
1. court ruling – คำวินิจฉัยของศาล The court ruling made it clear that the law must protect employees. This decision became an important reference for future cases. • Literal: คำวินิจฉัยของศาลทำให้ชัดเจนว่ากฎหมายต้องคุ้มครองลูกจ้าง คำตัดสินนี้กลายเป็นบรรทัดฐานสำคัญสำหรับคดีในอนาคต • Natural: ศาลตัดสินชัดเจนว่ากฎหมายต้องยืนข้างลูกจ้าง คำพิพากษานี้กลายเป็นตัวอย่างที่ใช้ยึดถือในคดีต่อ ๆ ไป
2. legal obligation – หน้าที่ตามกฎหมาย Employers have a legal obligation to pay wages during suspension. Ignoring this duty can lead to serious penalties. • Literal: นายจ้างมีหน้าที่ตามกฎหมายที่จะต้องจ่ายค่าจ้างในระหว่างหยุดงาน การละเลยหน้าที่นี้อาจนำไปสู่โทษร้ายแรง • Natural: นายจ้างมีหน้าที่ตามกฎหมายต้องจ่ายเงินเดือนตอนหยุดกิจการ ถ้าไม่ทำอาจถูกลงโทษหนักได้
3. employee rights – สิทธิของลูกจ้าง The case highlighted the importance of employee rights in labor disputes. Workers felt more secure knowing the law was on their side. • Literal: คดีนี้เน้นความสำคัญของสิทธิของลูกจ้างในการพิพาทแรงงาน ลูกจ้างรู้สึกมั่นคงมากขึ้นเมื่อรู้ว่ากฎหมายอยู่ข้างตน • Natural: คดีนี้แสดงให้เห็นว่าสิทธิของลูกจ้างสำคัญมากในข้อพิพาทแรงงาน คนงานรู้สึกอุ่นใจเพราะกฎหมายคุ้มครองพวกเขา
4. fairness – ความเป็นธรรม The court focused on fairness for both employers and employees. It wanted to balance the interests of both sides. • Literal: ศาลมุ่งเน้นความเป็นธรรมต่อทั้งนายจ้างและลูกจ้าง ศาลต้องการสร้างความสมดุลในผลประโยชน์ของทั้งสองฝ่าย • Natural: ศาลให้ความสำคัญกับความยุติธรรมของทั้งสองฝ่าย พยายามหาทางให้ทั้งนายจ้างและลูกจ้างได้ประโยชน์เท่า ๆ กัน
5. legal interpretation – การตีความกฎหมาย The judge gave a legal interpretation of Section 75. His explanation helped resolve the dispute. • Literal: ผู้พิพากษาได้ให้การตีความกฎหมายมาตรา 75 คำอธิบายของเขาช่วยแก้ไขข้อพิพาท • Natural: ผู้พิพากษาอธิบายความหมายของมาตรา 75 ตามกฎหมาย คำอธิบายนี้ช่วยทำให้ปัญหาคลี่คลาย
6. precedent – บรรทัดฐาน (คำพิพากษาก่อนหน้า) This case set a precedent for similar disputes in the future. Lawyers now often cite it in their arguments. • Literal: คดีนี้ได้สร้างบรรทัดฐานสำหรับข้อพิพาทที่คล้ายกันในอนาคต ทนายความมักจะอ้างอิงคำพิพากษานี้ในการโต้แย้ง • Natural: คดีนี้กลายเป็นตัวอย่างที่ใช้ยึดถือในคดีแรงงานต่อ ๆ ไป ทุกวันนี้ทนายชอบหยิบขึ้นมาอ้างในศาล
7. compensation – ค่าชดเชย The workers asked for compensation because of lost income. The court agreed that they deserved financial support. • Literal: ลูกจ้างขอค่าชดเชยเนื่องจากรายได้ที่หายไป ศาลเห็นว่าพวกเขาสมควรได้รับการช่วยเหลือทางการเงิน • Natural: ลูกจ้างเรียกค่าชดเชยเพราะเสียรายได้ ศาลก็ตัดสินว่าเขาควรได้เงินช่วยเหลือ
8. dispute – ข้อพิพาท The dispute was mainly about whether the suspension was lawful. Both sides presented strong arguments in court. • Literal: ข้อพิพาทนี้เกี่ยวกับว่าการหยุดงานนั้นชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ทั้งสองฝ่ายได้นำเสนอข้อโต้แย้งที่หนักแน่นในศาล • Natural: ข้อพิพาทนี้เถียงกันว่า การหยุดงานถูกกฎหมายหรือเปล่า ทั้งสองฝ่ายก็สู้กันเต็มที่ในศาล
9. justice – ความยุติธรรม The court aimed to deliver justice for both sides. Its decision showed that no one was above the law. • Literal: ศาลตั้งเป้าที่จะส่งมอบความยุติธรรมให้แก่ทั้งสองฝ่าย คำพิพากษาของศาลแสดงให้เห็นว่าไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมาย • Natural: ศาลตั้งใจตัดสินอย่างยุติธรรมกับทุกฝ่าย คำตัดสินนี้ชี้ว่าทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎหมายเหมือนกัน
10. enforceable – สามารถบังคับใช้ได้ The court’s decision was enforceable under labor law. This meant employers had no choice but to follow it. • Literal: คำพิพากษาของศาลสามารถบังคับใช้ได้ตามกฎหมายแรงงาน ซึ่งหมายความว่านายจ้างไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องปฏิบัติตาม • Natural: คำตัดสินศาลบังคับใช้ได้จริงตามกฎหมายแรงงาน นายจ้างจึงต้องทำตามไม่มีข้ออ้าง
1. addressed – พิจารณา, วินิจฉัยประเด็น The judge addressed the main question before anything else. He wanted to make sure the case stayed on track. • Literal: ผู้พิพากษาได้พิจารณาประเด็นหลักก่อนสิ่งอื่นใด เขาต้องการให้แน่ใจว่าคดีดำเนินไปตามแนวทาง • Natural: ผู้พิพากษาหยิบประเด็นสำคัญขึ้นมาพิจารณาก่อน เพื่อไม่ให้คดีหลงประเด็น
2. contracts – สัญญา Many workers signed short-term contracts with the company. They knew the agreements would end after one year. • Literal: คนงานหลายคนได้ลงนามในสัญญาระยะสั้นกับบริษัท พวกเขารู้ว่าข้อตกลงจะสิ้นสุดหลังจากหนึ่งปี • Natural: คนงานหลายคนเซ็นสัญญาระยะสั้นกับบริษัท เพราะรู้ว่าอีกปีเดียวก็หมดสัญญา
3. contractors – ผู้รับเหมา The government hired contractors to repair the old bridge. Local people were glad because it had been unsafe for years. • Literal: รัฐบาลว่าจ้างผู้รับเหมามาซ่อมสะพานเก่า ชาวบ้านรู้สึกดีใจเพราะมันไม่ปลอดภัยมาหลายปีแล้ว • Natural: รัฐจ้างผู้รับเหมามาซ่อมสะพาน ชาวบ้านโล่งใจเพราะสะพานนั้นอันตรายมานาน
4. claim – อ้างสิทธิ, เรียกร้อง She decided to claim compensation after the accident. Her lawyer helped her prepare the documents. • Literal: เธอตัดสินใจอ้างสิทธิเรียกร้องค่าชดเชยหลังจากเกิดอุบัติเหตุ ทนายความของเธอช่วยเตรียมเอกสาร • Natural: เธอตัดสินใจยื่นเรื่องขอค่าชดเชยหลังอุบัติเหตุ โดยมีทนายช่วยจัดการเอกสาร
