ตามปกติต้องบอกกล่าวล่วงหน้า 1 ช่วงการจ่ายค่าจ้างครับ ส่วนค่าจ้างค้างจ่ายก็ไปพบพนักงานตรวจแรงงานได้เลยครับ

พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541

มาตรา 17  สัญญาจ้างย่อมสิ้นสุดลงเมื่อครบกำหนดระยะเวลาในสัญญาจ้างโดยมิต้องบอกกล่าวล่วงหน้า

ในกรณีที่สัญญาจ้างไม่มีกำหนดระยะเวลา นายจ้างหรือลูกจ้างอาจบอกเลิกสัญญาจ้างโดยบอกกล่าวล่วงหน้าเป็นหนังสือให้อีกฝ่ายหนึ่งทราบในเมื่อถึงหรือก่อนจะถึงกำหนดจ่ายค่าจ้างคราวหนึ่งคราวใด เพื่อให้เป็นผลเลิกสัญญากันเมื่อถึงกำหนดจ่ายค่าจ้างคราวถัดไปข้างหน้าก็ได้ แต่ไม่จำต้องบอกกล่าวล่วงหน้าเกินสามเดือน ทั้งนี้ ให้ถือว่าสัญญาจ้างทดลองงานเป็นสัญญาจ้างที่ไม่มีกำหนดระยะเวลาด้วย

การบอกเลิกสัญญาจ้างตามวรรคสอง นายจ้างอาจจ่ายค่าจ้างให้ตามจำนวนที่จะต้องจ่ายจนถึงเวลาเลิกสัญญาตามกำหนดที่บอกกล่าวและให้ลูกจ้างออกจากงานทันทีได้

การบอกกล่าวล่วงหน้าตามมาตรานี้ไม่ใช้บังคับแก่การเลิกจ้างตามมาตรา 119แห่งพระราชบัญญัตินี้ และมาตรา 583 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

      อยากทราบคำจำกัดความของคำว่า "เงินตอบแทนกรณีจำเลยออกจากงาน"

เนื่องจากถูกอายัดเงินเดือนอยู่ 30% ตามกฎหมาย

บริษัทมีสวัสดิการเกี่ยวกับเงินสะสมอยู่ 2 ก้อน คือ

1.เงินรางวัลบำเน็จ บำนาญ ( ได้รับตอนเกษียน หรือลาออกจากงาน )

2.เงินรางวัลอายุงาน ( ได้รับตอนเกษียน หรือลาออกจากงาน และสามารถเบิกมาใช้บางส่วนก่อนเกษียนได้ตามอายุงาน )

     ปัจจุบันจะเบิกเงินรางวัลอายุงานมาใช้(ยังเป็นพนักงานปกติ)  แต่บริษัทแจ้งว่า ต้องส่งเงินดังกล่าวให้กรมบังคับคดี 100% ตามกฎหมาย ไม่ใช่แค่ 30% เนื่องจากบริษัทตีความว่าเงินดังกล่าวเป็นเงินตอบแทนกรณีออกจากงาน ไม่ทราบว่าบริษัททำถูกต้องหรือไม่

ในกรณีที่มีการบอกเลิกสัญญาจ้าง หรือเลิกจ้าง ไม่ว่าสัญญาจ้างสิ้นสุดลง เกษียนอายุเมื่ออายุครบ 55 ปี หรือ 60 ปี ตามข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน และนายจ้างมีหน้าที่ต้องจ่ายเงินค่าตอบแทนจากการทำงาน เช่น ค่าชดเชย ตามกฎหมายแรงงาน และเงินอื่นตามคำถามก็เป็นเงินที่ได้เนื่องจากการเลิกจ้าง

ค่าชดเชยเป็นเงินตอบแทนการทำงาน เจ้าหนี้โดยเจ้าพนักงานบังคับคดีอายัดได้ 100% ครับ

เงินรางวัลตามคำถามก็เป็นเงินที่ให้แก่ลูกจ้างเมื่ออกจากงาน แต่สามารถเบิกได้ระหว่างการทำงานโดยมีเงื่อนไข นายจ้างจึงต้องนำส่งแก่สำนักงานบังคับคดี 100 % ถูกต้องแล้วครับ