สำนักงานพีศิริ ทนายความ ตั้งอยู่เลขที่ 34/159 หมู่ 8 ซอยบางมดแลนด์ แยก 13 ตำบลบางตลาด อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี 11120 ติดต่อทนายความ 085-9604258 สำหรับแผนที่การเดินทาง กรุณาคลิ๊กที่ "ที่ตั้งสำนักงาน" ด้านบนสุด ทนายความ ทนาย สำนักงานกฎหมาย สำนักงานทนายความ ปรึกษากฎหมายกับทนายความลีนนท์ โทรเลย ปรึกษากฎหมาย ปรึกษาทนายความ

การจัดการมรดกยังไม่สิ้นสุดลงอายุความ 5 ปียังไม่เริ่มนับ
-ปรึกษากฎหมาย ทนายความลีนนท์ พงษ์ศิริสุวรรณ โทร.085-9604258 -ติดต่อทางอีเมล : leenont0859604258@yahoo.co.th -ปรึกษากฎหมายผ่านทางไลน์ ไอดีไลน์ (5) ID line : (1) leenont หรือ (2) @leenont หรือ (3) peesirilaw หรือ (4) @peesirilaw (5) @leenont1 -Line Official Account : เพิ่มเพื่อนด้วย QR CODE การจัดการมรดกยังไม่สิ้นสุดลงอายุความ 5 ปียังไม่เริ่มนับ ทายาทฟ้องผู้จัดการมรดกอ้างว่าจัดการมรดกโดยทำบัญชีทรัพย์มรดกและแบ่งมรดกไม่ถูกต้องเป็นธรรม จึงเป็นคดีเกี่ยวกับการจัดการมรดก อายุความที่มิให้ทายาทฟ้องผู้จัดการมรดกเกินกว่า 5 ปี นับแต่การจัดการมรดกสิ้นสุดลงนั้น เมื่อปรากฏว่ายังมีทรัพย์มรดกหลายรายการที่ผู้จัดการมรดกจะต้องแบ่งให้แก่ทายาทและการจัดการมรดกยังไม่สิ้นสุดลง จึงยังไม่อาจเริ่มนับอายุความตามบทกฎหมายดังกล่าว และโดยเหตุที่จำเลยเป็นผู้จัดการมรดก ต้องรับผิดต่อทายาทในลักษณะตัวการตัวแทน การที่ผู้จัดการมรดกครอบครองที่ดินสองแปลง ซึ่งมีส่วนเป็นทรัพย์มรดกกึ่งหนึ่ง ถือได้ว่าเป็นการครอบครองแทนทายาท ตัวผู้จัดการมรดกจะยกอายุความขึ้นต่อสู้ทายาทหาได้ไม่ คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4116/2550 โจทก์ทั้งสี่ฟ้องจำเลยซึ่งเป็นผู้จัดการมรดกของ บ. ตามคำสั่งศาล อ้างว่าจำเลยจัดการมรดกโดยทำบัญชีทรัพย์มรดกและแบ่งมรดกไม่ถูกต้อง จึงเป็นคดีเกี่ยวกับการจัดการมรดก กำหนดอายุความต้องบังคับตาม ป.พ.พ. มาตรา 1733 วรรคสอง เมื่อยังมีทรัพย์มรดกที่จำเลยจะต้องแบ่งให้แก่ทายาทและการจัดการมรดกยังไม่สิ้นสุดลง จึงยังไม่เริ่มนับอายุความตามบทกฎหมายดังกล่าว และโดยเหตุที่จำเลยเป็นผู้จัดการมรดกต้องรับผิดต่อทายาทตามมาตรา 1720 ในลักษณะตัวการตัวแทนตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 809 ถึง 812, 819 และมาตรา 823 การที่จำเลยครอบครองที่ดินซึ่งมีส่วนเป็นทรัพย์มรดกกึ่งหนึ่ง ถือได้ว่าเป็นการครอบครองแทนทายาท จำเลยจะยกอายุความตามมาตรา 