5. continuous – ต่อเนื่อง, ไม่ขาดตอน The continuous rain caused flooding in the city. Residents had to move their belongings to higher ground. • Literal: ฝนที่ตกอย่างต่อเนื่องทำให้เกิดน้ำท่วมในเมือง ชาวบ้านต้องย้ายข้าวของไปที่สูง • Natural: ฝนตกไม่หยุดทำให้เมืองน้ำท่วม ชาวบ้านต้องรีบย้ายของขึ้นที่สูง
6. severance pay – ค่าชดเชยเลิกจ้าง When the store closed, all employees received severance pay. Still, some workers worried about finding new jobs. • Literal: เมื่อร้านปิด พนักงานทุกคนได้รับค่าชดเชยเลิกจ้าง แต่พนักงานบางคนกังวลเกี่ยวกับการหางานใหม่ • Natural: ร้านปิดก็จ่ายค่าชดเชยให้ทุกคน แต่หลายคนยังห่วงว่าจะหางานใหม่ได้ไหม
7. ruled – วินิจฉัย, มีคำพิพากษา The Supreme Court ruled that the contract was invalid. Both parties had to renegotiate their agreement. • Literal: ศาลฎีกามีคำพิพากษาว่าสัญญาเป็นโมฆะ คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายต้องเจรจาข้อตกลงกันใหม่ • Natural: ศาลฎีกาตัดสินว่าสัญญาใช้ไม่ได้ สองฝ่ายเลยต้องมาเจรจากันใหม่
8. explicitly – อย่างชัดแจ้ง The teacher explicitly told the students not to cheat. She repeated the rule many times before the test. • Literal: ครูบอกนักเรียนอย่างชัดแจ้งว่าอย่าทุจริต เธอทวนกฎซ้ำหลายครั้งก่อนสอบ • Natural: ครูสั่งแบบชัด ๆ ว่าห้ามโกง และพูดซ้ำหลายรอบก่อนสอบ
9. mandated – กำหนดโดยกฎหมาย/ข้อบังคับ The safety training was mandated by the company. Every employee had to attend before starting work. • Literal: การอบรมด้านความปลอดภัยถูกกำหนดโดยบริษัท พนักงานทุกคนต้องเข้าร่วมก่อนเริ่มงาน • Natural: บริษัทบังคับให้อบรมความปลอดภัยก่อนเริ่มงาน ทุกคนต้องไปเข้าร่วม
10. independently – โดยอิสระ, แยกจากกัน The two groups worked independently on different parts of the project. Later, they combined their results for the final report. • Literal: กลุ่มทั้งสองทำงานอย่างอิสระในส่วนต่าง ๆ ของโครงการ ต่อมาพวกเขารวมผลการทำงานเพื่อจัดทำรายงานสุดท้าย
• Natural: สองกลุ่มทำงานแยกกันคนละส่วน แล้วค่อยมารวมผลงานเป็นรายงานสุดท้าย" ![]() 10 คำศัพท์กฎหมายที่น่าสนใจ
1. classified – จัดว่าเป็น, จัดประเภท
The evidence was classified as top secret to protect the witness.
This prevented outsiders from knowing sensitive details.
• Literal: หลักฐานถูก จัดว่าเป็น ความลับสูงสุดเพื่อปกป้องพยาน
สิ่งนี้ป้องกันไม่ให้คนนอกทราบรายละเอียดที่อ่อนไหว
• Natural: ศาล จัดว่าหลักฐานนี้เป็นความลับสุดยอด เพื่อคุ้มครองพยาน
เลยไม่มีคนนอกได้รู้เรื่องละเอียดอ่อนพวกนี้
2. confidential – ลับ, เก็บเป็นความลับ
The settlement terms were kept confidential between the two parties.
Neither side wanted the public to know the amount of money involved.
• Literal: เงื่อนไขการประนีประนอมถูกเก็บไว้เป็น ความลับ ระหว่างคู่กรณีทั้งสองฝ่าย
ไม่มีฝ่ายใดต้องการให้สาธารณะรู้จำนวนเงินที่เกี่ยวข้อง
• Natural: ข้อตกลงยอมความถูกเก็บ เป็นความลับ ระหว่างคู่ความ
ไม่มีฝ่ายไหนอยากให้คนทั่วไปทราบว่าเป็นเงินเท่าไร
3. favorable – เป็นคุณ, เป็นประโยชน์
The judge received a favorable recommendation from the probation officer.
It increased the chance of a lighter sentence for the defendant.
• Literal: ผู้พิพากษาได้รับคำแนะนำที่เป็น คุณ จากพนักงานคุมประพฤติ
สิ่งนี้เพิ่มโอกาสในการได้รับโทษที่เบาลงสำหรับจำเลย
• Natural: พนักงานคุมประพฤติแนะนำไปในทาง เป็นประโยชน์
ทำให้จำเลยมีโอกาสได้โทษเบาขึ้น
4. unfavorable – เป็นโทษ, ไม่เป็นประโยชน์
The jury considered the witness’s unfavorable comments about the defendant.
It made the case look worse for him.
• Literal: คณะลูกขุนพิจารณาความเห็นที่เป็น โทษ ของพยานต่อจำเลย
สิ่งนั้นทำให้คดีดูแย่ลงสำหรับเขา
• Natural: คณะลูกขุนฟังคำให้การที่ไม่ เป็นประโยชน์ ต่อจำเลย
ทำให้คดีของเขาดูหนักกว่าเดิม
5. defendant – จำเลย
The defendant denied all charges during the trial.
His lawyer argued that there was not enough evidence.
• Literal: จำเลย ปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมดระหว่างการพิจารณาคดี
ทนายของเขาโต้แย้งว่าไม่มีหลักฐานเพียงพอ
• Natural: จำเลย ปฏิเสธข้อหาทุกข้อในศาล
ทนายบอกว่าหลักฐานไม่แน่นพอ
6. judicial – เกี่ยวกับตุลาการ, ศาล
The constitution guarantees judicial independence from politics.
This allows judges to make fair decisions without pressure.
• Literal: รัฐธรรมนูญรับรองความเป็นอิสระ ทางตุลาการ จากการเมือง
สิ่งนี้ทำให้ผู้พิพากษาตัดสินได้อย่างยุติธรรมโดยไม่ถูกกดดัน
• Natural: รัฐธรรมนูญคุ้มครองไม่ให้การ ทำงานของศาล ถูกการเมืองแทรกแซง
เพื่อให้ผู้พิพากษาตัดสินได้อย่างยุติธรรม
7. discretion – ดุลพินิจ
The release of the suspect was left to the police officer’s discretion.
He had to decide whether the bail was reasonable.
• Literal: การปล่อยตัวผู้ต้องสงสัยถูกปล่อยไว้ให้เป็น ดุลพินิจ ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
เขาต้องตัดสินใจว่าการให้ประกันตัวนั้นสมเหตุสมผลหรือไม่
• Natural: เรื่องปล่อยผู้ต้องสงสัยขึ้นอยู่กับ ดุลยพินิจ ของตำรวจ
เขาต้องชั่งใจว่าค่า ประกันเหมาะสมไหม
8. disclosed – เปิดเผย
The company disclosed its financial records during the investigation.
This helped the authorities check for fraud.
• Literal: บริษัทได้ เปิดเผย บัญชีการเงินของตนระหว่างการสืบสวน
สิ่งนี้ช่วยให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบการทุจริต
• Natural: บริษัท ยอมเปิดเผย บัญชีการเงินตอนโดนสอบ
เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจดูว่ามีการโกงหรือไม่
9. prosecution – ฝ่ายโจทก์, การดำเนินคดี
The prosecution called three new witnesses to the stand.
They hoped this would make their case stronger.
• Literal: ฝ่ายโจทก์ เรียกพยานใหม่สามคนขึ้นให้การ
พวกเขาหวังว่าสิ่งนี้จะทำให้คดีของตนแข็งแรงขึ้น
• Natural: ฝ่ายโจทก์ เรียกพยานใหม่เพิ่มอีกสามคน
เพราะอยากให้คดีของตัวเองแน่นขึ้น
10. proceedings – กระบวนพิจารณา (ในศาล)
The judge postponed the proceedings until next month.
Both sides needed more time to prepare their arguments.
• Literal: ผู้พิพากษาเลื่อน กระบวนพิจารณา ออกไปจนถึงเดือนหน้า
ทั้งสองฝ่ายต้องการเวลามากขึ้นในการเตรียมการโต้แย้ง
• Natural: ผู้พิพากษาเลื่อนการ พิจารณาคดี ไปเดือนหน้า
เพราะทั้งสองฝ่ายยังต้องใช้เวลาเตรียมคดี
![]() การใช้คำศัพท์ในประโยค
1. defendant – จำเลย
The defendant denied all charges during the trial.
He insisted that he was not at the scene of the crime.
• Literal: จำเลยปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมดระหว่างการพิจารณาคดี เขายืนยันว่าเขาไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุ
• Natural: จำเลยปฏิเสธทุกข้อหาในศาล บอกชัดว่าเขาไม่ได้อยู่ตรงนั้นตอนเกิดเรื่อง
2. intruder – ผู้บุกรุก
The homeowner called the police when an intruder entered his house.
He feared for his family’s safety in the middle of the night.
• Literal: เจ้าของบ้านโทรหาตำรวจเมื่อผู้บุกรุกเข้ามาในบ้าน เขากลัวเรื่องความปลอดภัยของครอบครัวตอนดึก
• Natural: เจ้าของบ้านรีบโทรแจ้งตำรวจเมื่อมีคนแอบเข้ามา เขากลัวว่าจะไม่ปลอดภัยเพราะมีครอบครัวอยู่ในบ้าน
3. plantation – ไร่ / สวน
The plantation produced thousands of kilograms of fruit each season.
Local workers depended on the harvest for their income.
• Literal: ไร่แห่งนี้ผลิตผลไม้ได้หลายพันกิโลกรัมทุกฤดูกาล คนงานในท้องถิ่นพึ่งพาผลผลิตเพื่อรายได้ของพวกเขา
• Natural: ไร่ปาล์มออกผลเป็นพันกิโลทุกฤดู คนงานท้องถิ่นก็อยู่ได้จากการเก็บเกี่ยวพวกนี้
4. attempted killing – ความพยายามฆ่า
He was arrested on suspicion of attempted killing after the fight.
The victim survived but suffered serious injuries.
• Literal: เขาถูกจับในข้อหาพยายามฆ่าหลังการต่อสู้ เหยื่อรอดชีวิตแต่บาดเจ็บสาหัส
• Natural: เขาโดนจับข้อหาพยายามฆ่า เหยื่อไม่ตายแต่เจ็บหนัก
5. provocation – การบันดาลโทสะ
The crime happened under strong provocation from the victim’s words.
Witnesses said the insults were very harsh and personal.
• Literal: ความผิดเกิดขึ้นเพราะการบันดาลโทสะจากคำพูดของเหยื่อ พยานบอกว่าคำด่านั้นรุนแรงและเจาะจงถึงตัว
• Natural: เรื่องนี้เกิดเพราะเหยื่อด่าแรงจนเขาหลุด พยานก็บอกว่าคำด่านั้นแรงจริง ๆ และจี้ใจดำ
6. Criminal Code – ประมวลกฎหมายอาญา
The professor explained how the Criminal Code protects basic rights.
He gave examples of cases where the law reduced punishment.
• Literal: ศาสตราจารย์อธิบายว่าประมวลกฎหมายอาญาคุ้มครองสิทธิขั้นพื้นฐานอย่างไร เขายกตัวอย่างคดีที่กฎหมายช่วยลดโทษ
• Natural: อาจารย์สอนว่ากฎหมายอาญาช่วยคุ้มครองสิทธิคนยังไง แล้วก็ยกคดีที่กฎหมายทำให้โทษเบาลงมาให้ฟัง
7. intentional murder – การฆ่าโดยเจตนา
The jury decided it was intentional murder after reviewing the evidence.
They believed the attack was carefully planned.
• Literal: คณะลูกขุนตัดสินว่าเป็นการฆ่าโดยเจตนาหลังจากพิจารณาหลักฐาน พวกเขาเชื่อว่าการทำร้ายนั้นถูกวางแผนไว้อย่างรอบคอบ
• Natural: คณะลูกขุนเชื่อว่าเป็นการฆ่าโดยตั้งใจ เพราะดูจากหลักฐานแล้วเหมือนวางแผนมาอย่างดี
8. liability – ความรับผิดทางกฎหมาย
Parents may have legal liability for the actions of their children.
This is especially true if the children cause harm to others.
• Literal: พ่อแม่อาจมีความรับผิดทางกฎหมายต่อการกระทำของลูก ๆ โดยเฉพาะถ้าลูกก่อให้เกิดความเสียหายต่อผู้อื่น
• Natural: พ่อแม่อาจต้องรับผิดแทนลูกถ้าลูกทำให้คนอื่นเดือดร้อนหรือต้องเสียหาย
9. firearm – อาวุธปืน
Owning a firearm requires a license in most countries.
This rule is meant to control crime and protect the public.
• Literal: การครอบครองอาวุธปืนต้องมีใบอนุญาตในหลายประเทศ กฎนี้มีไว้เพื่อควบคุมอาชญากรรมและปกป้องสาธารณะ
• Natural: ในหลายประเทศ ถ้าจะมีปืนต้องมีใบอนุญาต กฎหมายทำเพื่อป้องกันอาชญากรรมและดูแลความปลอดภัยของคนทั่วไป
10. suspended sentence – การรอการลงโทษ
The young man received a suspended sentence for his first offense.
The court believed he could learn from his mistake.
• Literal: ชายหนุ่มได้รับโทษรอการลงโทษสำหรับความผิดครั้งแรก ศาลเชื่อว่าเขาจะเรียนรู้จากความผิดพลาด
• Natural: ศาลให้รอการลงโทษ เพราะเป็นความผิดครั้งแรกและเชื่อว่าเขาจะสำนึกได้เอง
![]() 🔹 1. homicide – การฆ่าคนตาย
Main: Homicide is one of the most serious crimes in criminal law.
Context: It carries heavy penalties because it takes away a human life.
• Literal: การฆ่าคนตายเป็นหนึ่งในความผิดที่ร้ายแรงที่สุดในกฎหมายอาญา เพราะมีโทษหนักเนื่องจากเป็นการพรากชีวิตมนุษย์
• Natural: คดีฆ่าคนตายถือว่าหนักที่สุดในกฎหมาย เพราะพรากชีวิตคน เลยโทษแรงมาก
🔹 2. provocation – การบันดาลโทสะ
Main: The judge accepted provocation as a partial excuse for the crime.
Context: He believed the sudden anger reduced the defendant’s control over himself.
• Literal: ผู้พิพากษายอมรับการบันดาลโทสะเป็นข้อแก้ตัวบางส่วนสำหรับความผิด เพราะเชื่อว่าความโกรธทันทีทำให้จำเลยควบคุมตนเองลดลง
• Natural: ศาลถือว่าบันดาลโทสะเป็นข้อบรรเทาบางส่วน เพราะความโกรธฉับพลันทำให้จำเลยคุมตัวเองไม่อยู่
🔹 3. firearm – อาวุธปืน
Main: Owning a firearm requires a license under the law.
Context: Without one, a person can be arrested and prosecuted.
• Literal: การครอบครองอาวุธปืนต้องมีใบอนุญาตตามกฎหมาย หากไม่มี บุคคลอาจถูกจับกุมและดำเนินคดีได้
• Natural: จะมีปืนต้องมีใบอนุญาต ถ้าไม่มีอาจโดนจับและโดนฟ้อง
🔹 4. private offense – ความผิดอันยอมความได้
Main: Defamation is usually treated as a private offense.
Context: The victim can decide whether to pursue or withdraw the case.
• Literal: การหมิ่นประมาทมักถูกจัดว่าเป็นความผิดอันยอมความได้ ผู้เสียหายสามารถเลือกที่จะดำเนินคดีหรือถอนคดีได้
• Natural: คดีหมิ่นประมาทส่วนใหญ่ถือว่ายอมความได้ ผู้เสียหายเลือกเองว่าจะเอาคดีต่อหรือถอน
🔹 5. compromise – การยอมความ
Main: A compromise can save time and reduce hostility between parties.
Context: It allows them to settle the dispute without going through a full trial.
• Literal: การยอมความช่วยประหยัดเวลาและลดความเป็นศัตรูระหว่างคู่ความ ทำให้พวกเขายุติข้อพิพาทโดยไม่ต้องผ่านการพิจารณาคดีเต็มรูปแบบ
• Natural: การยอมความช่วยให้ประหยัดเวลา ลดความขัดแย้ง ไม่ต้องขึ้นศาลเต็มคดี
🔹 6. compensation – ค่าสินไหมทดแทน
Main: The company was ordered to pay compensation for the worker’s injury.
Context: The accident happened because safety rules were ignored.
• Literal: บริษัทถูกสั่งให้จ่ายค่าสินไหมทดแทนสำหรับการบาดเจ็บของลูกจ้าง อุบัติเหตุเกิดขึ้นเพราะไม่ปฏิบัติตามกฎความปลอดภัย
• Natural: บริษัทต้องจ่ายเงินชดเชยให้คนงานที่เจ็บ เพราะอุบัติเหตุเกิดจากไม่ทำตามกฎความปลอดภัย
🔹 7. civil liability – ความรับผิดทางแพ่ง
Main: A driver who causes a car accident has civil liability for damages.
Context: He must pay for the repair costs of the other person’s car.
• Literal: ผู้ขับรถที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์มีความรับผิดทางแพ่งต่อความเสียหาย เขาต้องจ่ายค่าซ่อมรถของอีกฝ่าย
• Natural: คนขับรถที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุ ต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหาย เช่น ค่าซ่อมรถ
🔹 8. criminal case – คดีอาญา
Main: Theft is handled as a criminal case, not just a civil matter.
Context: The state prosecutes because stealing harms society.
• Literal: การลักทรัพย์ถูกจัดการเป็นคดีอาญา ไม่ใช่เพียงเรื่องทางแพ่ง รัฐเป็นผู้ดำเนินคดีเพราะการขโมยเป็นอันตรายต่อสังคม
• Natural: คดีลักทรัพย์เป็นคดีอาญา รัฐต้องฟ้องเพราะการขโมยทำร้ายสังคม
🔹 9. sentence – โทษที่ศาลพิพากษา
Main: His sentence included both prison time and a fine.
Context: The court wanted to punish him but also warn others.
• Literal: โทษของเขารวมทั้งการจำคุกและการปรับ ศาลต้องการลงโทษเขาและเตือนคนอื่นด้วย
• Natural: ศาลสั่งทั้งจำคุกและปรับ เพื่อทั้งลงโทษเขาและเป็นตัวอย่างให้คนอื่น
🔹 10. public order – ความสงบเรียบร้อยของประชาชน
Main: Laws exist to protect public order and safety.
Context: Without them, society would face chaos and violence.
• Literal: มีกฎหมายเพื่อคุ้มครองความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยของประชาชน หากไม่มีกฎหมาย สังคมจะเผชิญกับความวุ่นวายและความรุนแรง
• Natural: กฎหมายมีไว้เพื่อปกป้องความสงบและความปลอดภัย ถ้าไม่มีกฎหมาย สังคมคงวุ่นวายเต็มไปด้วยความรุนแรง
![]() ตัวอย่างการใช้คำศัพท์ในประโยค
1. ruled – วินิจฉัย / มีคำสั่งศาล
Main: The court ruled that the evidence was not strong enough.
Context: As a result, the charges against the man were dropped.
• Literal: ศาลวินิจฉัยว่าพยานหลักฐานไม่เพียงพอ
ดังนั้นข้อกล่าวหาต่อชายคนนั้นจึงถูกยกเลิก
• Natural: ศาลตัดสินว่าหลักฐานไม่แน่นพอ เลยถอนข้อหาที่ฟ้องผู้ชายคนนั้น
2. blank gun – ปืนแบลงค์
Main: The teenager was arrested for carrying a blank gun in public.
Context: People around him were frightened because it looked like a real weapon.
• Literal: วัยรุ่นถูกจับกุมเพราะพกปืนที่ยิงได้แต่เสียงในที่สาธารณะ
ผู้คนรอบข้างตกใจกลัวเพราะมันดูเหมือนอาวุธจริง
• Natural: เด็กวัยรุ่นโดนจับเพราะพกปืนเสียงออกมาเดินเล่น คนแถว ๆ นั้นตกใจเพราะมันเหมือนปืนจริง
3. firearm – อาวุธปืน
Main: A license is required to legally own a firearm.
Context: This rule is meant to protect society from dangerous misuse.
• Literal: ต้องมีใบอนุญาตจึงจะครอบครองอาวุธปืนได้อย่างถูกกฎหมาย
กฎข้อนี้มีไว้เพื่อปกป้องสังคมจากการใช้ที่ผิดอันตราย
• Natural: ถ้าจะมีปืนต้องมีใบอนุญาตนะ กฎนี้ตั้งมาเพื่อกันไม่ให้ใครใช้ปืนผิด ๆ จนเกิดอันตราย
4. under Thai law – ตามกฎหมายไทย
Main: Marriage under Thai law must be registered at the district office.
Context: Without registration, it will not be legally recognized.
