ReadyPlanet.com


หย่า


ขอปรึกษาครับ คือผมแยกกันอยู่กับภรรยาได้ 1 ปีกว่าแล้วเหตุที่เลิกกันเพราะเขาจับได้ว่าผมมีผู้หญิงใหม่ ในช่วงแรกผมไม่คิดจะอยากหย่าเพราะสงสารลูก แต่ปัจจุบันภรรยาที่ถูกต้องตามกฏหมายเขาตามรังควานผู้หญิงอีกคนหนึ่งมากเหลือเกินแล้วเขาก็ส่งข้อความด่าผมโทรมาจนไม่เป็นอันทำงานแต่ผมก็รับผิดชอบทุกอย่าง ส่งบ้านให้ และทรัพย์สินผมก็ไม่ได้นำอะไรออกมาเลย ทำให้ผมต้องคิดจะหย่าเพราะเขาจะเอาทะเบียนสมรสเขามาอ้างตลอดเวลา ขอถามว่าถ้าผมฟ้องหย่ามีโอกาสมากน้อยแค่ไหนที่ศาลจะยกฟ้องหรือเปล่าครับ แต่ตอนนี้ผมไม่ได้อยู่กับผู้หญิงใหม่แล้วเพราะเขาก็ไม่ไหวเหมือนกันเขาให้ผมมาเคลียร์ตัวเองครับ รบกวนถามหน่อยน่ะครับ



ผู้ตั้งกระทู้ วี :: วันที่ลงประกาศ 2011-02-12 20:51:47


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (2153139)

"เหตุที่เลิกกันเพราะเขาจับได้ว่าผมมีผู้หญิงใหม่"

ตอบ---   เป็นเรื่องธรรมดาของภริยาทั่วไปที่ย่อมเกิดความหึงหวงต่อสามีและเขามีสิทธิที่จะหึงหวงเช่นนั้นได้เพราะเขาเป็นภริยาชอบด้วยกฎหมายของคุณ เราเป็นคนผิดก็ควรจะพิจารณาตัวเองครับ

"ในช่วงแรกผมไม่คิดจะอยากหย่าเพราะสงสารลูก"

ตอบ---   ไม่ว่าช่วงแรกหรือช่วงใด ก็ควรคิดถึงลูกที่เกิดมาให้มาก ๆ เขาอยากมีบิดา+มารดา ที่อบอุ่นเหมือนกับเพื่อน ๆ เขาไม่มีความผิดอะไร แต่ต้องมาแบกภาระกับความทุกข์ซึ่งเกิดขึ้นระหว่างบิดา + มารดา ขอมองเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญและใช้ความอดทนเพื่อบุตรดีที่สุดครับคุณ

"แต่ปัจจุบันภรรยาที่ถูกต้องตามกฏหมายเขาตามรังควานผู้หญิงอีกคนหนึ่งมากเหลือเกิน"

ตอบ---  ตราบใดที่เธอเป็นภริยาชอบด้วยกฎหมายย่อมมีสิทธิทำอย่างนั้นอยู่แล้วครับ เพราะคุณจดทะเบียนสมรสกับเธอ ย่อมรู้อยู่แก่ใจว่าคุณไม่มีเสรีภาพที่จะไปมีหญิงอื่นก่อนที่คุณจะได้จดทะเบียนหย่ากับภริยาเสียก่อน และในทางกลับกันภริยาคุณก็ไม่มีเสรีภาพที่จะไปมีสามีหรือชายอื่นเช่นกัน การที่เขายังตามหึงหวงกับคุณย่อมแสดงถึงความรักความห่วงใยและเยื่อใยที่ยังมีต่อสามีของเธอ ผมเห็นว่าไม่ใช่เรื่องน่าตำหนิแต่อย่างใด

"เขาก็ส่งข้อความด่าผมโทรมาจนไม่เป็นอันทำงานแต่ผมก็รับผิดชอบทุกอย่าง ส่งบ้านให้ และทรัพย์สินผมก็ไม่ได้นำอะไรออกมาเลย"

