ขอความกรุณาท่านครับ | |
ขอปรึกษาหน่อยครับพ่อผมเป็นลูกจ้างประจำค้ำประกันให้ครูใหญ่ ครูใหญ่โดนไล่ออก สหกรณ์ครูยื่นฟ้องครูใหญ่และพ่อผมและคนค้ำอีกคนรวมสามคนศาลพิพากษาให้จำเลยทั้งสามร่วมกันชำระหนี้แก่โจทย์จำนวนสองแสนกว่าบาทช่วงเดือนตุลาคม54 พอสิ้นเดือนตุลา 54 สหกรณ์ส่งเรื่องให้ต้นสังกันพ่อหักเงิน หกพันกว่าบาท โดยพ่อยังไม่ได้รับรู้หรือตกลงอะไรกันเลย ทางสหกรณ์ทำถูกต้องตามกระบวนการกฎหมายหรือไม่ครับ พ่อผมจะต้องทำไงบ้างครับ | |
ผู้ตั้งกระทู้ ff (kom-s-at-hotmail-dot-com) :: วันที่ลงประกาศ 2011-11-07 11:23:53 |
[1] |
ความคิดเห็นที่ 1 (2236107) | |
เมื่อศาลได้มีคำพิพากษาให้จำเลยทั้งสามชำระหนี้ตามคำพิพากษาแล้ว ในคำพิพากษา หรือคำบังคับ (ถ้าจำเลยไม่ได้ไปฟังคำพิพากษาด้วยตนเอง) กำหนดให้จำเลยหรือลูกหนี้ตามคำพิพากษาชำระหนี้ภายในเวลาที่กฎหมายกำหนดคือเช่น 15 วัน หรือ 30 วัน เมื่อพ้นกำหนดที่ว่านั้นแล้ว โจทก์ หรือเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาก็จะตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดีเพื่อยึดหรืออายัดทรัพย์ของลูกหนี้ตามคำพิพากษาเพื่อนำเงินมาชำระหนี้ให้กับโจทก์ หรือเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาต่อไป ในกรณีตามที่ถามมานั้น โดยรวมแล้วถือว่าเป็นสิทธิของเจ้าหนี้ที่จะอายัดเงินเดือนของพ่อได้ร้อยละ 30 ถ้าเงินเดือนเกิน 10,000 บาท หรือพูดง่าย ๆ ว่าเจ้าหนี้จะต้องเหลือเงินให้ลูกหนี้ใช้จ่ายในชีวิตประจำวันอย่างน้อย 10,000 บาท และไม่ต้องได้รับความยินยอมหรือตกลงอะไรจากพ่อหรือจำเลย เพราะเป็นการใช้สิทธิตามที่กฎหมายรับรอง เนื่องจากผมตอบคำถามตามข้อมูลที่ให้มาเพียงเล็กน้อยและไม่ได้เห็นรายละเอียดในเอกสารของลูกหนี้อาจมีความคลาดเคลื่อนได้ เช่นมีข้อสงสัยว่า ศาลมีคำพิพากษาในเดือนตุลาคม 54 เจ้าหนี้อายัดเงินเดือนในสิ้นเดือนเดียวกันซึ่งดูแล้วเหมือนระยะเวลาจะเร็วไปเพราะตามขั้นตอนน่าจะช้ากว่านั้นจึงจะรู้เรื่องการอายัดเงินเดือน
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น ทนายลีนนท์ วันที่ตอบ 2011-12-04 14:57:56 |
[1] |