ที่นาตา-ยาย ได้ปลูกข้าวมาหลายสิบปี แต่ยังไม่ได้โอนเป็นชื่อของตา-ยาย | |
ที่นาตา-ยาย ได้ปลูกข้าวมาหลายสิบปี แต่ยังไม่ได้โอนเป็นชื่อของตา-ยาย และได้ทำสัญญาซื่อ-ขาย กันและกัน เมื่อเวลาผ่านไปนานแสนนาน เอกสารการซื้อขายได้หายไป และผู้ขายได้เสียชีวิตลงและได้มอบอำนาจให้ลูกชายเป็นผู้จัดการมรดก ซึ่งได้บอกลูกชายว่าที่ดินแปลงนี้ได้ขายให้ตา-ยายไปแล้ว แต่ตา-ยายยังไม่มีเงินที่จะไปโอนเป็นกรรมสิทธิ์ของตัวเอง เมื่อลูกชายของผู้ตายได้เป็นผู้จัดการมรดกจึงนำโฉนดที่ดินแปลงนี้ไปกู้เงินกับธนาคาร โดยที่ตา-ยายไม่รู้ แล้วแบบนี้ตา-ยาย จะยังมีสิทธิในที่ดิน-ที่นาที่ตา-ยายได้ทำมาหากินปลูกข้าวกินหรือไม่ค่ะ ได้โปรดชี้แจง ช่องทางที่จะได้คืนที่นาของตา-ยายด้วยค่ะ จะเป็นพระคุณอย่างยิ่ง | |
ผู้ตั้งกระทู้ หลานยาย :: วันที่ลงประกาศ 2011-08-29 19:18:39 |
[1] |
ความคิดเห็นที่ 1 (2221778) | |
การซื้อขายที่ดินที่ไม่ได้ทำเป็นหนังสือและนำไปจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ที่สำนักงานที่ดินย่อมเป็นโมฆะ หมายความว่า การซื้อขายที่นานั้นเป็นโมฆะใช้บังคับกันไม่ได้ แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อผู้ขายได้ส่งมอบการครอบครองให้แก่ผู้ซื้อเข้าทำประโยชน์แล้วย่อมเป็นการที่ผู้ขายสละการครอบครองแล้ว เมื่อผู้ซื้อได้ครอบครองที่นาด้วยความสงบและโดยเปิดเผยด้วยเจตนาอย่างเป็นเจ้าของ เป็นเวลา 10 ปี ก็ได้กรรมสิทธิ์โดยการครอบครองปรปักษ์แล้วครับ มาตรา 456 การซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ ถ้ามิได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่เป็นโมฆะ วิธีนี้ให้ใช้ถึงซื้อขายเรือมีระวางตั้งแต่ห้าตันขึ้นไป ทั้งซื้อขายแพและสัตว์พาหนะด้วย มาตรา 1382 บุคคลใดครอบครองทรัพย์สินของผู้อื่นไว้โดยความสงบ และโดยเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของ ถ้าเป็นอสังหาริมทรัพย์ได้ครอบ ครองติดต่อกันเป็นเวลาสิบปี ถ้าเป็นสังหาริมทรัพย์ได้ครอบครองติดต่อกัน เป็นเวลาห้าปีไซร้ ท่านว่าบุคคลนั้นได้กรรมสิทธิ์
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น ทนายความลีนนท์ วันที่ตอบ 2011-10-01 21:58:53 |
ความคิดเห็นที่ 2 (2221783) | |
ผู้ขายสละการครอบครอง ผู้ซื้ออ้างครอบครองปรปักษ์ได้
การพิสูจน์การครอบครองปรปักษ์ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น * วันที่ตอบ 2011-10-01 22:14:30 |
[1] |