ReadyPlanet.com


สอบถามเรื่องการโดนยึดทรัพย์


ขออนุญาติรบกวนสอบถามหน่อยนะค่ะ  หนูเป็นลูกสาว กลุ้มใจแทนพ่อกับแม่ค่ะ   ขอเล่าเรื่องนึดนึง คร่าวๆ บ้านของหนูเป็นทาว์เฮาว์ หนูเข้าอยู่ตั้งแต่ปี  2537 ตั้งแต่ 7 ขวบ - 2554 ตอนนี้อายุ24 ตอนแรก บ้านหลังนี้ หนู ป้า กับพี่ชาย(ลูกของป้า)  เค้ากู้ร่วมซื้อบ้านหลังนี้ด้วยกันค่ะ ต่อมามีการขายดาวน์ให้กับคุณพ่อ และคุณแม่ โดยทำสัญญาเอกสารธรรมดาตามภาษาพี่น้อง จ่ายเงินดาวน์เป็นเงินสด โดย ไม่ได้โอนกรรมสิทธิ์ในบ้าน เพราะความไว้ใจ ไม่อยากมาเสียเงินค่าโอนบ้าน  ต่อมา.. คุณแม่หนูได้มีการชำระเงินค่าบ้าน ผ่อนมาตลอดจนหมด เจ้าหน้าที่ ธ. ต่างทราบดี ว่าแม่หนูเป็นคนชำระค่างวดบ้าน รวมถึง ติดตามทวงถามค่าบ้านกับแม่หนู จนกระทั่งผ่อนบ้านเสร็จ จะโอนบ้านได้ติดต่อ พี่ชายให้มาเซ็นโอนบ้าน แต่ พี่ชายตุกติก ไม่ยอมเซ็นต์โอน แต่ป้ายอมเซ็นโอน พี่ชายเรียกร้องเงินค่าโอนบ้าน เนื่องจากเป็นคนมีหนี้สินเยอะไม่มีงานทำ อาชีพขับ taxi พยายามไถเงินพ่อกับแม่หนู ทีล่ะ 5000-10000 และจะโอนบ้านให้

จนกระทั่ง มีเจ้าหน้าที่กรมบังคับคดีมาที่บ้าน แจ้งจะมายึดทรัพย์ เนื่องจากพี่ชาย (ที่ไม่ยอมโอนบ้าน) ติดหนี้เป็นจำนวนหนึ่ง พ่อกับแม่หนูตกใจมาก แต่เบื้องต้นได้ทำหนังชี้แจงกับกรมบังคับคดีแล้วและได้จ้างทนายที่เพื่อนแนะนำ มาดำเนินการให้ ฟ้องพี่ชาย และ บ. ที่จะยึดทรัย์ แต่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะดวงไม่ดีหรืออะไร เจอทนาย /ทนายก็ไม่ค่อยให้กำลังใจ ไม่ติดตามคดี แถมยังไม่มีการส่งสำนวน สคิปอะไรให้ดูอีกต่างหาก พ่อกับแม่หนูต้อง เขียนเรื่องราวสคิปให้ทนายอ่าน หนูรู้สึก เครียดแบบบอกไม่ถูกจริงๆ ค่ะ ขนาดขึ้นศาลวันไหน ยังไม่โทรติดต่อมาบอกเลย ต้องโทรถามเอง

เบื้องต้นหนูจะสอบถามความเป็นไปได้ของคดี ค่ะ

 1 .พ่อกับแม่หนูมีโอกาศชนะบ้างมั้ย อยู่มาเกือบ20 ปี ถ้าบ้านโดนยึดไม่รู้จะไปอยู่ไหนจริงๆ 

2.  จะขึ้นศาลวันที่ 24 มีค อยากเปลี่ยนทนาย ทำได้มั้ย ต้องทำยังไงค่ะ บอกตามตรงทนายคนนี้ ไม่ไหวจริงๆ