ตอบ---   กฎหมายบัญญัติให้ สามี ภริยา มีหน้าที่อุปการะเลี้ยงดูซึ่งกันและกัน และบิดา มารดา มีหน้าที่อุปการะเลี้ยงดูและให้การศึกษาตามฐานานุรูปของตน ดังนั้น ข้ออ้างดังกล่าวจึงไม่เป็นเหตุแก้ตัวที่จะหักล้างให้คุณเป็นคุณดีหรือเป็นฝ่ายถูกต้องที่จะอ้างเป็นเหตุฟ้องหย่าได้ และประเด็นสำคัญเธอก็มองว่าสิ่งที่คุณหยิบยื่นให้นั้นเป็นเรื่องรองลงมาเพราะสิ่งที่เขาอยากได้คือ สามีที่รักครอบครัว มากกว่าครับ (ความเห็น)

"ทำให้ผมต้องคิดจะหย่าเพราะเขาจะเอาทะเบียนสมรสเขามาอ้างตลอดเวลา"

ตอบ---   เธออ้างทะเบียนสมรสนั้น ถูกต้องแล้วครับ กฎหมายต้องการรับรองสิทธิของภริยาจึงกำหนดสิทธิและหน้าที่ต่อกันไว้ในกฎหมาย เมื่อคุณยอมรับที่จะผูกพันกันในฐานะสาม + ภริยา ตามกฎหมาย จึงได้จดทะเบียนสมรสต่อหน้านายทะเบียน ว่ายินยอมจะเป็นสามีภริยากัน และคุณกับเธอก็ได้สิทธินั้นแล้ว ดังนั้นการที่เขาอ้างทะเบียนสมรสตามที่คุณเล่ามาก็เป็นการอ้างที่กฎหมายรับรองว่าอ้างได้ครับ

"ขอถามว่าถ้าผมฟ้องหย่ามีโอกาสมากน้อยแค่ไหนที่ศาลจะยกฟ้องหรือเปล่าครับ"

ตอบ---   คุณไม่บอกเล่ามาว่าเขามีความผิดอะไร? เพียงแต่เล่าว่า เขาดำเนินการสิ่งต่าง ๆ ตามสิทธิที่ภริยาตามกฎหมายพึงมี ดังนั้นข้อเท็จจริงเท่าที่ให้มานั้นยังไม่อาจอ้างเป็นเหตุฟ้องหย่าได้ครับ ซึ่งเหตุฟ้องหย่ามีดังต่อไปนี้

มาตรา 1516 เหตุฟ้องหย่ามีดังต่อไปนี้
(1) สามีหรือภริยาอุปการะเลี้ยงดูหรือยกย่องผู้อื่นฉันภริยาหรือสามี เป็นชู้หรือมีชู้ หรือร่วมประเวณีกับผู้อื่นเป็นอาจิณ อีกฝ่ายหนึ่งฟ้องหย่าได้
(2) สามีหรือภริยาประพฤติชั่ว ไม่ว่าความประพฤติชั่วนั้นจะเป็นความ ผิดอาญาหรือไม่ ถ้าเป็นเหตุให้อีกฝ่ายหนึ่ง
(ก) ได้รับความอับอายขายหน้าอย่างร้ายแรง
(ข) ได้รับความดูถูกเกลียดชังเพราะเหตุที่คงเป็นสามีหรือภริยาของฝ่าย ที่ประพฤติชั่วอยู่ต่อไป หรือ
(ค) ได้รับความเสียหายหรือเดือดร้อนเกินควร ในเมื่อเอาสภาพฐานะ และความเป็นอยู่ร่วมกันฉันสามีภริยามาคำนึงประกอบ
อีกฝ่ายหนึ่งนั้นฟ้องหย่าได้
(3) สามีหรือภริยาทำร้าย หรือทรมานร่างกายหรือจิตใจ หรือหมิ่น ประมาทหรือเหยียดหยามอีกฝ่ายหนึ่งหรือบุพการีของอีกฝ่ายหนึ่ง ทั้งนี้ ถ้าเป็นการร้ายแรง อีกฝ่ายหนึ่งนั้นฟ้องหย่าได้
(4) สามีหรือภริยาจงใจละทิ้งร้างอีกฝ่ายหนึ่งไปเกินหนึ่งปี อีกฝ่ายหนึ่ง นั้นฟ้องหย่าได้
(4/1) สามีหรือภริยาต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก และได้ถูกจำคุก เกินหนึ่งปีในความผิดที่อีกฝ่ายหนึ่งมิได้มีส่วนก่อให้เกิดการกระทำความผิด หรือยินยอมหรือรู้เห็นเป็นใจในการกระทำความผิดนั้นด้วย และการเป็นสามี ภริยากันต่อไปจะเป็นเหตุให้อีกฝ่ายหนึ่งได้รับความเสียหายหรือเดือดร้อนเกิน ควร อีกฝ่ายหนึ่งนั้นฟ้องหย่าได้
(4/2) สามีและภริยาสมัครใจแยกกันอยู่เพราะเหตุที่ไม่อาจอยู่ร่วมกัน ฉันสามีภริยาได้โดยปกติสุขตลอดมาเกินสามปี หรือแยกกันอยู่ตามคำสั่งของ ศาลเป็นเวลาเกินสามปี ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งฟ้องหย่าได้
(5) สามีหรือภริยาถูกศาลสั่งให้เป็นคนสาบสูญ หรือไปจากภูมิลำเนา หรือถิ่นที่อยู่เป็นเวลาเกินสามปี โดยไม่มีใครทราบแน่ว่าเป็นตายร้ายดีอย่าง ไร อีกฝ่ายหนึ่งฟ้องหย่าได้
(6) สามีหรือภริยาไม่ให้ความช่วยเหลืออุปการะเลี้ยงดูอีกฝ่ายหนึ่งตาม สมควร หรือทำการเป็นปฏิปักษ์ต่อการที่เป็นสามีหรือภริยากันอย่างร้ายแรง ทั้งนี้ ถ้าการกระทำนั้นถึงขนาดที่อีกฝ่ายหนึ่งเดือดร้อนเกินควรในเมื่อเอา สภาพ ฐานะและความเป็นอยู่ร่วมกันฉันสามีภริยามาคำนึงประกอบ อีกฝ่าย หนึ่งนั้นฟ้องหย่าได้
(7) สามีหรือภริยาวิกลจริตตลอดมาเกินสามปี และความวิกลจริตนั้นมี ลักษณะยากจะหายได้ กับทั้งความวิกลจริตถึงขนาดที่จะทนอยู่ร่วมกัน ฉันสามีภริยาต่อไปไม่ได้ อีกฝ่ายหนึ่งฟ้องหย่าได้
(8) สามีหรือภริยาผิดทัณฑ์บนที่ทำให้ไว้เป็นหนังสือในเรื่องความ ประพฤติอีกฝ่ายหนึ่งฟ้องหย่าได้
(9) สามีหรือภริยาเป็นโรคติดต่ออย่างร้ายแรงอันอาจเป็นภัยแก่อีกฝ่าย หนึ่งและโรคมีลักษณะเรื้อรัง ไม่มีทางที่จะหายได้ อีกฝ่ายหนึ่งนั้นฟ้องหย่าได้
(10) สามีหรือภริยามีสภาพแห่งกายทำให้สามีหรือภริยานั้น ไม่อาจร่วม ประเวณีได้ตลอดกาล อีกฝ่ายหนึ่งฟ้องหย่าได้

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ทนายความ ลีนนท์ วันที่ตอบ 2011-02-13 09:06:54


ความคิดเห็นที่ 2 (2153162)

แบบนี้ถ้าผมต้องรอเวลาให้ถึง 3 ปีหรือเปล่าครับ แบบนั้นผมจะมีโอกาสฟ้องหย่าเขาได้ไหมครับแล้วศาลจะยกฟ้องหรือเปล่าครับหรือมีเหตุผลใดที่ผมจะหย่าได้บ้างครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น วี วันที่ตอบ 2011-02-13 11:47:17


ความคิดเห็นที่ 3 (2153487)

เหตุฟ้องหย่าได้สำเนามาให้อ่านหมดแล้วครับ เรื่องแยกกันอยู่เกิน 3 ปี เป็นเหตุฟ้องหย่าได้ก็จริงครับ แต่ต้องสมัครใจแยกกันอยู่นะครับ กรณีของคุณ บอกมาว่า คุณหนีไปมีภรรยใหม่ น่าจะไม่ใช่สมัครใจแยกกันอยู่ แต่สมัครใจเพียงฝ่ายเดียวนะครับ ถ้าจะอ้างเหตุนี้ ฟ้องไปโอกาศศาลยกฟ้องคงสูงครับ

สมัครใจแยกกันอยู่เกินสามปี
 บันทึก ระบุว่าโจทก์(สามี)และจำเลย(ภริยา)ตกลงที่จะไม่ทำการจดทะเบียนหย่ากันและโจทก์ยอมจ่ายเงินค่าอุปการะเลี้ยงดูและเงินบำเหน็จหรือบำนาญให้แก่จำเลย(ภริยา) เป็นสัญญาประนีประนอมยอมความมีผลทำให้ประเด็นเรื่องการหย่าซึ่งทั้งโจทก์และจำเลยยอมสละระงับสิ้นไป ในสัญญาไม่มีข้อความระบุว่าจำเลยสมัครใจแยกกันอยู่กับโจทก์ แต่จำเลยมีสิทธิที่จะหย่าโจทก์ได้เนื่องจากโจทก์มีภริยาอีกคนหนึ่งและทิ้งร้างจำเลยไปและจำเลยสละสิทธิที่จะหย่าโดยขอรับค่าอุปการะเลี้ยงดูแทน แต่พฤติการณ์ที่โจทก์ปฏิบัติต่อจำเลยนับแต่โจทก์ทิ้งร้างจำเลยจนกระทั่งทำสัญญาเป็นที่เข้าใจว่าโจทก์สมัครใจแยกกันอยู่กับจำเลยฝ่ายเดียว มิใช่เป็นเรื่องที่จำเลยมีความสมัครใจที่จะแยกกันอยู่กับโจทก์ โจทก์จึงไม่มีสิทธิฟ้องหย่าจำเลยโดยอาศัยเหตุฟ้องหย่าเรื่องสมัครใจแยกกันอยู่เกินสามปีได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4135/2541

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ทนายความ ลีนนท์ วันที่ตอบ 2011-02-14 16:24:52


ความคิดเห็นที่ 4 (2154538)

เขาเป็นคนไล่ผมออกมาเอง ผมไม่ได้หนีเขาออกมา ผมก็เป็นคนน่ะครับ จะให้ใครมานั่งด่าทุกวันเหมือนไม่ใช่คนคงไม่ไหวผมรู้ว่าผมผิดแต่เขาก็ไม่คิดจะให้มันดีขึ้น แบบนี้ชีวิตผมคงต้องทนอยู่อย่างนี้ต่อไปใช่ไหมครับ จะมีวิธีใดบ้างไหมครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น วี วันที่ตอบ 2011-02-18 20:55:23


ความคิดเห็นที่ 5 (2154653)

อย่าลืมว่าเป็นข้อเท็จจริงฝ่ายเดียวครับ ถ้ามีเรื่องถึงศาลเขาก็อาจอ้างส่วนไม่ดีของคุณได้เช่นกัน แต่อย่างไรก็ตามไม่ตัดสิทธิของคุณที่จะฟ้องหย่าได้ครับ ลองดูนะครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น ทนายความ ลีนนท์ วันที่ตอบ 2011-02-19 12:00:00



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล