เอาโฉนดไปค้ำเงินกู้ให้หลานแล้วเกิดการฟ้องร้อง | |
เรื่องมันมีอยู่ว่า ในปี 2549 ไอ้หลานตัวดีมันไปฟ้องศาล เพื่อจะครอบครองที่ดินของผม (ฟ้องปรปัก) โดยอ้างว่าได้ทำกินในที่ดินผืนนี้เกินกว่าสิบปีแล้ว ( พ.ศ.2536 – 2549 ) และผมก็ต่อสู้ทางคดีความไป จนกระทั้งศาลชั้นต้นและ ศาลอุทรธรณ์ มีคำพิพากษาให้ที่ดินยังเป็นของผม และให้หลานมันออกจากที่ดินของผมไป ( ศาลยกฟ้อง ) หลานมันฎีกาต่อครับ แต่ศาลฎีกายังไม่มีคำพิพากษาลงมา ทำให้ผมนึกเสียใจที่ได้อุปการะเลี้ยงดูจนมันได้ดี มีที่ดิน มีบ้าน มีรถไถ รถเกี่ยว ซึ่งต่างจากวันที่มันมากราบขอร้องขอที่ทำกินผมในวันนั้น ตัวมันแทบจะไม่มีอะไรเลย มันน่าเจ็บใจจริง ๆ ครับ เข้าเรื่องเลยนะครับ | |
ผู้ตั้งกระทู้ หลานตา :: วันที่ลงประกาศ 2010-02-04 13:45:38 |
[1] |
ความคิดเห็นที่ 1 (2032121) | |
1. เรื่องหนังสือมอบอำนาจตามปกติใช้ได้ครั้งเดียว คุณอาจเข้าใจอะไรผิดมากกว่า จริง ๆ อาจจะเป็นดอกเบี้ยก็ได้ ทำไมไม่ไปสอบถามธนาคารดูเพราะเราเป็นผู้ค้ำประกันทางธนาคารเขายินดีอธิบายให้ฟ้องอยู่แล้ว 2. เรื่องฟ้องหลานคงไม่มีกฎหมายรองรับให้ทำได้ คุณสมัครใจทำนิติกรรมตามนั้น เขาไม่ได้ข่มขู่หลอกลวง ก็เท่ากับเราเต็มใจทำเองจะไปฟ้องใครคงไม่ได้ หากคุณได้ปรึกษาทนายความก่อนทำนิติกรรมอะไร?คงช่วยได้มาก แต่มาปรึกษาตอนนี้คงสายไปแล้วครับ
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น ลีนนท์ วันที่ตอบ 2010-02-04 15:27:59 |
ความคิดเห็นที่ 2 (2032768) | |
//ตั้งสติก่อนครับ ตอนนี้ธนาคารยังไม่ฟ้อง แต่เมื่อธนาคารฟ้องเมื่อไรคุณเป็นจำเลยที่ 2 แน่นอนมาเลยครับพี่น้อง ต่อจากนั้น ธกส.ก็ยึดที่ดินท่านออกขายทอดตลาด ** ถ้าเสียดายที่ดินก็ไปซื้อคืน หลังจากนั้นก็ไปฟ้องไล่เบี้ยเอกับหลานคุณ ก็บอกว่ามันมีรถเกี่ยว ก็ยึดรถเกี่ยวมันนั้นแหละครับมาขายทอดตลาดอีกที ถ้าอย่างไรก็ปรึกษาท่านลีนนท์อีกทีน่ะครับ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น รอยเปลื้อน วันที่ตอบ 2010-02-06 13:00:49 |
[1] |