ReadyPlanet.com


เป็นลูกจ้างตามกฎหมาย แต่ถูกบริษัทรับช่วงผลิตฟ้องร้องให้ชำระหนี้ร่วมกันกับนายจ้าง


รบกวนถามค่ะ

ดิฉันไม่ได้อยู่บ้านที่ตามบัตรประชาชนแต่มาเช่าบ้านอยู่ข้างนอกและไม่ได้ติดต่อทางบ้านเป็นเวลานานตั้งแต่ถูกเลิกจ้างงานจากบริษํทแห่งหนึ่ง

ดิฉันเป็นลูกจ้างของบริษัทในตำแหน่งเจ้าหน้าที่ผู้ช่วยผู้จัดการของบริษัทแห่งหนึ่งประมาณปี 2548-2549 จนกระทั่งเดือน สิงหาคม 2549 บริษัทประสบภาวะขาดทุนได้มีหนังสือเลิกจ้าง และดิฉันได้พ้นหน้าที่ในวันที่ระบุในหนังสือก่อนมีการปิดบริษํทถาวร

ลักษณะงานที่รับผิดชอบ คือรับผลิตสินค้าและสินค้าตัวใดที่บริษัทผลิตไม่ทันหรือเกินความสามารถก็ส่งให้บริษัทย่อยทำการผลิตต่อไป และมีหนังสือแจ้งไปว่าต้องการปริมาณเท่าใดว่าจ้างในราคาเท่าใด โดยใช้กระดาษของบริษัท ฯลฯ ทั้งนี้ปฎิบัติงานภายใต้คำสั่งของผู้บังคับบัญชา

เมื่อมีการสั่งผลิตแล้วมีการจัดนำมาส่งมีพนักงานแผนกรับของ ของบริษัทเป็นผู้รับสินค้านั้นไว้และลงลายมือชื่อ แล้วแต่กรณีว่าใครเป็นเวรรับของในวันนั้น ทั้งนี้ในการชำระเงินค่าสั่งทำสินค้ามีการวางบิลล่วงหน้าโดยฝ่ายบัญชีและผู้จัดการเป็นผู้ลงนาม // และการชำระเงินตามกำหนดมีกรรมการบริษัทเป็นผู้มีอำนาจสั่งจ่ายแต่เพียงผู้เดียว ตลอดการสั่งทำในช่วงแรกการจ่ายเงินไม่มีปัญหาใดๆ แต่ช่วงระยะหลังก่อนที่ข้าพเจ้าจะถูกเลิกจ้างนั้น บริษํทมีปัญหาในการชำระเงิน บริษัทที่รับช่วงผลิตจึงทำการหยุดผลิตและมีการทวงถามเรื่องการชำระเงินจากบริษัทเรื่อยมา จนกระทั่งดิฉันถูกเลิกจ้างตามกฎหมายโดยมีหนังสือเลิกจ้าง แต่ฝ่ายบัญชีและกรรมการผู้จัดการยังคงทำหน้าที่อยู่

** ได้ทราบในภายหลังว่ามีการโยกย้ายเครื่องจักรออกไปเพราะเป็นโรงงานเช่า**

ต่อมาบริษัทที่รับช่วงผลิตดังกล่าวได้มีหนังสือสำนักงานกฎหมายมาทวงหนี้ให้ดิฉันเป็นลูกหนี้ร่วมกับบริษํทให้ชำระหนี้ที่จ้างให้ผลิตชิ้นงานเป็นเงินประมาณ2แสนบาท โดยกล่าวหาว่าดิฉันเป็นผู้รับสินค้านั้นไปและไม่ยอมชำระค่าจ้าง * และดิฉันได้ติดต่อไปยังเจ้าของบริษัทดังกล่าว สอบถามว่าเหตุใดดิฉันถึงได้กลายเป็นลูกหนี้ร่วมก็ได้รับคำตอบว่าได้ไปติดต่อสำนักงานกฎหมายแต่ไม่ได้ให้ดิฉันเป็นลูกหนี้ บอกว่าสำนักงานกฎหมายนั้นได้ออกหนังสือไปเอง

