เนื่องจากเมื่อปี 2550 ผมอาศัยอยู่หอพักได้เดินไปอาบน้ำซึ่งห้องน้ำอยู่ติดกับห้องนอนผู้เสียหายในขณะที่แปลงฟันอยู่ผู้เสียหายได้ด่าผมว่าเดินเสียงดังและใช้คำหยาบด่าผมอีกหลายคำด้วยความโกรธผมออกมาจากห้องน้ำและเดินมาตบที่ประตูของผู้เสียหาย 2-3 ครั้งผู้เสียหายเปิดประตูออกมาพร้อมกับต่อยผมโดนที่ศรีษะเพราะตัวเล็กกว่ามาก ผมคว้ามีดทำครัวซึ่งอยู่ตรงห้องน้ำฟันไปที่ผู้เสียหายจังหวะนั้นแฟนผมเข้ามาห้ามก็แยกกันไปวันรุ่งขึ้นผู้เสียหายไปแจ้งความและวันเดียวกันผมก็ไปให้ปากคำกับตำรวจทันทีซึ่งได้เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ตำรวจฟังโดยผู้เสียหายไม่ยอมรับว่าต่อยผมก่อนผมจึงเห็นว่าไม่ถูกต้องจึงให้การปฏิเสธไปร้อยเวรจึงแจ้งว่าจะทำเป็นต่างคนต่างแจ้งแล้วไปสู้กันในชั้นศาล และทำสำนวนส่งอัยการ ผมโดนข้อหา ทำร้ายร่างกายให้ได้รับบาทเจ็บ ใบแพทย์ระบุว่า ผู้เสียหายได้รับบาทเจ็บบริเวณ สีข้างด้านซ้าย 3 แผล บาดแผลยาว 2-3 เซน จะหายได้ภายใน 7 วัน  อัยการสั่งฟ้องและผมไปยอมรับในชั้นศาล  ศาลปรับ 1500 บาท และรอลงอาญา 1 ปี และในส่วนที่ผมแจ้งผู้เสียหายว่าต่อยผมก่อนอัยการสั่งไม่ฟ้องเพราะผมไม่มีบาทแผล จากนั้นผมก็ไม่ได้สนใจเพราะคิดว่าเรื่องคงจบไปแล้วและอยู่ในช่วงที่ติดทหารเกณฑ์ และมาจนถึง วันที่ 1 มีนาคม 2554 ตำรวจได้นำหมายจับมาจับผม และส่งตัวให้ร้อยเวร ผมเองไม่เคยทราบมาก่อนว่ามีคดีจึงขอดูหมายเรียกร้อยเวรให้ดูแป๊บนึงแล้วดึงกลับอ้างว่าให้ดูไม่ได้แต่เท่าที่ผมสังเกตุคือลายเซ็นที่รับหมายไม่ใช่ลายมือผม แต่ตำรวจอ้างว่าศาลออกหมายจับแล้วถือว่าถูกต้องผมประกันตัวออกมา และในวันนี้ได้นัดส่งตัวให้อัยการแต่ไม่ทราบว่าติดปัญหาอะไรร้อยเวรที่พาไปบอกว่าต้องผัดฟ้องซึ่งผมไปนั้งรอที่อัยการจังหวัดทั้งวัน และนัดให้ผมไปใหม่อีกในวันพรุ่งนี้ เท่าที่ทราบตอนนี้คือทางร้อยเวรบอกว่าทำเป็นคดีแดงส่งไปซึ่งเป็นคดีที่ศาลตัดสินแล้ว ผมอยากทราบว่ากรณีนี้ผมพอมีทางต่อสู้คดีได้หรือไม่ และถึงตอนนี้ถือว่าอัยการสั่งฟ้องหรือยังครับ ผมยอมรับในคดีที่ผู้เสียหายฟ้องผมแต่ที่ผมฟ้องเค้าแล้วอัยการสั่งไม่ฟ้องแล้วเค้าฟ้องกลับ ถือว่าผมแจ้งความเท็จหรือไม่ ถ้าผมจะสู้คดีแบบนี้ผมควรจ้างทนายเองหรือไม่หรือใช้ทนายที่ศาลมีให้ก็พอ