3.  พี่ชายหนูมันหัวหมออีกอย่างค่ะ / ตอนปี 39 แม่หนูยืมเงินพี่ชายมาทำธุรกิจ100000  และได้เซ็นเช็คไว้ให้ ประมาณว่า กำหนดคืนอ่ะค่ะ/ ต่อมา พี่ชายมาขอเงินสดที่บ้าน/แม่หนูให้เงินสดพี่ชายคืน 35000+ และให้เช็คใบใหม่ 65000 ไป/ ต่อมาแม่หนูขอเรียกเช็คคืน100000 บาท พี่ชายแจ้ง ทำหาย/ แม่หนูเลยไปอายัดกับ ธ. และไมได้ติดใจอะไร/ จนกระทั่งปัจจุบัน 2554 พี่ชายได้ถือเช็คนั้นมาหาทนายของ พ่อหนู บอกว่าไม่ต้องไปช่วยพ่อกับแม่หนู เพราะพ่อกับแม่หนูติดเงินเค้า100000 เบื้องต้น พ่อหนูติดต่อ ธ. ขอเอกสารอายัดเช็ค100000 แต่ ธ. แจ้งว่าเกิน10 ปี ทำลายเอกสารไปแล้ว

หนูเลยจะสอบถามว่า เช็คเก่าเกิน 10 ปี มีผลทางคดีมั้ย เนื่องจากว่า พ่อหนูฟ้องพี่ชายที่ไม่ยอมโอนบ้าน กับ บริษัท (เจ้าหนี้พี่ชาย) แต่กลัวพี่ชายใช้ขออ้างว่า แม่ไม่จ่ายเงินดาวน์ค่ะ 100000 เลยไม่โอน

ซึ่งมันไม่เกี่ยวกันเลย แต่พี่ชายหนูขี้โกง ทำได้ทุกอย่าง ทั้งๆ ที่ทำสัญญาจ่ายเงินดาวน์บ้านทำตอน 2537   แต่ พ่อกับแม่หนูยืมเงินมัน 2539 มาแกล้งเป็นข้ออ้างค่ะ อีกอย่างมันตุกติกโกหกว่าไม่เคยทำสัญญาซื้อขายบ้านกับแม่หนูด้วย



ผู้ตั้งกระทู้ คนกลุ้มใจ :: วันที่ลงประกาศ 2011-03-07 07:52:02


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (2158921)

1 .พ่อกับแม่หนูมีโอกาศชนะบ้างมั้ย อยู่มาเกือบ20 ปี ถ้าบ้านโดนยึดไม่รู้จะไปอยู่ไหนจริงๆ

ตอบ   คำถามนี้จะตอบได้ก็ต้องรู้ว่า การตั้งคำฟ้องของทนายความคุณตั้งฟ้องด้วยอาศัยข้ออ้างที่เป็นประเด็นฟ้องว่าอย่างไรจึงจะพอตอบได้ และผมไม่มีข้อมูลพอถ้าตอบไปก็คงได้แค่พอเดา ๆ ไปเท่านั้น ขอแนะนำว่ามีอะไรก็พูดคุยกับทนายความได้เลยครับ คุณเป็นผู้ว่าจ้างมีสิทธิที่จะได้รับรู้ความคืนหน้าของคดีได้ อย่าไปถือสาอะไรเลยใครโทรหาใครก็มีความหมายเหมือนกันคือทำให้คดีเดินไปในทิศทางที่ดี คุณโทรหาเขาบ้าง ทนายโทรหาคุณบ้างก็ไม่น่าจะเสียหายอะไร

2.  จะขึ้นศาลวันที่ 24 มีค อยากเปลี่ยนทนาย ทำได้มั้ย ต้องทำยังไงค่ะ บอกตามตรงทนายคนนี้ ไม่ไหวจริงๆ

ตอบ  ถ้าจะให้ตอบตามความเป็นไปได้ก็สามารถเปลี่ยนได้อยู่แล้วครับ แต่เนื่องจากการฟ้องต้องมีการตั้งรูปคดีดังนั้นถ้าทนายเดิมตั้งรูปคดีไว้อย่างไรก็ต้องเดินไปตามข้อฟ้องเดิมนั้นซึ่งอาจจะถูกทางหรือผิดทางก็เป็นไปได้ทั้งนั้น ถ้าต่อมาคดีไม่เป็นไปตามที่คาดหวังแล้ว ภาระหนักก็อาจต้องตกอยู่กับทนายคนใหม่(ก็ได้) และเขาก็ควรจะยินยอมถอนทนายความให้ด้วย เพราะมิฉะนั้นจะกลายเป็นทนายความแย่งคดีกันไป ก็อาจมีความผิดเรื่องมรรยาททนายความก็ได้ซึ่งทนายทุกคนก็ระมัดระวังอยู่ไม่น้อยทีเดียว

