ReadyPlanet.com


อยากฟ้องเมียน้อยเรียกค่าเสียหาย


คือว่าดิฉันกับสามีแต่งงานจดทะเบียนกันมได้ 13 ปีแล้วค่ะ ปัจจุบันมีลูก สามคน สามีของดิฉันไปติดผู้หญิงได้ได้เสียกันจนมีลูกตอนนี้ก็คงประมาณขวบครึ่งแล้ว ดิฉันรู้สึกเสียใจมากจึงไม่ค่อยได้พูดคุยกับเขาและเขาก็ไปอยู่กับผู้หญิงคนนั้นได้ปีกว่าแล้วแต่กลับมาหาลูกเป็นประจำแต่ไม่ได้ค้างคืน ขอถามว่าจะฟ้องผู้หญิงเรียกค่าเสียหายได้หรือเปล่าค่ะ และเมื่อไม่นานมานี้ เขาได้ไปซื้อบ้านหลังหนึ่งโดยให้ญาติเป็นคนกู้ซื้อแต่เขาเป็นคนส่งค่างวดรายเดือนทุกเดือน อย่างนี้บ้านหลังนี้จะเป็นสินสมรสหรือไม่เพราะไม่ใช่ชื่อของเขาค่ะ เขาขอหย่ากับดิฉันแต่ดิฉันไม่อยากหย่า อย่างนี้เขาจะฟ้องหย่าได้มั้ยคะ ถ้ามีการแบ่งสินสมรสแล้ว ลูกคนใหม่ของเขาจะมีส่วนในสมบัติหรือไม่คะ ช่วยตอบด้วยค่ะ

 



ผู้ตั้งกระทู้ เกตุ :: วันที่ลงประกาศ 2008-05-03 22:04:09


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (1615368)

ตามมาตรา 1523 วรรคสาม บอกไว้ว่า    ถ้าสามีหรือภริยายินยอม หรือรู้เห็นเป็นใจให้อีกฝ่ายหนึ่งกระทำการตาม มาตรา 1516 (1) หรือให้ผู้อื่นกระทำการตามวรรคสอง สามีหรือภริยานั้นจะ เรียกค่าทดแทนไม่ได้ 

คือรู้เห็นเป็นใจที่สามีไปมีหญิงอื่นหรือยกย่องหญิงอื่นก็หมดสิทธิที่จะเรียกค่าทดแทนได้

ตามที่บอกมานั้นว่าสามีไปมีเมียน้อยจนมีบุตรกับเมียน้อยและบุตรนั้นอายุถึง 1ปีครึ่งแล้วซึ่งเห็นว่าเวลาล่วงเลยไปนานแล้ว แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าเราไม่รู้ หรือเพิ่งจะรู้จริงก็เรียกได้ครับ

การที่เขาไปซื้อบ้านให้หญิงอื่นหรือเมียน้อยนั้นถ้าสามารถพิสูจน์ได้ว่าเป็นความจริงทรัพย์นั้นก็ตกเป็นสินสมรสเพราะคุณยังเป็นสามีที่ชอบด้วยกฎหมายของเขา และทรัพย์สินนั้นได้มาภายหลังการสมรสแม้ว่าจะเป็นชื่อของคนอื่นก็ตาม เพราะว่า

มาตรา 1474 สินสมรสได้แก่ทรัพย์สิน
(1) ที่คู่สมรสได้มาระหว่างสมรส
(2) ที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งได้มาระหว่างสมรสโดยพินัยกรรมหรือโดย การให้เป็นหนังสือเมื่อพินัยกรรมหรือหนังสือยกให้ระบุว่าเป็นสินสมรส
(3) ที่เป็นดอกผลของสินส่วนตัว

ถ้ากรณีเป็นที่สงสัยว่าทรัพย์สินอย่างหนึ่งเป็นสินสมรสหรือมิใช่ ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นสินสมรส

กรณีที่ถามว่าเขาจะฟ้องหย่าได้หรือไม่ ก็อยู่ที่ข้อเท็จจริงอื่นๆว่าคุณมีความประพฤติเสียหายที่เขาจะอ้างเป็นเหตุฟ้องหย่าได้หรือไม่ซึ่งเหตุหย่ามีดังนี้

มาตรา 1516 เหตุฟ้องหย่ามีดังต่อไปนี้
(1) สามีหรือภริยาอุปการะเลี้ยงดูหรือยกย่องผู้อื่นฉันภริยาหรือสามี เป็นชู้หรือมีชู้ หรือร่วมประเวณีกับผู้อื่นเป็นอาจิณ อีกฝ่ายหนึ่งฟ้องหย่าได้
(2) สามีหรือภริยาประพฤติชั่ว ไม่ว่าความประพฤติชั่วนั้นจะเป็นความ ผิดอาญาหรือไม่ ถ้าเป็นเหตุให้อีกฝ่ายหนึ่ง
(ก) ได้รับความอับอายขายหน้าอย่างร้ายแรง
(ข) ได้รับความดูถูกเกลียดชังเพราะเหตุที่คงเป็นสามีหรือภริยาของฝ่าย ที่ประพฤติชั่วอยู่ต่อไป หรือ
(ค) ได้รับความเสียหายหรือเดือดร้อนเกินควร ในเมื่อเอาสภาพฐานะ และความเป็นอยู่ร่วมกันฉันสามีภริยามาคำนึงประกอบ

อีกฝ่ายหนึ่งนั้นฟ้องหย่าได้
(3) สามีหรือภริยาทำร้าย หรือทรมานร่างกายหรือจิตใจ หรือหมิ่น ประมาทหรือเหยียดหยามอีกฝ่ายหนึ่งหรือบุพการีของอีกฝ่ายหนึ่ง ทั้งนี้ ถ้าเป็นการร้ายแรง อีกฝ่ายหนึ่งนั้นฟ้องหย่าได้
(4) สามีหรือภริยาจงใจละทิ้งร้างอีกฝ่ายหนึ่งไปเกินหนึ่งปี อีกฝ่ายหนึ่ง นั้นฟ้องหย่าได้
(4/1) สามีหรือภริยาต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก และได้ถูกจำคุก เกินหนึ่งปีในความผิดที่อีกฝ่ายหนึ่งมิได้มีส่วนก่อให้เกิดการกระทำความผิด หรือยินยอมหรือรู้เห็นเป็นใจในการกระทำความผิดนั้นด้วย และการเป็นสามี ภริยากันต่อไปจะเป็นเหตุให้อีกฝ่ายหนึ่งได้รับความเสียหายหรือเดือดร้อนเกิน ควร อีกฝ่ายหนึ่งนั้นฟ้องหย่าได้
(4/2) สามีและภริยาสมัครใจแยกกันอยู่เพราะเหตุที่ไม่อาจอยู่ร่วมกัน ฉันสามีภริยาได้โดยปกติสุขตลอดมาเกินสามปี หรือแยกกันอยู่ตามคำสั่งของ ศาลเป็นเวลาเกินสามปี ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งฟ้องหย่าได้
(5) สามีหรือภริยาถูกศาลสั่งให้เป็นคนสาบสูญ หรือไปจากภูมิลำเนา หรือถิ่นที่อยู่เป็นเวลาเกินสามปี โดยไม่มีใครทราบแน่ว่าเป็นตายร้ายดีอย่าง ไร อีกฝ่ายหนึ่งฟ้องหย่าได้
(6) สามีหรือภริยาไม่ให้ความช่วยเหลืออุปการะเลี้ยงดูอีกฝ่ายหนึ่งตาม สมควร หรือทำการเป็นปฏิปักษ์ต่อการที่เป็นสามีหรือภริยากันอย่างร้ายแรง ทั้งนี้ ถ้าการกระทำนั้นถึงขนาดที่อีกฝ่ายหนึ่งเดือดร้อนเกินควรในเมื่อเอา สภาพ ฐานะและความเป็นอยู่ร่วมกันฉันสามีภริยามาคำนึงประกอบ อีกฝ่าย หนึ่งนั้นฟ้องหย่าได้
(7) สามีหรือภริยาวิกลจริตตลอดมาเกินสามปี และความวิกลจริตนั้นมี ลักษณะยากจะหายได้ กับทั้งความวิกลจริตถึงขนาดที่จะทนอยู่ร่วมกัน ฉันสามีภริยาต่อไปไม่ได้ อีกฝ่ายหนึ่งฟ้องหย่าได้
(8) สามีหรือภริยาผิดทัณฑ์บนที่ทำให้ไว้เป็นหนังสือในเรื่องความ ประพฤติอีกฝ่ายหนึ่งฟ้องหย่าได้
(9) สามีหรือภริยาเป็นโรคติดต่ออย่างร้ายแรงอันอาจเป็นภัยแก่อีกฝ่าย หนึ่งและโรคมีลักษณะเรื้อรัง ไม่มีทางที่จะหายได้ อีกฝ่ายหนึ่งนั้นฟ้องหย่าได้
(10) สามีหรือภริยามีสภาพแห่งกายทำให้สามีหรือภริยานั้น ไม่อาจร่วม ประเวณีได้ตลอดกาล อีกฝ่ายหนึ่งฟ้องหย่าได้

สำหรับการแบ่งสินสมรสนั้น เป็นเรื่องระหว่างสามีและภริยาไม่เกี่ยวกับบุคคลอื่นเพราะไม่ใช่มรดกครับ

ดังนั้นสินสมรสทั้งหมดแบ่งคนละครึ่งครับ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ลีนนท์ วันที่ตอบ 2008-05-04 17:27:32



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล