ReadyPlanet.com


บัตรเครดิตไม่ได้เปิดใช้ แต่โดนหักยอด


อยากทราบข้อกฎหมายครับว่า เรายังไม่ได้เปิดใช้บัตรเครดิตเลย
แต่มีบริษัทประกันที่เป็นบริษัทเดียวกับบัตรเครดิต ทำไมสามารถหักยอดค่าใช้จ่ายเราได้ครับ
 

แล้วเราจัดการยังไงได้บ้างครับ



ผู้ตั้งกระทู้ cowboyman (jeff4c_cowboy-at-hotmail-dot-com) :: วันที่ลงประกาศ 2011-01-06 14:26:23


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (2143024)

คุณคงไปให้ข้อมูลบัตรอนุญาตให้หักค่าใช้จ่ายผ่านบัตรได้ ดังนั้นการรับบัตรเครดิต เท่ากับการเปิดใช้แม้ยังไม่ได้ซื้อสินค้าผ่านบัตรก็ตาม เช่น การซื้อบริการผ่านเน็ตโดยบัตรเครดิต เพียงบอกหมายเลขบัตรเครดิตก็มีผลให้ผู้ให้บริการหักเงินจากบัตรได้

ถ้าไม่ต้องการบัตรก็สมควรคืนบัตร หรือทำการยกเลิกครับ

(ตอบตามข้อมูลที่ให้)

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ทนายความ ลีนนท์ วันที่ตอบ 2011-01-06 14:49:51


ความคิดเห็นที่ 2 (2143290)

ถ้าเช่นนั้น เอกสารที่แนบมาว่า บัตรยังไม่มีผลการใช้จนกว่าจะโทรเปิดใช้บัตร
ก็ไม่มีผลอะไรสิครับ
 

ผู้แสดงความคิดเห็น cowboyman (jeff4c_cowboy-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2011-01-07 11:43:35


ความคิดเห็นที่ 3 (2143642)

เนื่องจากคำตอบ ต้องอาศัยข้อมูลที่ให้มา เมื่อข้อมูลคุณให้มาก่อนหน้านั้นไม่มีข้อเท็จจริงอื่นก็เป็นไปตามนั้นครับ ถ้าผมเป็นคุณผมก็จะโทรไปสอบถามธนาคารผู้ออกบัตรโดยตรงดีกว่าครับ เพราะสัญญาระหว่างผู้ขอมีบัตร กับผู้ออกบัตร ผมไม่ได้อ่านและศึกษาเงื่อนไขเลยจะตอบอะไรไปก็คงไม่ตรงกับข้อเท็จจริงที่ต้องอาศัยองค์ประกอบอื่น ๆ ด้วย

ผู้แสดงความคิดเห็น ทนายความ ลีนนท์ วันที่ตอบ 2011-01-08 19:49:46


ความคิดเห็นที่ 4 (2143697)

ขอบคุณมากครับ ^^

ผู้แสดงความคิดเห็น cowboyman (jeff4c_cowboy-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2011-01-09 01:00:09


ความคิดเห็นที่ 5 (2204053)

ขโมยบัตรเครดิตผู้อื่นไปรูดซื้อสินค้ามีโทษอย่างไร?

ความผิดฐานใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นชำระค่าสินค้า ค่าบริการหรือหนี้อื่นแทนการชำระด้วยเงินสดโดยมิชอบ จำเลยฎีกาอ้างว่า จำเลยนำบัตรเครดิตไปใช้ซื้อสินค้าจำนวน 2 รายการ ที่ร้านบิ๊กคาเมร่าในเวลาเดียวกัน การกระทำของจำเลยจึงเป็นกรรมเดียวกัน นั้น เห็นว่า โจทก์แยกฟ้องจำเลยเป็น 3 ข้อแตกต่างกัน และจำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้องแล้ว ดังนั้น ข้อเท็จจริงจึงยุติตามฟ้องโจทก์ เมื่อจำเลยฎีกาโต้แย้งทำนองว่า จำเลยนำบัตรเครดิตวีซ่าการ์ดดังกล่าวไปใช้ซื้อสินค้าทั้งสองรายการที่ร้านบิ๊กคาเมร่าในเวลาเดียวกันจึงเป็นข้อเท็จจริงที่จำเลยเพิ่งหยิบยกขึ้นมาว่ากล่าวในภายหลัง ซึ่งขัดแย้งกับฟ้องและคำให้การรับสารภาพของจำเลย เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ต้องห้ามมิให้ฎีกา ที่ศาลอุทธรณ์กำหนดโทษจำคุกจำเลยมานั้นหนักเกินไปเห็นสมควรกำหนดโทษสำหรับความผิดทั้งสองฐานเสียใหม่ เพื่อให้เหมาะสมแก่พฤติการณ์แห่งคดี จำคุกจำเลย 12 เดือน

           คำพิพากษาศาลฎีกาที่  6820/2552(อ่านเพิ่มเติมคล๊กที่นี่)

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ทนายความ ลีนนท์ วันที่ตอบ 2011-08-09 06:49:43



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล