การขายอสังหาริมทรัพย์ในส่วนที่เป็นสินสมรส ถ้าไม่ได้รับความยินจากคู่สมรส  ผลจะเป็นอย่างไร?? ผลของการจัดการสินสมรส  โดยไม่ได้รับความยินยอมของ คู่สมรสอีกฝ่ายหนึ่งโดยได้จัดการสินสมรสไปฝ่ายเดียว คู่สมรสอีกฝ่ายหนึ่งขอให้ศาลเพิกถอนนิติกรรมนั้นได้ เว้นแต่คู่สมรสอีกฝ่ายหนึ่งได้ให้สัตยาบันแก่นิติกรรมนั้น  หรือในขณะที่ทำนิติกรรมนั้น บุคคลภายนอกได้กระทำไปโดยสุจริตและเสียค่าตอบแทน

การฟ้องขอให้ศาลเพิกถอนดังกล่าว ต้องฟ้องภายใน 1 ปี นับแต่วันที่รู้เหตุอันเป็นมูลขอให้ เพิกถอนแต่อย่างช้าที่สุดต้องไม่เกิน 10 ปี นับแต่วันที่ได้ทำนิติกรรมนั้น

ในกรณีของคุณนั้น ถ้าเป็นที่ดินที่สามีรับมรดกมาจากเจ้ามรดกย่อมเป็นสินส่วนตัวของสามี ดังนั้นสามีมีอำนาจจัดการสินส่วนตัวได้โดยไม่ต้องได้รับความยินยอมจากคู่สมรส ครับ 

สินส่วนตัวของผู้ใด ก็เป็นสิทธิของผู้นั้นที่จะใช้สอย จำหน่ายจ่ายโอน โดยไม่ต้องคำนึงว่า บุตร และภริยาชอบด้วยกฎหมายจะเห็นพ้องยินยอมหรือไม่ จะยกให้บุคคลภายนอกโดยเสน่หายังได้เลยครับ 

มาตรา 1476 สามีและภริยาต้องจัดการสินสมรสร่วมกันหรือได้รับความ ยินยอมจากอีกฝ่ายหนึ่ง ในกรณีดังต่อไปนี้
(1) ขาย แลกเปลี่ยน ขายฝาก ให้เช่าซื้อ จำนอง ปลดจำนอง หรือ โอนสิทธิจำนองซึ่งอสังหาริมทรัพย์หรือสังหาริมทรัพย์ที่อาจจำนองได้
(2) ก่อตั้งหรือกระทำให้สุดสิ้นลงทั้งหมดหรือบางส่วนซึ่งภาระจำยอม สิทธิอาศัย สิทธิเหนือพื้นดิน สิทธิเก็บกิน หรือภาระติดพันในอสังหาริมทรัพย์
(3) ให้เช่าอสังหาริมทรัพย์เกินสามปี
(4) ให้กู้ยืมเงิน
(5) ให้โดยเสน่หา เว้นแต่การให้ที่พอควรแก่ฐานานุรูปของครอบครัว เพื่อการกุศล เพื่อการสังคม หรือตามหน้าที่ธรรมจรรยา
(6) ประนีประนอมยอมความ
(7) มอบข้อพิพาทให้อนุญาโตตุลาการวินิจฉัย
(8) นำทรัพย์สินไปเป็นประกัน หรือหลักประกันต่อเจ้าพนักงานหรือศาล
 

การจัดการสินสมรสนอกจากกรณีที่บัญญัติไว้ในวรรคหนึ่ง สามีหรือภริยา จัดการได้มิต้องได้รับความยินยอมจากอีกฝ่ายหนึ่ง