เดือดร้อนใจมาก อยากจะขอปรึกษาหน่อยค่ะ

ดิฉันได้รับหมายและประกาศยึดทรัพย์ เมื่อวันที่ 29 พ.ย.2553  เนื่องจากฉันเป็นผู้ค้ำประกันลูกหนี้รายหนึ่ง เมื่อปี 2537  และลูกหนี้ได้ไปประนอมหนี้กับธนาคาร และได้ผิดสัญญา ไม่ปฏิบัติตามสัญญา   จนดิฉันได้รับหมายยึดทรัพย์ดังกล่าว   โดยที่ดิฉันไม่เคยรับรู้เรื่องใดๆจากทางธนาคารเลย นับจากวันลงชื่อเป็นผู้ค้ำประกัน  ไม่เคยไปศาลเพราะไม่เคยมีหนังสือมาแจ้งให้ไป  ไม่เคยมีหนังสือจากธนาคารแจ้งให้ทราบว่าลูกหนี้ผิดสัญญาเป็นหนี้อยู่เท่าไร  ต้องทำอย่างไรต่อไป   เมื่อได้รับหมายยึดทรัพย์ ดิฉันก็ได้ไปติดต่อธนาคาร พร้อมด้วยลูกหนี้   เพื่อไปเจรจาขอชำระหนี้โดยลดหย่อนดอกเบี้ยให้  และได้ชำระหมดแล้ว  เมื่อ 30 ธ.ค.2553  พร้อมชำระค่าธรรมเนียม การดำเนินคดี (เพราะกลัวถูกยึดโฉนดที่ดินพร้อมบ้าน )

ต่อมาธนาคารให้ทนายแจ้งมาให้ ดิฉันไปทำเรื่องถอนการยึดทรัพย์ที่กรมบังคับคดี  พร้อมกับให้เตรียมเงินไปชำระค่าถอนการยึดทรัพย์ด้วย

 ดิฉันจึงขอเรียนถามว่า

1.ดิฉันควรทำอะไร อย่างไร ต่อไปบ้าง 

       1.1 ยังไม่มีการบังคับยึดทรัพย์เกิดขึ้น  ดิฉันต้องเสียค่าธรรมเนียมอะไร อย่างไร  อัตราค่าธรรมเนียมคิดอย่างไร

        1.2 ธนาคารได้รับชำระหนี้ไปแล้ว  ไม่ใช่หน้าที่ของธนาคารจะแจ้งถอนคดีและชำระค่าธรรมเนียมหรือคะหรือคะ

2.ดิฉันต้องทำอย่างไร จึงจะได้รับเงินคืนจากตัวลูกหนี้รายหนี้   เพราะเขามีตัวตนอยู่ใกล้บ้านดิฉัน และมีรายได้จากการให้เช่าร้าน และแผงหน้าร้าน เดือนละ 5,000.-บาทกับมีรายได้จากงานที่เขาทำอีกด้วย  มีบ้านราคาเป็นล้านอยู่ มีสามี และลูกที่มีรายได้ประจำและซื้อรถป้ายแดง

3.ดิฉันเป็นข้าราชการบำนาญ ที่ลาออกมาก่อนเกษียณ  เหตุเพราะป่วย เส้นเลือดตีบ  ความดันโลหิตสูงและสูงมากเมื่อมีความเครียด   ขณะนี้ดิฉันเครียดมาก เพราะต้องเป็นหนี้เพื่อมาจ่ายให้ธนาคารแทนลูกหนี้ เพราะกลัวถูกยึดขายทอดตลาดตามประกาศกรมบังคับคดี  และขณะนียังไม่ได้ตอบทนายของธนาคารว่าจะไปกรมบังคับคดีวันไหน

จึงขอเรียนปรึกษา และโปรดให้คำแนะนำด้วยค่ะ  ด้วยความขอบพระคุณยิ่ง