1754 ขึ้นต่อสู้ทายาทหาได้ไม่ โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ทั้งสี่เป็นบุตรของนายบุญเลี้ยง รัชบุตร กับนางคำ รัชบุตร ซึ่งจดทะเบียนสมรสกันตามกฎหมาย เมื่อนางคำถึงถึงแก่ความตาย นายบุญเลี้ยงสมรสใหม่กับจำเลยเมื่อปี 2517 และมีบุตรด้วยกัน 2 คน วันที่ 24 กันยนยน 2541 นายบุญเลี้ยงถึงแก่ความตาย ศาลจังหวัดอุดรธานีมีคำสั่งตั้งจำเลยเป็นผู้จัดการมรดกของนายบุญเลี้ยงเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2542 ต่อมาจำเลยทำบัญชีทรัพย์มรดกส่งให้โจทก์ทั้งสี่พร้อมแจ้งว่าจัดแบ่งทรัพย์มรดกเรียบร้อยแล้ว โดยโจทก์ทั้งสี่ได้รับส่วนแบ่งคนละ 10,059.32 บาท ซึ่งไม่ถูกต้อง เนื่องจากยังมีทรัพย์มรดกอยู่ในครอบครองของจำเลยที่ไม่ได้ระบุไว้ในบัญชีทรัพย์มรดก คือที่ดินโฉนดเลขที่ 13809 และ 13804 ที่ดินปลูกบ้านพร้อมสิ่งปลูกสร้าง รถไถนาชนิดเดินตาม และทรัพย์สินที่ระบุไว้ในบัญชีทรัพย์มรดกแล้วแต่ยังไม่ได้แบ่ง คือรถยนต์ยี่ห้อดัทสัน 1 คัน ปืน 2 กระบอก และรถจักรยานยนต์ 1 คัน รวมราคาประมาณ 2,650,250 บาท ทรัพย์สินดังกล่าวเป็นเป็นสินสมรสของนายบุญเลี้ยงกับจำเลย จึงเป็นทรัพย์มรดกกึ่งหนึ่งราคาประมาณ 1,325,125 บาท ซึ่งต้องแบ่งให้แก่ทายาท 7 คน โจทก์ทั้งสี่จะได้รับส่วนแบ่งคนละ 189,303 บาท รวมเป็นเงิน 754,214 บาท (ที่ถูก 357,212 บาท) ขอให้บังคับจำเลยแบ่งทรัพย์มรดกของนายบุญเลี้ยงแก่โจทก์ทั้งสี่คนละส่วนหรือแบ่งให้แก่โจทก์ทั้งสี่เป็นเงิน 754,214 บาท หากตกลงแบ่งกันไม่ได้ ให้นำทรัพย์มรดกดังกล่าวออกขายทอดตลาดนำเงินมาแบ่งให้แก่โจทก์ทั้งสี่คนละส่วน จำเลยให้การว่า จำเลยทำบัญชีทรัพย์มรดกถูกต้องแล้ว ที่ดินโฉนดเลขที่ 13809 และ 13804 และรถไถนาชนิดเดินตามมิใช่ทรัพย์มรดก แต่เป็นสินส่วนตัวของจำเลย ส่วนที่ดินปลูกบ้านพร้อมสิ่งปลูกสร้างเป็นทรัพย์สินที่นายบุญเลี้ยงยกให้จำเลยก่อนตาย จำเลยครอบครองที่ดินดังกล่าวมา 10 ปี และครอบครองรถไถนาชนิดเดินตามมา 3 ปี โจทก์ฟ้องขอแบ่งมรดกเกินกว่า 1 ปี นับแต่เจ้ามรดกถึงแก่ความตาย คดีโจทก์จึงขาดอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1754 ขอให้ยกฟ้อง ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยจัดการแบ่งทรัพย์มรดกของนายบุญเลี้ยง คือที่ดินโฉนดเลขที่ 13804 และ 13809 ตำบลบ้านถิ่น อำเภอโนนสัง จังหวัดหนองบัวลำภู รถไถนาชนิดเดินตาม รถยนต์ยี่ห้อดัทสัน 1 คัน ปืน 2 กระบอก และรถจักรยานยนต์ 1 คัน ให้แก่โจทก์ทั้งสี่ หากตกลงแบ่งกันไม่ได้ ให้นำทรัพย์มรดกดังกล่าวออกขายทอดตลาดนำเงินมาแบ่งให้แก่โจทก์ทั้งสี่ ให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ทั้งสี่ โดยกำหนดค่าทนายความ 10,000 บาท คำขออื่นให้ยก จำเลยอุทธรณ์ จำเลยฎีกา ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “คดีนี้จำเลยยื่นฎีกาภายในกำหนดฎีกาโดยฎีกาโต้แย้งคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 4 เฉพาะปัญหาเรื่องอายุความ ศาลชั้นต้นเห็นว่าฎีกาของจำเลยมีข้อความไม่ถูกต้องและสั่งให้จำเลยทำฎีกามาใหม่ จำเลยยื่นฎีกาฉบับใหม่โดยมีประเด็นอื่นเพิ่มเติม ศาลชั้นต้นสั่งรับฎีกาเฉพาะแต่ข้อที่เกี่ยวกับอายุความ ส่วนฎีกาข้ออื่นถือว่ายื่นล่วงพ้นกำหนดฎีกาจึงไม่รับ คงมีปัญหาวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยเพียงว่า คดีโจทก์ในส่วนที่ฟ้องขอแบ่งที่ดินโฉนดเลขที่ 13804 และ 13809 ตำบลบ้านถิ่น อำเภอโนนสัง จังหวัดหนองบัวลำภู ขาดอายุความหรือไม่ ข้อเท็จจริงรับฟังเป็นยุติตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 4 ว่า โจทก์ทั้งสี่เป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายของนายบุญเลี้ยง รัชบุตร กับนางคำ รัชบุตร เมื่อนางคำถึงแก่ความตาย นายบุญเลี้ยงสมรสกับจำเลยและอยู่กินฉันสามีภริยาจนมีบุตรด้วยกัน 2 คน ต่อมานายบุญเลี้ยงถึงแก่ความตาย จำเลยเป็นผู้จัดการมรดกของนายบุญเลี้ยงตามคำสั่งศาล ที่ดินโฉนดเลขที่ 13804 และ 13809 เป็นสินสมรสของนายบุญเลี้ยงกับจำเลย ทรัพย์สินดังกล่าวกึ่งหนึ่งตกเป็นมรดกของนายบุญเลี้ยงที่จำเลยฎีกา นายบุญเลี้ยงมิได้ทำพินัยกรรม มรดกที่ตกทอดแก่ทายาทโดยธรรมของนายบุญเลี้ยงหมายถึงแต่เฉพาะทรัพย์สินที่ระบุไว้ในคำร้องขอให้ศาลตั้งผู้จัดการมรดก การที่จำเลยครอบครองที่ดินโฉนดเลขที่ 13804 และ 13809 ซึ่งมีชื่อจำเลยเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ จึงไม่ถือว่าจำเลยครอบครองที่ดินในฐานะผู้จัดการมรดกแทนทายาทอื่นรวมทั้งโจทก์ทั้งสี่ โจทก์ทั้งสี่ฟ้องคดีเกิน 1 ปี จึงขาดอายุความนั้น เห็นว่า โจทก์ทั้งสี่ฟ้องจำเลยซึ่งเป็นผู้จัดการมรดกของนายบุญเลี้ยงตามคำสั่งศาล อ้างว่าจำเลยจัดการมรดกโดยทำบัญชีทรัพย์มรดกและแบ่งมรดกไม่ถูกต้อง จึงเป็นคดีเกี่ยวกับการจัดการมรดก กำหนดอายุความต้องบังคับตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1733 วรรคสอง ซึ่งบัญญัติมิให้ทายาทฟ้องเกินกว่า 5 ปี นับแต่การจัดการมรดกสิ้นสุดลง เมื่อปรากฏว่ายังมีทรัพย์มรดกหลายรายการที่จำเลยจะต้องแบ่งให้แก่ทายาทและการจัดการมรดกยังไม่สิ้นสุดลง จึงยังไม่อาจเริ่มนับอายุความตามบทกฎหมายดังกล่าว และโดยเหตุที่จำเลยเป็นผู้จัดการมรดก ต้องรับผิดต่อทายาทตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1720 ในลักษณะตัวการตัวแทนตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 809 ถึง 812, 819 และมาตรา 823 การที่จำเลยครอบครองที่ดินโฉนดเลขที่ 13804 และ 13809 ซึ่งมีส่วนเป็นทรัพย์มรดกกึ่งหนึ่ง ถือได้ว่าเป็นการครอบครองแทนทายาท จำเลยจะยกอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1754 ขึ้นต่อสู้ทายาทหาได้ไม่ ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 4 วินิจฉัยว่าคดีโจทก์ทั้งสี่ไม่ขาดอายุความ จึงชอบแล้ว” พิพากษายืน ให้จำเลยใช้ค่าทนายความ 5,000 บาท แทนโจทก์ทั้งสี่ ( ชัชลิต ละเอียด - บุญรอด ตันประเสริฐ - เฉลิมเกียรติ ชาญศิลป์ )
มาตรา 1754 ห้ามมิให้ฟ้องคดีมรดกเมื่อพ้นกำหนดหนึ่งปี นับแต่เมื่อเจ้ามรดกตายหรือนับแต่เมื่อทายาทโดยธรรมได้รู้ หรือควรได้รู้ถึงความตายของเจ้ามรดก มาตรา 1733 การให้อนุมัติ การปลดเปลื้องความรับผิด หรือข้อตกลงอื่นๆ อันเกี่ยวกับรายงานแสดงบัญชีการจัดการมรดกดั่งที่บัญญัติไว้ในมาตรา 1732 นั้น จะสมบูรณ์ต่อเมื่อรายงานแสดงบัญชีนั้นได้ส่งมอบล่วงหน้าแก่ทายาทพร้อมด้วยเอกสารอันเกี่ยวกับการนั้นไม่น้อยกว่าสิบวันก่อนแล้ว คดีเกี่ยวกับการจัดการมรดกนั้น มิให้ทายาทฟ้องเกินกว่าห้าปีนับแต่การจัดการมรดกสิ้นสุดลง
มาตรา 1720 ผู้จัดการมรดกต้องรับผิดต่อทายาทตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 809 ถึง 812, 819, 823 แห่งประมวลกฎหมายนี้โดยอนุโลม และเมื่อเกี่ยวกับบุคคลภายนอก ให้ใช้มาตรา 831 บังคับโดยอนุโลม
สำนักงานทนายความ โดย ทนายความ ลีนนท์ พงษ์ศิริสุวรรณ รับฟ้องคดีครอบครัว เช่น ฟ้องหย่าโดยความยินยอม ฟ้องหย่าตามบันทึกข้อตกลง ฟ้องหย่าให้โจทก์แต่เพียงผู้เดียวเป็นผู้ใช้อำนาจปกครอง ฟ้องหย่าให้จ่ายค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตร ฟ้องหย่าเรียกค่าเลี้ยงชีพ ฟ้องหย่าเรียกคืนของหมั้น ฟ้องหย่าแบ่งสินสมรส ฟ้องหย่าอ้างเหตุอุปการะเลี้ยงดูหญิงอื่น ฟ้องหย่าอ้างเหตุเป็นชู้หรือมีชู้ ฟ้องหย่าอ้างเหตุร่วมประเวณีกับผู้อื่นเป็นอาจิณ บริการของ สำนักงานพีศิริ ทนายความ สำนักงานพีศิริทนายความ ก่อตั้งโดย ทนายความ ลีนนท์ พงษ์ศิริสุวรรณ รับว่าความคดีแพ่ง คดีอาญา คดีผู้บริโภคและคดีอื่นๆ ทุกคดี รับเป็นที่ปรึกษาทางด้านกฎหมาย รับเป็นทนายความแก้ต่างต่อสู้คดี ข้อตกลง ตลอดจนข้อสัญญาต่างๆ เกี่ยวกับธุรกิจ ยื่นคำร้องขอเป็นผู้จัดการมรดก ยื่นคำร้องขอถอนผู้จัดการมรดก ฟ้องเรียกเงินผิดสัญญากู้ยืมเงิน ผิดสัญญาจ้างทำของ ฟ้องหย่า ฟ้องเกี่ยวเนื่องกับสิทธิในคดีครอบครัว ฟ้องเรียกบุตรคืน ฟ้องถอนอำนาจปกครองผู้เยาว์ ฟ้องหย่าและเรียกค่าอุปการะเลี้ยงดู ฟ้องหย่าและขอแบ่งสินสมรส ฟ้องหย่าและเรียกค่าทดแทนจากหญิงที่แสดงตนว่ามีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกับคู่สมรส ฟ้องหย่าและเรียกค่าเลี้ยงชีพ ฟ้องขอเป็นผู้ใช้อำนาจปกครองแต่เพียงผู้เดียว ฟ้องให้จดทะเบียนรับรองบุตร ยื่นคำร้องขอจดทะเบียนรับเด็กเป็นบุตร ฟ้องขอให้ศาลมีว่าเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายของผู้ตาย ฟ้องขอเปลี่ยนอำนาจปกครองบุตร ฟ้องให้คู่หย่าปฏิบัติตามบันทึกท้ายทะเบียนหย่า ฟ้องเรียกค่าอุปการะเลี้ยงดูตามบันทึกท้ายทะเบียนหย่า ฟ้องขอให้แบ่งทรัพย์สินตามบันทึกท้ายทะเบียนหย่า ฟ้องเรียกค่าทดแทนผิดสัญญาหมั้นเรียกสินสอดคืน ฟ้องบอกเลิกสัญญาหมั้นเรียกของหมั้นคืน ฟ้องคู่สมรสขอแยกกันอยู่ชั่วคราว ฟ้องขอให้จดทะเบียนใส่ชื่อเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์รวมคนละครึ่ง ยื่นคำร้องต่อศาลขออนุญาตแทนการให้ความยินยอมขายที่ดินสินสมรส ฟ้องขอเพิกถอนการให้ที่ดินสินสมรส ฟ้องขอใส่ชื่อเป็นเจ้าของร่วมในที่ดินสินสมรส ฟ้องขอใส่ชื่อเป็นเจ้าของร่วมในบัญชีธนาคาร ยื่นคำร้องขอเพิกถอนการจดทะเบียนสมรสซ้อน ยื่นคำร้องขอเพิกถอนการจดทะเบียนรับเด็กเป็นบุตร ฟ้องบิดาขอให้รับเด็กเป็นบุตรและเรียกค่าอุปการะเลี้ยงดูรวมมาด้วย ยื่นคำร้องขอให้ศาลสั่งว่าผู้ร้องเป็นบุตรเพื่อรับบำเหน็จตกทอดจากทางราชการ ฟ้องไม่รับเด็กเป็นบุตรเนื่องจากเป็นหมันไม่สามารถให้กำเนิดบุตรได้ ฟ้องคดีขอรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรม ยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งแทนการให้ความยินยอมของมารดาในการจดทะเบียนรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรม ยื่นคำร้องขอตั้งผู้ปกครอง ขอให้ศาลแต่งตั้งเป็นผู้ปกครองเด็ก คดีขอให้ศาลสั่งเปลี่ยนตัวผู้ใช้อำนาจปกครองหรือผู้ปกครอง ติดต่อทนายความได้เลย ฟ้องหย่าคิดถึงทนายความลีนนท์ ติดต่อทนายความลีนนท์ ได้ที่หมายเลข 0859604258
|