คุณตาต้องการขายบ้านที่เป็นสินสมรส | |
เรื่องมีอยู่ว่า ตากับยายของกระผมได้จดทะเบียนสมรสกันมีบุตรด้วยกันทั้งหมด 7 คน เสียชีวิตแล้ว 3 คน ( 2 ใน 3 เป็นโสดและอีกคนมีครอบครัว ) จึงเหลือเพียง 4 คน ต่อมา ยายได้เสียชีวิตลง จึงเหลือเพียงตาคนเดียวที่อาศัยอยู่ในบ้านที่ได้สร้างขึ้นระหว่างที่ยายยังมีชีวิตอยู่ ซึ่งลูกๆ แต่ละคนต่างมีครอบครัวหมดแล้ว ซึ่งระหว่างที่ตาอาศัยอยู่ในบ้านหลังดังกล่าว แม่ของกระผมก็จะคอยไปดูแลเอาใจใส่ตาอยู่เป็นประจำ แต่ลูกอีก 3 คนนั้นแทบจะไม่ได้ดูแลตาเลยทั้งทีบ้านก็อยู่ติดกับบ้านของตา ( บางครั้งตาป่วยไม่สบายยังไม่ค่อยเหลี่ยวแลเลย ต้องโทรตามให้แม่หรือ กระผมเข้าดูแล ทั้งทีระยะทางจากบ้านกระผมถึงบ้านตา ก็ใช่ว่าจะใกล้เหมือนกับบ้านของลูกตาอีก 3 คน ต่อมาตาต้องการที่จะมาอาศัยอยู่บ้านหลังเดียวกับแม่โดยการที่เรียกลูกทุกคนมาคุย รายละเอียดในการพูดคุย คือ ตาจะย้ายมาอยู่กับแม่ของกระผมจะให้แม่กระผมเป็นผู้เลี้ยงดู และลูกจำนวน 2 ใน 3 คน ยินยอมตกลงจะยกบ้านหลังที่เป็นสินสมรสของตากับยายให้แก่แม่ของกระผม และได้ทำหนังสือขึ้นมา 1 ฉบับ ซึ่งเป็นลายมือของตาทั้งหมด พร้อมกับให้ลูกทั้ง 3 คนเซ็นรับทราบ ลูกคนที่ 2, 3 ยินยอมเซ็นรับทราบ แต่ลูกคนที่ 1 ไม่ยินยอมเซ็นรับทราบอ้างว่าเป็นเอกสารที่ไม่สมบูรณ์แบบ ต่อมาอีกไม่นานลูกคนที่ 3 ได้มาขอขีดฆ่าลายเซ็นที่เซ็นรับทราบออก ( กระผมก็ไม่ทราบว่าด้วยสาเหตุใด ) เวลาผ่านไป 1 เดือนหลังจากที่ตาได้ย้ายเข้ามาอยู่กับแม่ของกระผม ตาก็ประกาศขายบ้านที่เป็นสินสมรสของตากับยาย ซึ่งแม่ของกระผมก็ยินยอมให้ขาย เนื่องจากว่าตามีความประสงค์ที่จะขายบ้านหลังดังกล่าว ต่อมาลูกคนที่ 3 เมื่อทราบข่าวว่าตาจะขายบ้าน ก็ได้เข้าไปบอกกับลูกคนที่ 1, 2 ให้บอกตาว่าไม่ให้ขายบ้านหลังดังกล่าว เนื่องจากว่าบ้านหลังดังกล่าวเป็นมรดกส่วนกลางจึงไม่ให้มีใครทำการซื้อขายบ้านหลังดังกล่าว แต่ลูกคนที่ 2 ก็ได้ทักท้วงว่า ได้ตกลงกันแล้วพูดคุยกันแล้วว่ายกให้เป็นค่าเลี้ยงดูตา ลูกคนที่ 3 ได้กล่าวว่ามีการพูดคุยกันก็จริงแต่ตนได้ขีดฆ่าลายมือชื่อของตัวเองออกไปแล้วและยังอ้างว่าเป็นผู้จัดการมรดก จนทุกวันนี้ตาก็กินไม่ได้นอนไม่หลับสภาพจิตใจก็ย่ำแย่ เพียงเพราะว่าต้องการที่จะขายบ้านหลังดังกล่าว ดังนั้นกระผมจึงอยากเรียนถามท่านผู้ที่มีความรู้ด้านกฎหมายเกี่ยวกับมรดกว่า 1. ตาสามารถขายบ้านหลังดังกล่าวได้เลยหรือไหม.ในกรณีที่ลูก 2 ใน 3 คน ยังไม่ยินย่อมให้ขาย 2. ถ้าหากตาขายบ้านหลังดังกล่าว ทั้งที่ลูก 2 ใน 3 คน ไม่ยินยอมให้ขาย ตาจะถูกลูกทั้ง 2 คนแจ้งดำเนินคดีหรือไหม 3. ถ้าหากผมในฐานะที่เป็นหลานจะแจ้งความดำเนินคดีกับลูกตาทั้งสองคน ( ลุงของกระผมเอง ) ในข้อหากระทำการโดยก่อให้เกิดผลกระทบแก่สภาพจิตใจของผู้เป็นบิดาได้หรือไหม 4. ลายมือชื่อที่เซ็นไปแล้ว มาทำการขีดฆ่าในภายหลัง ลายเซ็นนั้นยังมีผลหรือไหม และหนังสือที่ทำขึ้นโดยเป็นลายมือที่ตาเขียนไว้ทั้งหมด ถือว่าเป็นเอกสารที่สมบูรณ์หรือไม่ สามารถนำมาประกอบสัญญาซื้อขายบ้านหลังดังกล่าวได้หรือไหม รบกวนท่านผู้รู้ช่วยตอบที เพราะสงสารตาเหลือเกิน ขอกราบขอบพระคุณมา ณ โอกาสนี้ด้วย | |
ผู้ตั้งกระทู้ ทายาทผู้สืบสันดาน (www-dot-pulo_555-at-hotmail-dot-com) :: วันที่ลงประกาศ 2010-03-23 02:33:52 |
[1] |
ความคิดเห็นที่ 1 (2048538) | |
1. ตาสามารถขายบ้านหลังดังกล่าวได้เลยหรือไหม.ในกรณีที่ลูก 2 ใน 3 คน ยังไม่ยินย่อมให้ขาย ---บ้านหลังดังกล่าวเป็นสินสมรส ดังนั้น ตามีกรรมสิทธิ์ในทรัพย์นั้นเพียงครึ่งหนึ่งเท่านั้น ส่วนอีกครึ่งหนึ่งเป็นมรดกของยายตกแก่ทายาทคือ ลูกของยาย 4 คน รวมถึงทายาทของลูกคนที่ตายไปก่อนแล้วด้วย และตาก็เป็นทายาทคนหนึ่งเช่นกัน ทุกคนที่กล่าวมานั้นได้คนละส่วนเท่า ๆ ในมรดกของยาย สรุป- ขายไม่ได้ครับ หากขายก็ต้องนำเงินค่าบ้านที่ขายได้มาแบ่งตามส่วนที่อธิบายข้างต้นคือ แบ่งครึ่งหนึ่งก่อนให้ตาเพราะมีสิทธิในฐานะคู่สมรส และได้ส่วนเท่า ๆ กันในฐานะทายาทโดยธรรมอีกส่วนหนึ่งด้วย 2. ถ้าหากตาขายบ้านหลังดังกล่าว ทั้งที่ลูก 2 ใน 3 คน ไม่ยินยอมให้ขาย ตาจะถูกลูกทั้ง 2 คนแจ้งดำเนินคดีหรือไหม --คำตอบข้อ 1 น่าจะตอบคำถามนี้ได้ แต่หากขายก็ต้องได้รับความยินยอมจากทายาทอื่น ๆ ด้วยครับ แต่ที่บอกว่ามีผู้จัดการมรดกแล้ว ผู้จัดการมีสิทธิจัดการทรัพย์มรดกของยายได้ไม่ว่าจะขายหรือโอนส่วนมรดกมาเป็นของตนก่อนเพื่อแบ่งปันให้ทายาทต่อไป 3. ถ้าหากผมในฐานะที่เป็นหลานจะแจ้งความดำเนินคดีกับลูกตาทั้งสองคน ( ลุงของกระผมเอง ) ในข้อหากระทำการโดยก่อให้เกิดผลกระทบแก่สภาพจิตใจของผู้เป็นบิดาได้หรือไหม --ไม่ได้ครับ ไม่มีข้อหานี้ครับ 4. ลายมือชื่อที่เซ็นไปแล้ว มาทำการขีดฆ่าในภายหลัง ลายเซ็นนั้นยังมีผลหรือไหม และหนังสือที่ทำขึ้นโดยเป็นลายมือที่ตาเขียนไว้ทั้งหมด ถือว่าเป็นเอกสารที่สมบูรณ์หรือไม่ สามารถนำมาประกอบสัญญาซื้อขายบ้านหลังดังกล่าวได้หรือไหม ---เมื่อผู้ลงลายมือชื่อได้ขีดฆ่า ย่อมเป็นอันสิ้นผลใช้ไม่ได้ครับ ถึงยังไม่ขีดฆ่าก็นำหนังสือนั้นไปบังคับไม่ได้นอกจากทายาทจะแสดงเจตนาสละมรดกหรือทำสัญญาประนีประนอมยอมความให้ชัดเจนกว่านั้น และตามที่บอกมาไม่ได้ยินยอมกันทุกคน เจ้าหน้าที่ดินคงไม่ดำเนินการให้ครับ
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น ลีนนท์ วันที่ตอบ 2010-03-23 14:31:45 |
[1] |