• Literal: การสมรสตามกฎหมายไทยต้องจดทะเบียนที่ที่ว่าการอำเภอ
หากไม่ได้จดทะเบียน จะไม่เป็นที่รับรองโดยชอบด้วยกฎหมาย
• Natural: ถ้าแต่งงานตามกฎหมายไทยต้องไปจดทะเบียนที่อำเภอ ไม่งั้นก็ถือว่าไม่ถูกกฎหมาย
5. resembles – มีลักษณะคล้าย
Main: The signature on the document resembles the victim’s handwriting.
Context: However, an expert said it might have been forged.
• Literal: ลายเซ็นในเอกสารมีลักษณะคล้ายลายมือของผู้เสียหาย
อย่างไรก็ตามผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าอาจเป็นการปลอมแปลง
• Natural: ลายเซ็นในเอกสารดูเหมือนลายมือผู้เสียหาย แต่ผู้เชี่ยวชาญบอกว่าอาจมีคนปลอม
6. live bullets – กระสุนจริง
Main: The police found a bag full of live bullets in the suspect’s car.
Context: They suspected he was planning a serious crime.
• Literal: ตำรวจพบถุงที่เต็มไปด้วยกระสุนจริงในรถของผู้ต้องสงสัย
พวกเขาสงสัยว่าเขากำลังวางแผนก่ออาชญากรรมร้ายแรง
• Natural: ตำรวจเจอกระเป๋าใส่กระสุนจริงเต็มถุงในรถผู้ต้องสงสัย เลยคิดว่าเขาคงวางแผนก่อคดีใหญ่
7. considered – ถือว่า / พิจารณาว่า
Main: The contract was considered unfair to the employee.
Context: It forced him to work long hours with no extra pay.
• Literal: สัญญาถูกพิจารณาว่าไม่เป็นธรรมต่อลูกจ้าง
เพราะบังคับให้เขาทำงานเกินเวลาโดยไม่ได้ค่าตอบแทนเพิ่ม
• Natural: สัญญานี้ถูกมองว่าเอาเปรียบลูกจ้าง บังคับให้ทำงานล่วงเวลาแต่ไม่จ่ายเงินเพิ่ม
8. imitation – ของเลียนแบบ / สิ่งเทียม
Main: The shop was fined for selling imitation jewelry.
Context: Customers had complained that they were tricked into paying high prices.
• Literal: ร้านค้าถูกปรับเพราะขายเครื่องประดับเลียนแบบ
ลูกค้าร้องเรียนว่าถูกหลอกให้จ่ายเงินแพงเกินจริง
• Natural: ร้านโดนปรับเพราะขายเครื่องประดับปลอม ลูกค้าบ่นว่าโดนหลอกให้จ่ายแพง
9. Section 4 (5) – มาตรา 4 (5)
Main: Section 4 (5) is often cited in firearm-related cases.
Context: It helps the court decide whether an object is a real gun or just an imitation.
• Literal: มาตรา 4 (5) มักถูกอ้างถึงในคดีที่เกี่ยวกับอาวุธปืน
เพราะช่วยให้ศาลตัดสินได้ว่าวัตถุนั้นเป็นปืนจริงหรือเป็นเพียงปืนเลียนแบบ
• Natural: มาตรา 4 (5) มักถูกใช้ในคดีเกี่ยวกับปืน ศาลใช้มันตัดสินว่าอันนั้นเป็นปืนจริงหรือปืนปลอม
10. defendant – จำเลย
Main: The defendant stood quietly while the verdict was read.
Context: His lawyer had already prepared an appeal.
• Literal: จำเลยยืนนิ่งขณะศาลอ่านคำพิพากษา
ทนายของเขาได้เตรียมการอุทธรณ์ไว้แล้ว
• Natural: ตอนศาลอ่านคำตัดสินจำเลยยืนนิ่ง ๆ ส่วนทนายก็เตรียมอุทธรณ์ไว้เรียบร้อยแล้ว
![]() ตัวอย่างการใช้คำศัพท์ในประโยค
1. spousal – เกี่ยวกับคู่สมรส
• Main: The lawyer asked if she had given her spousal approval before the loan was signed.
• Extra: Without her agreement, the contract could not stand.
Literal: ทนายถามว่าเธอได้ให้การอนุมัติของคู่สมรสก่อนที่เงินกู้จะถูกลงนามหรือไม่
หากไม่มีความยินยอมของเธอ สัญญานั้นจะไม่อาจคงอยู่ได้
Natural: ทนายถามว่าเธอได้ยินยอมในฐานะคู่สมรสก่อนเซ็นสัญญากู้หรือยัง
ถ้าไม่ยินยอม สัญญานี้ก็ใช้ไม่ได้
2. consent – ความยินยอม
• Main: The teacher could not take the student on a trip without the parent’s consent.
• Extra: A signed form was required before the child could join.
Literal: ครูไม่สามารถพานักเรียนไปทัศนศึกษาได้หากปราศจากความยินยอมจากผู้ปกครอง
ต้องมีแบบฟอร์มที่ลงนามก่อนที่เด็กจะสามารถเข้าร่วมได้
Natural: ครูจะพาเด็กไปทัศนศึกษาไม่ได้เลยถ้าไม่มีผู้ปกครองยินยอม
ต้องมีการเซ็นเอกสารก่อนถึงจะไปได้
3. ratification – การสัตยาบัน
• Main: The company later gave ratification to a deal that was made without their knowledge.
• Extra: This made the earlier decision officially recognized.
Literal: บริษัทต่อมาได้ให้การสัตยาบันต่อข้อตกลงที่ทำขึ้นโดยที่พวกเขาไม่รู้มาก่อน
ซึ่งทำให้การตัดสินใจก่อนหน้านั้นได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการ
Natural: บริษัทมาอนุมัติทีหลังให้กับข้อตกลงที่ทำไปโดยไม่บอก
ทำให้การตัดสินใจก่อนหน้านั้นถูกยอมรับอย่างเป็นทางการ
4. future debts – หนี้ในอนาคต
• Main: She argued that signing the paper did not mean she agreed to cover his future debts.
• Extra: The judge accepted that she was only responsible for debts already existing.
Literal: เธอโต้แย้งว่าการลงนามในเอกสารไม่ได้หมายความว่าเธอตกลงที่จะรับผิดชอบต่อหนี้ในอนาคตของเขา
ผู้พิพากษายอมรับว่าเธอต้องรับผิดเพียงหนี้ที่มีอยู่แล้วเท่านั้น
Natural: เธอบอกว่าการเซ็นเอกสารไม่ได้หมายถึงว่าจะต้องรับผิดแทนหนี้ในอนาคตของเขา
ศาลก็เห็นด้วยว่าเธอควรรับผิดแค่หนี้ที่มีอยู่แล้ว
5. liable – ต้องรับผิด
• Main: The driver was held liable for the accident because he ignored the traffic light.
• Extra: The court ordered him to pay for all damages.
Literal: คนขับถูกถือว่าต้องรับผิดในอุบัติเหตุเพราะเขาไม่สนใจสัญญาณไฟจราจร
ศาลสั่งให้เขาชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมด
Natural: คนขับถูกตัดสินว่าต้องรับผิดเพราะฝ่าไฟแดง
ศาลสั่งให้เขาจ่ายค่าเสียหายทั้งหมด
6. incurred – ก่อให้เกิด, ตกเป็นหนี้
• Main: The company incurred heavy losses after the project failed.
• Extra: Investors demanded an explanation for the wasted money.
Literal: บริษัทก่อให้เกิดความสูญเสียอย่างหนักหลังจากโครงการล้มเหลว
นักลงทุนเรียกร้องคำอธิบายสำหรับเงินที่สูญเปล่า
Natural: บริษัทขาดทุนหนักหลังโครงการล้มเหลว
นักลงทุนถามหาคำอธิบายว่าเงินหายไปไหน
7. ruled – วินิจฉัย, มีคำพิพากษา
• Main: The court ruled that the tenant must leave the property within 30 days.
• Extra: The landlord had filed the case after months of unpaid rent.
Literal: ศาลวินิจฉัยว่าผู้เช่าต้องออกจากทรัพย์สินภายใน 30 วัน
เจ้าของบ้านได้ยื่นฟ้องหลังจากค่าเช่าถูกค้างชำระหลายเดือน
Natural: ศาลตัดสินว่าผู้เช่าต้องย้ายออกภายใน 30 วัน
เจ้าของบ้านฟ้องเพราะไม่จ่ายค่าเช่ามาหลายเดือน
8. exist – มีอยู่จริง
• Main: The lawyer explained that no right could exist without being written in the contract.
• Extra: Oral promises were not recognized in this case.
Literal: ทนายอธิบายว่าสิทธิไม่อาจมีอยู่ได้หากไม่ได้ถูกเขียนไว้ในสัญญา
คำสัญญาปากเปล่าไม่ถูกรับรองในคดีนี้
Natural: ทนายบอกว่าสิทธิจะไม่มีผลถ้าไม่ได้เขียนในสัญญา
คำพูดเฉย ๆ ศาลไม่รับฟังในคดีนี้
9. prior consent – การให้ความยินยอมล่วงหน้า
• Main: The landlord needed the tenant’s prior consent before making big changes to the house.
• Extra: This rule was written clearly in the lease agreement.
Literal: เจ้าของบ้านต้องได้รับความยินยอมล่วงหน้าจากผู้เช่าก่อนที่จะทำการเปลี่ยนแปลงใหญ่ในบ้าน
กฎข้อนี้ถูกเขียนไว้อย่างชัดเจนในสัญญาเช่า
Natural: เจ้าของบ้านต้องถามผู้เช่าก่อนถ้าจะปรับปรุงบ้านครั้งใหญ่
เรื่องนี้เขียนไว้ชัดเจนในสัญญาเช่าแล้ว
10. bind – ผูกพัน
• Main: The promise he made in front of witnesses will bind him legally.
• Extra: Breaking it could lead to a lawsuit.
Literal: คำสัญญาที่เขาให้ไว้ต่อหน้าพยานจะผูกพันเขาตามกฎหมาย
การผิดสัญญาอาจนำไปสู่การถูกฟ้องร้องได้
Natural: เขาสัญญาต่อหน้าพยาน ทำให้กฎหมายผูกมัดเขา
ถ้าไม่ทำตามก็อาจโดนฟ้องได้เลย
![]() ตัวอย่างการใช้คำศัพท์ในประโยค
1. drug trafficking – การค้ายาเสพติด
Main: Drug trafficking is considered one of the most serious crimes worldwide.
Context: It often involves large criminal networks and causes harm to society.
• Literal: การค้ายาเสพติดถือเป็นหนึ่งในอาชญากรรมที่ร้ายแรงที่สุดในระดับโลก มักเกี่ยวข้องกับเครือข่ายอาชญากรรมขนาดใหญ่และสร้างความเสียหายแก่สังคม
• Natural: ค้ายาถือว่าเป็นคดีใหญ่ระดับโลก มักมีเครือข่ายอาชญากรรมใหญ่ ๆ อยู่เบื้องหลังและทำให้สังคมเดือดร้อน
2. mandatory – เป็นข้อบังคับ
Main: Attending safety training is mandatory for all new employees.
Context: The company wants to make sure everyone understands the risks at work.
• Literal: การเข้าร่วมการฝึกอบรมด้านความปลอดภัยเป็นข้อบังคับสำหรับพนักงานใหม่ทุกคน บริษัทต้องการให้ทุกคนเข้าใจถึงความเสี่ยงในการทำงาน
• Natural: พนักงานใหม่ทุกคนต้องอบรมความปลอดภัยเป็นกฎหมายบริษัท เพื่อให้ทุกคนรู้เรื่องความเสี่ยงเวลาทำงาน
3. upheld – พิพากษายืน / ยืนยันคำพิพากษา
Main: The appeal court upheld the decision to fine the company for pollution.
Context: Local residents had complained about the factory for years.
• Literal: ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนคำตัดสินให้บริษัทจ่ายค่าปรับในคดีมลพิษ ชาวบ้านร้องเรียนโรงงานนี้มาหลายปี
• Natural: ศาลอุทธรณ์ยืนยันให้บริษัทโดนปรับเพราะทำมลพิษ หลังชาวบ้านร้องเรียนมาตลอดหลายปี
4. convicted – ถูกตัดสินว่ามีความผิด
Main: She was convicted of fraud after taking money from her clients.
Context: The court found clear records of her fake contracts.
• Literal: เธอถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานฉ้อโกงหลังจากเอาเงินจากลูกค้า ศาลพบหลักฐานสัญญาปลอมชัดเจน
• Natural: ศาลตัดสินว่าเธอผิดฐานโกงเงินลูกค้า เพราะมีหลักฐานเป็นสัญญาปลอมให้เห็นชัด ๆ
5. supporter – ผู้สนับสนุน (การกระทำผิด)
Main: The police arrested a supporter who helped hide the stolen goods.
Context: He did not steal them himself, but he gave a place to store them.
• Literal: ตำรวจจับกุมผู้สนับสนุนที่ช่วยซ่อนทรัพย์สินที่ถูกขโมย เขาไม่ได้ขโมยเอง แต่ให้สถานที่เก็บของ
• Natural: ตำรวจรวบคนที่ช่วยซ่อนของโจร ถึงจะไม่ได้ขโมยเอง แต่ก็ให้ที่เก็บของผิดกฎหมาย
6. offender – ผู้กระทำความผิด
Main: First-time offenders may receive lighter sentences than repeat offenders.
Context: The law often considers past behavior when deciding punishment.
• Literal: ผู้กระทำความผิดครั้งแรกอาจได้รับโทษที่เบากว่าผู้ที่ทำผิดซ้ำ กฎหมายมักพิจารณาประวัติที่ผ่านมาเมื่อกำหนดโทษ
• Natural: คนทำผิดครั้งแรกมักโดนโทษเบากว่าคนที่ทำผิดซ้ำ เพราะศาลจะดูประวัติเดิม ๆ มาประกอบด้วย
7. penalty – โทษ / บทลงโทษ
Main: The penalty for tax evasion can include both heavy fines and prison time.
Context: Governments take this crime seriously because it harms public revenue.
• Literal: โทษสำหรับการหลีกเลี่ยงภาษีอาจรวมถึงค่าปรับจำนวนมากและการจำคุก รัฐบาลให้ความสำคัญเพราะเป็นการทำร้ายรายได้ของประเทศ
• Natural: เลี่ยงภาษีโดนทั้งปรับหนักและอาจติดคุก รัฐถือว่าเรื่องนี้ร้ายแรงเพราะทำให้ประเทศเสียรายได้
8. commutation – การลดโทษ
Main: The president granted commutation to several prisoners.
Context: Many of them had shown good behavior during their time in prison.
• Literal: ประธานาธิบดีได้ให้การลดโทษแก่นักโทษหลายคน หลายคนแสดงความประพฤติดีระหว่างถูกคุมขัง
• Natural: ประธานาธิบดีลดโทษให้นักโทษหลายคน เพราะหลายคนทำตัวดีตอนอยู่ในคุก
9. Penal Code – ประมวลกฎหมายอาญา
Main: Students must study the Penal Code before becoming licensed lawyers.
Context: It contains the basic rules for all criminal cases.
• Literal: นักศึกษาต้องศึกษาประมวลกฎหมายอาญาก่อนที่จะได้รับใบอนุญาตเป็นทนาย เพราะในนั้นมีหลักเกณฑ์พื้นฐานของคดีอาญาทั้งหมด
• Natural: ก่อนจะเป็นทนาย นักศึกษาต้องเรียนประมวลกฎหมายอาญา เพราะเป็นกฎหมายพื้นฐานของคดีอาญาทุกเรื่อง
10. life imprisonment – โทษจำคุกตลอดชีวิต
Main: Life imprisonment was given to the man who committed multiple murders.
Context: The judge said the crime was too severe to allow release.
• Literal: ศาลพิพากษาให้โทษจำคุกตลอดชีวิตแก่ชายที่ก่อเหตุฆาตกรรมหลายครั้ง ผู้พิพากษาระบุว่าคดีนี้ร้ายแรงเกินกว่าจะปล่อยตัวได้
• Natural: ศาลตัดสินให้ติดคุกตลอดชีวิตเพราะฆ่าคนหลายศพ ผู้พิพากษาบอกว่าคดีนี้หนักเกินกว่าจะปล่อยตัวออกมา
![]() ตัวอย่างการใช้คำศัพท์ในประโยค
1. fraud – การฉ้อโกง
Main: She reported the fraud to the police after discovering the contract was fake.
Extra: The officer promised to investigate the false papers carefully.
• Literal: เธอรายงานการฉ้อโกงต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังจากพบว่าสัญญานั้นเป็นของปลอม
เจ้าหน้าที่สัญญาว่าจะตรวจสอบเอกสารปลอมอย่างรอบคอบ
• Natural: พอรู้ว่าสัญญาเป็นของปลอม เธอรีบไปแจ้งตำรวจว่าโดนโกง
ตำรวจก็บอกว่าจะสืบเรื่องเอกสารปลอมนี้ให้ละเอียด
2. public fraud – การฉ้อโกงประชาชน
Main: The politician was accused of public fraud for lying about a charity fund.
Extra: Many citizens said they donated money but saw no project built.
• Literal: นักการเมืองถูกกล่าวหาว่าฉ้อโกงประชาชน จากการโกหกเรื่องกองทุนการกุศล
ประชาชนจำนวนมากบอกว่าพวกเขาบริจาคเงินแต่ไม่เห็นมีโครงการถูกสร้างขึ้น
• Natural: นักการเมืองโดนกล่าวหาฉ้อโกงประชาชน เพราะโกหกเรื่องกองทุนช่วยเหลือ
หลายคนบอกว่าเงินที่บริจาคไปไม่เคยเห็นเอาไปสร้างอะไรจริง
3. indictment – คำฟ้อง / การฟ้องร้อง
Main: The indictment included both theft and fraud charges.
Extra: It showed the suspect had stolen money and lied to people at the same time.
• Literal: คำฟ้องรวมถึงข้อหาลักทรัพย์และข้อหาฉ้อโกง
เอกสารแสดงให้เห็นว่าผู้ต้องหาทั้งขโมยเงินและโกหกผู้คนในเวลาเดียวกัน
• Natural: ในคำฟ้องมีทั้งข้อหาขโมยและโกง
เอกสารบอกชัดว่าผู้ต้องหาทั้งขโมยเงินและหลอกคนไปพร้อมกัน
4. elements – องค์ประกอบ (ความผิด)
Main: The judge said the elements of public fraud were missing from the case.
Extra: The lawyer failed to show that many people were deceived.
• Literal: ผู้พิพากษากล่าวว่าองค์ประกอบของความผิดฐานฉ้อโกงประชาชนขาดหายไปจากคดีนี้
ทนายไม่สามารถแสดงให้เห็นว่ามีคนจำนวนมากถูกหลอก
• Natural: ศาลบอกว่าคดีนี้ขาดองค์ประกอบฉ้อโกงประชาชน
ทนายก็พิสูจน์ไม่ได้ว่ามีคนมากมายถูกหลอกจริง
5. restitution – การชดใช้ / การคืนค่าเสียหาย
Main: Restitution was ordered so that victims could get their money back.
Extra: The court wanted to make sure they were not left with nothing.
• Literal: ศาลสั่งให้มีการชดใช้ เพื่อให้ผู้เสียหายได้รับเงินคืน
ศาลต้องการให้แน่ใจว่าพวกเขาไม่ถูกปล่อยให้อยู่โดยไม่มีอะไรเลย
• Natural: ศาลสั่งให้ชดใช้เพื่อให้เหยื่อได้เงินคืน
ศาลไม่อยากให้พวกเขาเสียไปเปล่า ๆ โดยไม่ได้อะไรกลับมา
6. Computer Crime Act – พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์
Main: Under the Computer Crime Act, spreading false news online is illegal.
Extra: The law was made to prevent harm to society from fake information.
• Literal: ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ การเผยแพร่ข่าวปลอมทางออนไลน์เป็นสิ่งผิดกฎหมาย
กฎหมายนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อป้องกันไม่ให้สังคมได้รับอันตรายจากข้อมูลปลอม
• Natural: กฎหมายคอมพิวเตอร์ห้ามเผยแพร่ข่าวปลอมในเน็ต เพราะถือว่าผิดกฎหมาย
กฎหมายนี้ออกมาเพื่อป้องกันไม่ให้สังคมเสียหายจากข้อมูลเท็จ
7. conduct – การกระทำ
Main: His conduct in cheating old people was called cruel by the court.
Extra: The judge said taking advantage of the weak was very serious.
• Literal: การกระทำของเขาในการหลอกผู้สูงอายุถูกศาลกล่าวว่าเป็นการโหดร้าย
ผู้พิพากษากล่าวว่าการเอาเปรียบผู้ที่อ่อนแอนั้นเป็นเรื่องร้ายแรงมาก
• Natural: ศาลบอกว่าการที่เขาหลอกผู้สูงอายุเป็นการกระทำที่โหดร้าย
ผู้พิพากษาย้ำว่าการเอาเปรียบคนอ่อนแอถือว่าหนักมาก
8. imprisonment – โทษจำคุก
Main: Imprisonment was chosen because the crime caused serious damage.
Extra: The victims had lost their homes and savings.
• Literal: ศาลเลือกโทษจำคุกเพราะความผิดก่อให้เกิดความเสียหายร้ายแรง
ผู้เสียหายสูญเสียทั้งบ้านและเงินเก็บ
• Natural: ศาลลงโทษจำคุก เพราะคดีนี้ทำให้เกิดความเสียหายหนัก
เหยื่อบางคนเสียทั้งบ้านทั้งเงินเก็บไปหมด
9. fine – โทษปรับ
Main: The driver had to pay a fine for breaking traffic rules.
Extra: The court said a small fine was enough for the first mistake.
• Literal: คนขับรถต้องจ่ายค่าปรับเพราะละเมิดกฎจราจร
ศาลกล่าวว่าค่าปรับเล็กน้อยก็เพียงพอสำหรับความผิดครั้งแรก
• Natural: คนขับรถโดนปรับเพราะทำผิดกฎจราจร
ศาลเห็นว่าปรับไม่มากก็พอ เพราะเป็นความผิดครั้งแรก
10. suspended sentence – การรอการลงโทษจำคุก
Main: The woman got a suspended sentence since she was young and had no record.
Extra: The court wanted to give her a chance to learn from her mistake.
• Literal: ผู้หญิงคนนั้นได้รับการรอการลงโทษจำคุก เนื่องจากเธอยังอายุน้อยและไม่มีประวัติการกระทำผิด
ศาลต้องการให้โอกาสเธอเรียนรู้จากความผิดพลาด
• Natural: ศาลให้รอการลงโทษผู้หญิงคนนี้ เพราะเธอยังเด็กและไม่เคยมีประวัติ
ศาลอยากให้โอกาสเธอได้เรียนรู้จากความผิดครั้งนี้
![]() ตัวอย่างคำศัพท์ที่นำไปใช้ในประโยค
1. inheritance tax – ภาษีมรดก
Main: The inheritance tax can be very high if the estate is large.
Extra: Rich families often need lawyers to help with the process.
• Literal: ภาษีมรดกอาจสูงมากหากกองมรดกมีขนาดใหญ่
ครอบครัวที่ร่ำรวยมักต้องการทนายช่วยจัดการเรื่องนี้
• Natural: ถ้ามรดกเยอะ ภาษีมรดกก็สูงตาม
ครอบครัวฐานะดีมักจ้างทนายมาช่วยจัดการ
2. Inheritance Tax Act – พระราชบัญญัติภาษีการรับมรดก
Main: The Inheritance Tax Act was created to make tax rules fair.
Extra: Without it, some people might avoid paying taxes.
• Literal: พระราชบัญญัติภาษีการรับมรดกถูกสร้างขึ้นเพื่อทำให้กฎภาษีเป็นธรรม
หากไม่มีมัน บางคนอาจหลีกเลี่ยงการจ่ายภาษี
• Natural: กฎหมายภาษีมรดกออกมาเพื่อให้เก็บภาษียุติธรรม
ถ้าไม่มีกฎหมายนี้ บางคนก็เลี่ยงภาษีได้ง่าย
3. decedent – เจ้ามรดก
Main: The decedent’s name must be on the property documents.
Extra: This helps the court know which assets belong to the estate.
• Literal: ชื่อของเจ้ามรดกต้องอยู่ในเอกสารทรัพย์สิน
สิ่งนี้ช่วยให้ศาลรู้ว่าทรัพย์ใดเป็นของกองมรดก
• Natural: ชื่อเจ้าของที่เสียชีวิตต้องอยู่ในเอกสาร
เพื่อให้ศาลรู้ว่าสมบัติไหนเป็นของมรดก
4. estate – กองมรดก
Main: The estate must be listed before it can be divided.
Extra: This list usually includes land, money, and valuables.
• Literal: กองมรดกต้องถูกรายงานก่อนที่จะสามารถแบ่งได้
รายการนี้มักรวมถึงที่ดิน เงิน และของมีค่า
• Natural: ต้องทำบัญชีมรดกก่อนถึงจะแบ่งได้
ในบัญชีนี้จะมีทั้งที่ดิน เงินสด และของมีค่า
5. deducted – หักออก
Main: Debts cannot always be deducted from the inheritance tax.
Extra: Only debts that are legally valid can be counted.
• Literal: หนี้ไม่สามารถถูกหักออกจากภาษีมรดกได้เสมอไป
เฉพาะหนี้ที่ถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้นที่นับได้
• Natural: หนี้บางอย่างหักจากภาษีมรดกไม่ได้
จะนับได้ก็ต้องเป็นหนี้ที่ถูกกฎหมายจริง ๆ
6. tax collection – การจัดเก็บภาษี
Main: Tax collection is easier when people report their assets honestly.
Extra: The law punishes anyone who hides property from the government.
• Literal: การจัดเก็บภาษีง่ายขึ้นเมื่อผู้คนรายงานทรัพย์สินอย่างซื่อสัตย์
กฎหมายลงโทษผู้ใดก็ตามที่ซ่อนทรัพย์สินจากรัฐบาล
• Natural: เก็บภาษีง่ายขึ้นถ้าคนรายงานทรัพย์ตรงไปตรงมา
กฎหมายลงโทษคนที่ปกปิดทรัพย์สินจากรัฐ
7. bank deposits – เงินฝากธนาคาร
Main: Bank deposits are sometimes frozen until the inheritance tax is paid.
Extra: This prevents heirs from withdrawing money too early.
• Literal: เงินฝากธนาคารบางครั้งถูกอายัดจนกว่าจะชำระภาษีมรดก
สิ่งนี้ป้องกันไม่ให้ทายาทถอนเงินออกก่อนเวลา
• Natural: เงินฝากธนาคารอาจถูกอายัดไว้ก่อน จนกว่าจะจ่ายภาษีมรดกเสร็จ
เพื่อกันไม่ให้ทายาทรีบถอนเงินออกมาก่อน
8. surcharges – เบี้ยปรับ
Main: Surcharges make people take tax deadlines seriously.
Extra: They act as a warning not to delay payments.
• Literal: เบี้ยปรับทำให้ผู้คนจริงจังกับเส้นตายการจ่ายภาษี
มันเป็นการเตือนว่าอย่าล่าช้าในการชำระเงิน
• Natural: ค่าปรับทำให้คนจริงจังกับการจ่ายภาษีตรงเวลา
เหมือนเป็นการเตือนว่าอย่าผัดวันประกันพรุ่ง
9. interests accrued – ดอกผล/ดอกเบี้ยที่เกิดขึ้น
Main: Interests accrued after death are considered new income.
Extra: That is why they are not part of the inheritance tax.
• Literal: ดอกเบี้ยที่เกิดขึ้นหลังการเสียชีวิตถือว่าเป็นรายได้ใหม่
นั่นคือเหตุผลที่มันไม่ใช่ส่วนหนึ่งของภาษีมรดก
• Natural: ดอกเบี้ยที่งอกหลังเจ้าของตายถือว่าเป็นรายได้ใหม่
เลยไม่นับรวมในภาษีมรดก
10. heirs – ทายาท
Main: The heirs often argue about how the estate should be divided.
Extra: Courts are sometimes asked to step in and make the decision.
• Literal: ทายาทมักโต้เถียงกันว่าจะต้องแบ่งกองมรดกอย่างไร
บางครั้งศาลก็ถูกขอให้เข้ามาตัดสิน
• Natural: ทายาทชอบทะเลาะกันเรื่องแบ่งสมบัติ
บางทีก็ต้องให้ศาลมาตัดสินแทน
|
|
หน้า 1/2 1 2 [ถัดไป] | [Go to top] |




.jpg)

.jpg)
.jpg)
.jpg)

.jpg)

.jpg)