคดีที่กฎหมายกำหนดไว้โดยเฉพาะ • ตัวอย่างฎีกา: o คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2330/2557 ศาลวินิจฉัยว่าคดีขออำนาจปกครองบุตรและค่าเลี้ยงดูอยู่ในอำนาจศาลเยาวชนและครอบครัวตามมาตรา 6
5. หลักทั่วไปว่าด้วย การเพิกถอนนิติกรรม เมื่อคู่สัญญาหลีกเลี่ยงการปฏิบัติหน้าที่ที่ตกลงไว้ • หลักการ: หากนิติกรรมมีวัตถุประสงค์เพื่อหลีกเลี่ยงการชำระหนี้ หรือทำให้บุคคลภายนอกที่ควรได้รับสิทธิเสียเปรียบ ผู้เสียหายมีสิทธิฟ้องเพิกถอนได้ เพื่อให้ทรัพย์กลับคืนสู่ฐานะเดิมและบังคับตามสัญญาหรือสิทธิที่ตนมี • ตัวอย่างฎีกา: o คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8084/2547 ศาลวินิจฉัยว่าการโอนทรัพย์ให้บุคคลใกล้ชิดโดยเสน่หา ทั้งที่มีหนี้อยู่ ถือเป็นการกระทำเพื่อหลีกเลี่ยงการชำระหนี้ เจ้าหนี้ย่อมมีสิทธิฟ้องเพิกถอนได้ ✨ สรุป: • มาตรา 374 และมาตรา 850 → เน้นเรื่อง “สัญญาที่ให้ประโยชน์แก่บุคคลอื่น” และ “ยุติข้อพิพาทโดยสัญญา” • มาตรา 248 และมาตรา 6 → กำหนดข้อจำกัดการฎีกาและอำนาจศาลเยาวชนและครอบครัว • หลักเพิกถอนนิติกรรม → ใช้เมื่อมีการโอนทรัพย์เพื่อตัดสิทธิหรือหลบเลี่ยงหนี้ |
![]() |