การหมั้นและการมัดจำต่างกันอย่างไร | |
สวัสดีคะ คุณอาทนาย หนูมีเรื่องจะรบกวนถามคะ หนูคบผู้ชาย คนหนึ่งตั้งแต่ตนปี 53 โดยที่ยังไม่ได้คิดจะแต่งงานด้วยเพราะพึ่งครบกัน และจะเรียนต่อปริญญาโท แต่เมื่อประมาณกลางปี 53 ผู้ชายได้ถามพ่อแม่หนูว่าจะมาขอเรียกค่าสินสอดเท่าไหร่ ซึ่งพ่อแม่บอกว่าแล้วแต่จะให้ตามสมควร ซึ่งทางพ่อแม่หนูไม่ได้เร่งรัดนะคะ เมื่อประมาณธันวาคม 53 เค้าได้งานอยู่แถวบ้านเลยต้องมาพักอยู่ที่บ้านหนู และเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2553 พ่อแม่ของผู้ชายได้มาที่บ้านหนู ซึ่งในวันนั้น มีผู้ใหญ่บ้านของหนูอยู่ด้วย และชาวบ้านทั้ง 2 ฝ่ายอีกอีกประมาณ 20 กว่าคน ซึ่งได้ตกลงค่าสินสอดไว้คือ เงินสด 100,000.-บาท และทองอีก 1 บาท ซึ่งได้วางเงินมัดจำไว้ 10,000.- บาท ไม่ได้มีรูปถ่ายนะคะ ตกลงไว้คือเดือนมิถุนายน 2554 จะมาสู่ขอ ซึ่งฝ่ายชายได้มาอยู่ที่บ้านหนู โดยที่ได้ลาออกจากงานมาอยู่บ้านเฉย-เฉย จนเมื่อวันที่ 28 มกราคม 2554 ผู้ชายได้กลับไปบ้านที่ จังหวัดหนองบัวลำภู โดยที่ไม่ได้ติดต่อกลับมาเลยเป็นเวลา 6 วัน จึงได้โทรกลับมาทวงโน๊ตบุ๊ค ซึ่งหนูแปลกใจมากไม่ถามถึงหนูเลยซักคำ จึงได้ถามกลับว่า แล้วเรื่องที่จะมาขอจะเอายังงัย เค้าตอบมาว่า พ่อแม่ไม่ให้มาแล้ว พ่อแม่ไม่ให้ไปที่เลยแล้ว ไม่มีเงิน และเค้ายังทวงเงินมัดจำคืน พอดีหนูรับราชการ อยู่อบต. ถ้าในกรณีนี่หนูจะสามารถแจ้งความดำเนินคดีอะไรกับเค้าได้หรือไม่ จะสามารถเรียกร้องค่าเสียหายได้หรือไม่เพราะคนรู้ทั้งหมูบ้าน ถ้าจะต้องจ้างทนายความหนูจะต้องทำอย่างไร เพราะอีก 3 เดือนก้อจะครบกำหนดแล้ว ถ้าเค้าไม่ติดต่อมาเลย จะต้องทำอย่างไร รบกวนตอบด่วนด้วยคะ เพราะจะได้รีบเตรียมเงินและเอกสารต่างๆ เพราะทางเค้ายืนยันว่าจะไม่มาสู่ขอตามที่ตกลงไว้ หนูรบกวนคุณอาทนายด้วยนะคะ | |
ผู้ตั้งกระทู้ ดอย :: วันที่ลงประกาศ 2011-02-05 10:27:06 |
[1] |
ความคิดเห็นที่ 1 (2150961) | |
การหมั้น เป็นสัญญาอย่างหนึ่งระหว่างชาย และหญิงคู่หมั้น ที่ตกลงจะสมรสกันในอนาคต การมัดจำ คือการวางเงินไว้เป็นหลักฐานว่าได้มีการทำสัญญากัน เพื่อเป็นหลักประกันว่าคู่สัญญาจะปฏิบัติตามสัญญา คำถาม--- ถ้าในกรณีนี่หนูจะสามารถแจ้งความดำเนินคดีอะไรกับเค้าได้หรือไม่? ตอบ --- แจ้งความตำรวจไม่รับแจ้งครับ คำถาม- จะสามารถเรียกร้องค่าเสียหายได้หรือไม่เพราะคนรู้ทั้งหมูบ้าน? ตอบ- ลักษณะเงินมัดจำ 10.000 บาท ไม่ถือว่าเป็นการหมั้นกันครับ เมื่อไม่มีสัญญาหมั้นจึงเรียกร้องอะไรไม่ได้ครับ คำถาม - ถ้าเค้าไม่ติดต่อมาเลย จะต้องทำอย่างไร? ตอบ-- ยึดเงินมัดจำ ซึ่งตามปกติคู่สัญญาจะไม่สามารถบังคับให้คู่หมั้นต้องสมรสกันตามสัญญา หรือบังคับคู่สัญญาให้สมรสได้ เพราะเป็นเรื่องส่วนตัวโดยแท้ของแต่ละบุคคล
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น ทนายความ ลีนนท์ วันที่ตอบ 2011-02-05 11:27:33 |
ความคิดเห็นที่ 2 (2151244) | |
สัญญากู้ยืมที่ฝ่ายชายทำให้ไว้แก่ฝ่ายหญิงเป็นเงิน 5,000 บาท แทนของหมั้นเพราะฝ่ายชายไม่มีเงินโดยมีเจตนาให้เงินตามสัญญากู้เป็นของหมั้นกันในวันข้างหน้า ไม่ได้มีการส่งมอบทรัพย์สินให้กัน เจตนาไม่ได้มุ่งต่อการให้สัญญากู้ตกเป็นของอีกฝ่ายหนึ่งในสภาพของ ของหมั้น และไม่มีความประสงค์ให้ตกเป็นสิทธิแก่หญิงเมื่อสมรสแล้ว หากฟังว่าให้เป็นเบี้ยปรับ เมื่อผิดสัญญาหมั้น จึงถือไม่ได้ว่าได้มีการให้ของหมั้นกันตามกฎหมาย หญิงจะฟ้องเรียกเงินตามสัญญากู้ในฐานะเป็นของหมั้นหาได้ไม่ ทั้งสัญญากู้ไม่มีมูลหนี้เดิมที่มีสิทธิเรียกร้องให้ชำระหนี้ได้ตามสัญญา คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1852/2506 | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ทนายความ ลีนนท์ วันที่ตอบ 2011-02-06 17:00:30 |
ความคิดเห็นที่ 3 (2151245) | |
ศาลฎีกาเห็นว่าประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1436 วรรคแรกบัญญัติว่า ของหมั้นคือทรัพย์สินซึ่งฝ่ายชายให้ไว้แก่ฝ่ายหญิงเพื่อเป็นหลักฐานและประกันว่าชายจะสมรสกับหญิงนั้น แต่สัญญากู้ท้ายฟ้องคดีนี้เป็นเพียงสัญญาจะให้ทรัพย์สินเป็นของหมั้นกันในวันข้างหน้า ยังมิได้มีการมอบหมายทรัพย์สินให้กันอย่างแท้จริง เจตนาอันแท้จริงของคู่สัญญาก็มิได้มุ่งต่อการให้สัญญากู้ตกเป็นของอีกฝ่ายหนึ่งในสภาพของของหมั้น และไม่มีความประสงค์ให้ตกเป็นสิทธิแก่หญิงเมื่อสมรสแล้ว แม้หากจะฟังว่าคู่กรณีมีเจตนาจะให้เป็นเบี้ยปรับในเมื่อผิดสัญญาหมั้น ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1438 ก็ได้บัญญัติว่า ถ้าได้มีคำมั่นไว้ว่าจะให้เบี้ยปรับในเมื่อผิดสัญญาหมั้นคำมั่นนั้นก็เป็นโมฆะ ในกรณีเช่นนี้จึงถือไม่ได้ว่าได้มีการให้ของหมั้นกันตามกฎหมาย โจทก์จะฟ้องเรียกเงินตามสัญญากู้ในฐานะเป็นของหมั้นหาได้ไม่ ทั้งสัญญากู้รายนี้ไม่มีมูลหนี้เดิมอันจะมีผลทำให้โจทก์มีสิทธิเรียกร้องให้จำเลยชำระหนี้ได้ตามสัญญา ตามฟ้องโจทก์ก็มิได้ฟ้องเรียกร้องค่าทดแทนฐานผิดสัญญาหมั้นหรือเรียกค่าสินไหมทดแทนจากการที่นายสวัสดิ์บุตรจำเลยได้ละเมิดทำอนาจารนางสาวเจียมน้องสาวโจทก์ และรูปคดีไม่จำเป็นต้องวินิจฉัยว่าสัญญากู้รายนี้เป็นเงินสินสอดตามข้อต่อสู้ของจำเลยหรือไม่ ดังที่ศาลอุทธรณ์ยกขึ้นวินิจฉัย เพราะหากสัญญากู้ดังกล่าวจะเป็นเงินสินสอดตามข้อต่อสู้ของจำเลย สัญญากู้ดังกล่าวก็เป็นเพียงประกันว่าจะมีการให้เงินสินสอดซึ่งเข้าลักษณะจะให้กันโดยเสน่หาเท่านั้น เมื่อยังไม่มีการส่งทรัพย์ให้แก่กัน ก็ไม่สมบูรณ์จะฟ้องเรียกทรัพย์ต่อกันมิได้เช่นกันที่ศาลชั้นต้นให้งดสืบพยานและพิพากษายกฟ้องโจทก์ชอบแล้ว
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น ทนายความ ลีนนท์ วันที่ตอบ 2011-02-06 17:01:32 |
[1] |