การที่แม่คุณมีชื่อเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ร่วมกับลุง ก็เท่ากับว่า ทั้งสองคนมีส่วนเป็นเจ้าของที่ดินคนละครึ่งหนึ่ง การที่แม่คุณใช้ประโยชน์ในที่ดินตั้งแต่แรกแต่เพียงผู้เดียวก็เป็นการครอบครองแทนลุงในส่วนครึ่งหนึ่งของลุง การครอบครองดังกล่าวไม่อาจถือว่าเป็นการนับการครอบครองปรปักษ์ ดังนั้นการที่ลุงไม่ได้มาทำประโยชน์เกือบ 30 ปี ก็ยังไม่ทำให้สิทธิครอบครองของลุงเสียไป เว้นแต่แม่คุณจะได้บอกกล่าวเปลี่ยนลักษณะแห่งการยึดถือไปยังลุงว่าต่อไปนี้จะครอบครองที่ดินในส่วนของลุงอย่างเป็นเจ้าของ (การแย่ง) โดยสงบ โดยเปิดเผย ด้วยเจตนาเป็นเจ้าของเป็นเวลา 10 ปี จึงจะได้กรรมสิทธิ์ในส่วนของลุง

เมื่อลุงยังมีชีวิตอยู่ ที่ดินในส่วนของลุงจึงยังไม่ถือเป็นมรดกของลุง แต่เป็นทรัพย์มีเจ้าของ และลูกลุงไม่ใช่เจ้าของรวม  ลูกของลุงไม่มีส่วนเป็นเจ้าของในที่ดินแปลงดังกล่าวจึงไม่มีสิทธิที่จะมาขอแบ่งที่ดินดังกล่าวได้ครับ

หากคุณต้องการครอบครองปรปักษ์ที่ดิของลุงต้องทำหนังสือไปหาลุงก่อนว่าต่อไปนี้จะแย่งการครองครองแล้ว ถ้าลุงไม่ดำเนินการใด ครบ 10 ปี ก็ครอบครองปรปักษ์ได้ครับ

มาตรา 1357  ท่านให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าผู้เป็นเจ้าของรวมกันมีส่วนเท่ากัน

มาตรา 1360  เจ้าของรวมคนหนึ่งๆ มีสิทธิใช้ทรัพย์สินได้ แต่การใช้นั้นต้องไม่ขัดต่อสิทธิแห่งเจ้าของรวมคนอื่นๆ

มาตรา 1381  บุคคลใดยึดถือทรัพย์สินอยู่ในฐานะเป็นผู้แทนผู้ครอบครองบุคคลนั้นจะเปลี่ยนลักษณะแห่งการยึดถือได้ ก็แต่โดยบอกกล่าวไปยังผู้ครอบครองว่าไม่เจตนาจะยึดถือทรัพย์สินแทนผู้ครอบครองต่อไป หรือตนเองเป็นผู้ครอบครองโดยสุจริต อาศัยอำนาจใหม่อันได้จากบุคคลภายนอก