อยากทราบว่าเรื่องผ่านมาประมาณ 3 ปีแล้วดิฉันมีความไม่สบายใจเรื่องนี้อยากทราบว่าดิฉันต้องทำอย่างไรจึงจะทราบว่าถูกฟ้องร้องทางแพ่งจริงเพราะได้สอบถามไปทางบ้านอีกว่าหลังจากมีหนังสือทวงถามแล้วก็ไม่มีเอกสารใดๆมาอีก  ต้องไปติดต่อที่ศาลหรือไม่ เพราะดิฉันมีทรัพย์สินเพียงรถยนต์ 1 คัน เพิ่งผ่อนหมดในปีนี้ และที่ดินอีกประมาณ 80 ตรว. ราคาประเมินประมาณ 4.4 หมื่นบาทเท่านั้น นอกจากนี้ก็ไม่มีทรัพย์สินใดอีก กลัวว่าที่ดินที่อุตส่าห์ผ่อนไว้จะถูกยึดเพราะจะเอาไว้ปลูกบ้านอยู่

ดิฉันอยากถามว่ากระณีนี้เป็นไปได้หรือไม่ว่า ดิฉันถูกฟ้องไปแล้ว หรือต้องไปติดต่อที่ใดเพราะเอกสารที่ญาติบอกว่าเคยส่งมาก็สูญหายไป เคยโทรไปสอบถามที่ศาลจังหวัดชลบุรีว่าดิฉันมีคดีความใดๆหรือไม่โดยให้หมายเลขประจำตัวประชาชนไปทางเจ้าหน้าที่บอกว่าไม่มีคดีใดๆ (บริษัทที่ทำงานอยู่ฉะเชิงเทรา)

และทราบข่าวมาล่าสุดว่ากรรมการบริษัทตอนนี้ได้ถูกอายัติบัญชีเงินฝากเพราะถูกฟ้องในหลายๆเรื่องจากหลายบริษัท

รบกวนท่านด้วยค่ะ ถ้าดิฉันถูกฟ้องร้องจริงมีทางใดจะแก้ไขได้บ้างที่จะต่อสู้คดีนี้ เอกสารการเลิกจ้างและเอกสารการรายงานตัวต่อกรมแรงงานก็ยังเก็บไว้ค่ะ เพราะตอนนี้มีอาชีพเปิดท้ายขายของและช่วยครอบครัวค้าขายเท่านั้นเองค่ะ

ขอขอบพระคุณค่ะ

 



ผู้ตั้งกระทู้ เกวลี :: วันที่ลงประกาศ 2009-11-02 02:07:22


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (2001740)

ตามข้อเท็จจริงที่ให้มานั้น ตัวคุณเองไม่เข้าข่ายที่จะเป็นลูกหนี้ร่วม และหากคุณถูกฟ้องก็อาจถูกฟ้องได้ 2 ที่คือ สถานที่มูลคดีเกิดคือที่ตั้งของบริษัท กับภูมิลำเนาที่เป็นสถานที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน ดังนั้นหากคุณตรวจสอบที่ศาลที่อยู่ในเขตอำนาจของคดีนี้ตามภูมิลำเนาดังที่แจ้งไว้ข้างต้นแล้วไม่มีคดีที่คุณถูกฟ้องแล้วก็คิดว่าคุณไม่น่าจะถูกฟ้องด้วย

หากคุณยังมีความสัมพันธ์ทีดีอยู่กับกรรมการผู้จัดการของบริษัทอาจสอบถามความคืนหน้ากับเขาได้อีกทางหนึ่ง แต่ดูความเป็นไปได้คิดว่าทางทนายความน่าจะทราบดีครับว่าคุณไม่น่าจะอยู่ในข่ายถูกฟ้องเป็นลูกหนี้ร่วม เพราะหากฟ้องไปโอกาสศาลยกฟ้องก็มีสูง (ตามข้อเท็จจริงที่แจ้งมา) เบื้องต้นจึงอยากให้คุณสบายใจได้ระดับหนึ่งแล้ว

ผู้แสดงความคิดเห็น ลีนนท์ วันที่ตอบ 2009-11-02 05:54:42


ความคิดเห็นที่ 2 (2001833)

โดยตามจริงแล้วกรรมการบริษัทไม่ได้เป็นผู้มาปฎิบัติงานเอง เป็นเพียงในนาม มีผู้บริหารอีกชุดหนึ่ง

แต่เวลามีการลงชื่อในเช็คการจ่ายเงินก็มาเซ็นให้น่ะค่ะ

ขอขอบพระคุณมากค่ะที่ช่วยตอบข้อข้องใจ

ผู้แสดงความคิดเห็น เกวลี วันที่ตอบ 2009-11-02 10:38:30


ความคิดเห็นที่ 3 (2002287)

ผมเองไม่มีข้อมูลว่าทางกรรมการถูกฟ้องข้อหาใด เพราะโดยปกติแล้ว การทำธุรกิจโดยบริษัทหรือนิติบุคคล การทำธุรกรรมต่าง ๆ ที่นิติบุคคลแสดงออกโดยกรรมการผู้มีอำนาจก็ไม่ต้องรับผิดในฐานะส่วนตัวอยู่แล้ว เว้นแต่ในเรื่องที่กฎหมายบัญญ้ติให้ต้องรับผิดด้วย

ผู้แสดงความคิดเห็น ลีนนท์ วันที่ตอบ 2009-11-02 17:40:22


ความคิดเห็นที่ 4 (2002366)

ขออภัยค่ะดิฉันอาจใส่ตำแหน่งผิดไป เป็นผู้ที่ขออณุญาตเปิดกิจการค่ะ (ตามหนังสือของบริษัท)

ถูกฟ้องร้องเรื่องไม่ชำระหนี้ค่ะ เพราะ มีชือ2ท่านเป็นผู้ขออนุญาตดำเนินกิจการคือ Mr.A และ ภรรยา บัญชีส่วนตัวถูกอายัดไว้ไม่สามารถเบิกถอนได้ ** (ผู้ที่ขออนุญาตเปิดกิจการไม่ได้มาบริหารเอง ผู้เข้ามาทำงาน ส่วนหนึ่งเป็นคนไทยและ คนสิงค์โปร์)

ณ.ขณะนั้นเมื่อเกิดปัญหาด้านการเงินเมื่อถึงเวลาจ่ายค่าจ้างเงินเดือนพนักงานก็เลื่อนเวลาอยู่บ่อยครั้ง ประมาณ3เดือนสุดท้ายที่ก่อนปิดกิจการนั้น เงินเดือนล่าสุดก็ช้าไปประมาณ 1 เดือน (ดิฉันถูกเลิกจ้างแล้วแต่เงินเดือนยังไม่ได้รับทันทีรอมาอีกประมาณ1เดือน เมื่อได้รับก็เพียงบางส่วนไม่ครบตามวันที่ทำงาน ซึ่งอันนั้นดิฉันไม่ได้ติดใจเอาความเพราะเข้าใจสถานการณ์ดีกว่าทนทำไปก็ไม่ได้รับค่าจ้าง)

คนที่มาทำงานบริหารกิจการในโรงงานนั้นตอนนี้ (หนี)กลับประเทศไปแล้วค่ะซ้ำยังแอบอ้างที่อยู่บ้านดิฉันเป็นที่ส่งเอกสารบัตรเครดิตอีกตั้งหลายใบ มีหมายศาลมาปิดหน้าบ้านแล้วค่ะ **

ขอบคุณค่ะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น เกวลี วันที่ตอบ 2009-11-03 02:16:33


ความคิดเห็นที่ 5 (2002372)

ก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีนะครับว่าผู้ก่อการในการจัดตั้งบริษัท ทำไมต้องถูกฟ้องในฐานะส่วนตัวด้วย เพราะถ้านิติบุคคลเป็นหนี้ นิติบุคคลนั้นก็ต้องรับผิดชอบไป เพราะถือว่าเป็นบุคคลต่างหากจากผู้ถือหุ้นครับ

ความเป็นไปได้ก็คือเป็นนิติบุคคลประเภทห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ซึ่งหุ้นส่วนผู้จัดการประเภทไม่จำกัดความรับผิดต้องรับผิดในหนี้ของห้างฯ โดยไม่จำกัดจำนวน

ผู้แสดงความคิดเห็น ลีนนท์ วันที่ตอบ 2009-11-03 05:39:52



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล