การพรากผู้เยาว์ | |
อยากถามว่าหนูอายุ16แฟนอายุ21แล้ว เราสองคนมีลูกด้วยกัน แล้วตอนแรกที่แม่รู้ว่าเรามีอะไรกันแฟนก็มาขอขมาแม่เราแล้ว ทีนี้แฟนทะเลาะกับแม่ของเราแล้วแม่จะแจ้งจับแฟนข้อหาพรากผู้เยาว์ เราควรจะทำไงดีค่ะเพื่อที่เราจะได้ไปอยู่กะแฟนโดยที่แฟนไม่ต้องโดนจับ | |
ผู้ตั้งกระทู้ เวย์ :: วันที่ลงประกาศ 2010-09-09 23:36:27 |
[1] |
ความคิดเห็นที่ 1 (2106920) | |
ความผิดฐานพรากผู้เยาว์เป็นความผิดอาญาแผ่นดิน ไม่สามารถยอมความกันได้ แม้หญิงจะจดทะเบียนสมรสกับชายก็ไม่เข้าหลักเกณฑ์ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 277 วรรคห้า ที่ยกเว้นไม่ให้ผู้กระทำความผิดไม่ต้องรับโทษ เพราะในกรณี มาตรา 277 วรรคห้า ผู้กระทำความผิดต้องมีอายุไม่เกิน 18 ปี ดังนั้นชายจึงต้องรับโทษตามมาตรา 317 วรรคสาม คือพรากผู้เยาว์เพื่อการอนาจาร จำคุก 5 ปี ถึง 20 ปี และความผิดฐานอนาจารบุคคลอายุไม่เกิน 18 ปี ตาม มาตรา 283 ทวิ จำคุกไม่เกิน 5 ปี การกระทำความผิดเป็นกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบทลงโทษบทหนัก มาตรา 317 ผู้ใดโดยปราศจากเหตุอันสมควร พรากเด็กอายุยังไม่เกิน สิบห้าปีไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล ต้องระวางโทษจำคุก ตั้งแต่สามปีถึงสิบห้าปี และปรับตั้งแต่หกพันบาทถึงสามหมื่นบาท ผู้ใดโดยทุจริต ซื้อ จำหน่าย หรือรับตัวเด็กซึ่งถูกพรากตามวรรคแรก ต้องระวางโทษเช่นเดียวกับผู้พรากนั้น ถ้าความผิดตาม มาตรานี้ ได้กระทำเพื่อหากำไร หรือเพื่อการอนาจาร ผู้นั้นกระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี และปรับตั้งแต่ หนึ่งหมื่นบาทถึงสี่หมื่นบาท คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4142/2552
มาตรา 283ทวิ ผู้ใดพาบุคคลอายุเกินสิบห้าปีแต่ยังไม่เกินสิบแปดปี ไปเพื่อการอนาจาร แม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตาม ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน ห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ
ถ้าการกระทำความผิดตาม วรรคแรกเป็นการกระทำแก่เด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปี ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินเจ็ดปี หรือปรับไม่เกิน หนึ่งหมื่นสี่พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ผู้ใดซ่อนเร้นบุคคลซึ่งถูกพา ไปตามวรรคแรกหรือวรรคสอง ต้องระวาง โทษตามที่บัญญัติในวรรคแรกหรือวรรคสอง แล้วแต่กรณี ความผิดตามวรรคแรกและ วรรคสามเฉพาะกรณีที่กระทำแก่บุคคลอายุ เกินสิบห้าปี เป็นความผิดอันยอมความได้ คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4142/2552
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น ทนายความ ลีนนท์ วันที่ตอบ 2010-09-10 20:02:52 |
[1] |