3.  พี่ชายได้ถือเช็คนั้นมาหาทนายของ พ่อหนู บอกว่าไม่ต้องไปช่วยพ่อกับแม่หนู เพราะพ่อกับแม่หนูติดเงินเค้า100000

ตอบ   ถ้าเช็คลงวันที่ไว้แล้วก็คงไม่มีปัญหาอะไรแล้วครับ และอีกอย่างเรื่องอย่างนี้ก็สามารถพิสูจน์ที่มาที่ไปได้ ไม่น่ากลัวอะไรในเรื่องเช็คครับ อย่างไรก็ตาม แนะนำให้โทรคุยกับทนายความนะครับ 
 

ผู้แสดงความคิดเห็น ทนายความ ลีนนท์ วันที่ตอบ 2011-03-07 08:25:26


ความคิดเห็นที่ 2 (2158938)

เป็นความกรุณามากๆ ค่ะ  ที่อุส่าสละเวลามาตอบปัญหา ขอบคุณน่ะค่ะ อย่างไร จะให้คุณแม่โทรปรึกษาค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น คนกลุ้มใจ วันที่ตอบ 2011-03-07 09:24:24


ความคิดเห็นที่ 3 (2158968)

ถึง คุณทนาย ลีนนท์.

 

ขอบคุณสำหรับคำปรึกษา 

เบื้องต้นวันนี้ ช่วงเข้า คุณแม่หนูไปหาทนาย  ทนายบอกว่า กลัวแพ้คดี เพราะพี่น้องกันไม่เข้าข้างกันเลย

ทนายบอกแม่หนูว่าไงรู้มั้ยค่ะ บอกว่า ถึงสู้คดีไป ถ้าชนะ คดีหนี้สินของพี่ชาย จากบริษัทอื่นๆ ก็จะตามมาฟ้องอีก ไม่จบสิ้น

ทนายบอกว่าให้แม่หนูใช้หนี้แทนพี่ชายค่ะ บอกว่าจะได้จบๆ เรื่องๆ ไม่ต้องเหนื่อย ขึ้นศาลวันที่ 24/03 ให้หาเงินไปจ่ายก่อน แสนกว่าบาทเป็นคดีบัตรเครดิต ทนายบอกว่า จะได้จบเรื่องแล้วรีบโอนก่อนคดีอื่นๆ จะตามมา

หนูเลยจะสอบถามว่า แบบนี้มันถูกต้องไม่ค่ะ มันไม่ใช่หนี้ของครอบครัวหนู ถ้าเราไม่ใช้หนี้แทน แล้วยืนยันฟ้องต่อไป มันจะมี บ. อื่นๆ ตามมาฟ้องเพิ่มหรอค่ะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น คนกลุ้มใจ วันที่ตอบ 2011-03-07 11:01:33


ความคิดเห็นที่ 4 (2159076)

ตอนนี้ผมเริ่มเข้าใจแล้วครับ หลังจากที่คุณพ่อคุณได้ติดต่อเข้ามาหาผม จึงทราบว่าเป็นเรื่องที่เจ้าหนี้เห็นว่าบ้านหลังนี้เป็นชื่อของพี่ชาย แล้วพี่ชายมีหนี้สินจึงมายึดบ้าน และทนายความของคุณยื่นคำร้องขัดทรัพย์ไป คือทนายอ้างว่าบ้านไม่ใช่ของพี่ชาย แต่เป็นของคุณพ่อ

ที่ถูกต้องพี่ชายคุณน่าจะเจรจาใช้หนี้ให้กับเจ้าหนี้ไป ผมไม่มีข้อมูลว่าเรื่องส่วนตัวระหว่างครอบครัวคุณกับพี่ชายเรื่องหนี้สิน (เช็ค) ความจริงเป็นอย่างไร จึงได้นำมายกขึ้นอ้างไปมาอย่างนี้ เพราะถ้าไม่ใช่หนี้ของครอบครัวคุณ ที่ถูกต้องทางคุณไม่ต้องรับผิดชอบอะไร

เนื่องจากวันที่ 24/3/54  ผมติดศาลอื่นอยู่แล้วจึงได้แจ้งให้พ่อคุณทราบไปแล้ว อย่างไรก็ตามก็ขอขอบคุณที่ให้ความไว้วางใจทางผมนะครับ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ทนายความ ลีนนท์ วันที่ตอบ 2011-03-07 17:20:37



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล