การโอนที่ดินซื้อขายแต่เจ้าของที่เสียชีวิตแล้ว | |
ขอความอนุเคราะผู้รู้ตอบให้ละเอียดด้วยครับ 1 ในการโอนที่ดินที่ซื้อในรุ่นคุณปุ่คุณย่า เนื่องจากทั้งผู้ซื้อและผู้ขายได้เสียชีวิตแล้วเหลือแต่ทายาททั้งสองฝ่ายจะดำเนินการโอนอย่างไร (หนังสือซื้อขายมีโฉนดอยู่ที่ทายาทผู้ซื้อ) 2 ในกรณีที่ทายาทผู้ขายไม่ให้ความร่วมมือในการโอนทายาทผู้ซื้อจะปฏิบัติอย่างไรครับ 3 ถ้าทายาทผู้ขายจะเรียกร้องค่าป่วยการในจำนวนมากจะทำได้หรือไม่แล้วผิดกฎหมายหรือเปล่า | |
ผู้ตั้งกระทู้ ทายาทผู้ซื้อ :: วันที่ลงประกาศ 2011-07-19 14:48:44 |
[1] |
ความคิดเห็นที่ 1 (2201638) | |
1 ในการโอนที่ดินที่ซื้อในรุ่นคุณปุ่คุณย่า เนื่องจากทั้งผู้ซื้อและผู้ขายได้เสียชีวิตแล้วเหลือแต่ทายาททั้งสองฝ่ายจะ ดำเนินการโอนอย่างไร (หนังสือซื้อขายมีโฉนดอยู่ที่ทายาทผู้ซื้อ) ตอบ การซื้อขายถ้าเจตนาจะไปโอนกรรมสิทธิ์กันที่สำนักงานที่ดิน แต่ยังไม่ทันได้โอน ต่อมาผู้ขายได้ถึงแก่ความตายเสียก่อน อย่างนี้เรียกให้ทายาทรับผิดตามสัญญาจะซื้อจะขายได้ครับ แต่ถ้าซื้อขายที่ดินกันโดยไม่สนใจที่จะไปโอนที่ดินกันเป็นการซื้อขายเสร็จเด็ดขาด การซื้อขายที่ดินเป็นโมฆะ มาตรา 456 การซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ ถ้ามิได้ทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่เป็นโมฆะ วิธีนี้ให้ใช้ถึงซื้อขายเรือมีระวางตั้งแต่ห้าตันขึ้นไป ทั้งซื้อขายแพและสัตว์พาหนะด้วย 2 ในกรณีที่ทายาทผู้ขายไม่ให้ความร่วมมือในการโอนทายาทผู้ซื้อจะปฏิบัติอย่างไรครับ ตอบ ถ้าเป็นการซื้อขายที่ไม่มีเจตนาจะไปโอนที่ดินกันที่สำนักงานที่ดิน ถือว่าผู้ขายได้สละเจตนาครอบครองที่ดินแล้ว การซื้อขายเป็นโมฆะ การครองครองของผู้ซื้ออาจอ้างครอบครองปรปักษ์ได้ ดังนั้นน่าจะติดต่อทนายความเพื่อหาทางดำเนินการต่อไป มาตรา 1382 บุคคลใดครอบครองทรัพย์สินของผู้อื่นไว้โดยความสงบ และโดยเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของ ถ้าเป็นอสังหาริมทรัพย์ได้ครอบ ครองติดต่อกันเป็นเวลาสิบปี ถ้าเป็นสังหาริมทรัพย์ได้ครอบครองติดต่อกัน เป็นเวลาห้าปีไซร้ ท่านว่าบุคคลนั้นได้กรรมสิทธิ์ 3 ถ้าทายาทผู้ขายจะเรียกร้องค่าป่วยการในจำนวนมากจะทำได้หรือไม่แล้วผิดกฎหมายหรือเปล่า ตอบ ตรงนี้ตอบยากครับ เพราะต้องอยู่ที่สิทธิของใครจะดีกว่ากัน ถ้าฝ่ายผู้ซื้ออยู่ในฐานะที่เสียเปรียบก็ควรเสียเงินเพื่อให้เรื่องจบด้วยดี คือชนะทั้งสองฝ่ายนั่นเอง
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น ทนายความ ลีนนท์ วันที่ตอบ 2011-08-01 23:44:54 |
ความคิดเห็นที่ 2 (2201639) | |
ผู้ขายถึงแก่ความตายก่อนโอนกรรมสิทธิ์ที่ดิน แบ่งขายที่ดินโดยผู้ซื้อแต่ละคนเข้าครอบครองที่ดิน ผู้ซื้อส่งมอบการครอบครองที่ดินให้ผู้ซื้อแต่ละคนเข้าทำประโยชน์ที่ดินโดยทางผู้ขายสัญญาว่าจะไปจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ให้แก่ผู้ซื้อแต่ละคนในภายหลังตามเนื้อที่ที่แต่ละคนซื้อ แต่ผู้ขายถึงแก่ความตายเสียก่อนโดยยังไม่ได้ไปดำเนินการแบ่งแยกและโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินเฉพาะส่วนให้แก่แต่ละคน แสดงว่าผู้ซื้อและผู้ขายต่างมีเจตนาที่จะไปทำสัญญาซื้อขายที่ดินเป็นหนังสือและจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ให้ถูกต้องตามกฎหมายในภายหลัง การซื้อขายที่ดินจึงเป็นเพียงสัญญาจะซื้อจะขาย มิใช่เป็นการซื้อขายเสร็จเด็ดขาด การเข้าครอบครองที่ดินในส่วนที่แต่ละคนครอบครองอยู่นั้น จึงเป็นการครอบครองที่ดินโดยอาศัยสิทธิของผู้ขายตามสัญญาจะซื้อจะขาย อันเป็นการยึดถือที่ดินแทนผู้ขาย มิใช่เป็นการยึดถือในฐานะเจ้าของ และไม่ปรากฏว่าผู้ซื้อได้เปลี่ยนแปลงลักษณะการยึดถือโดยบอกกล่าวไปยังผู้ขายว่าไม่เจตนายึดถือที่ดินพิพาทแทนอีกต่อไป ดังนั้น แม้ผู้ซื้อจะครอบครองที่ดินติดต่อกันเป็นเวลาเกินกว่า 10 ปีแล้ว ก็ไม่ได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินโดยการครอบครองปรปักษ์
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น ทนายความลีนนท์ วันที่ตอบ 2011-08-01 23:46:48 |
ความคิดเห็นที่ 3 (2201642) | |
สัญญาเป็นโมฆะคู่กรณีต้องกลับคืนสู่ฐานะเดิมเรียกเงินคืนเป็นเรื่องลาภมิควรได้ คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5473/2538 นิติกรรมที่เป็นโมฆะนั้นกฎหมายมิได้บัญญัติถึงการให้คู่กรณีกลับคืนสู่ฐานะเดิมคู่กรณีจะมีสิทธิเรียกร้องเกี่ยวกับทรัพย์อันเป็นวัตถุแห่งนิติกรรมหรือสัญญาอย่างใดเป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาตามลักษณะลาภมิควรได้อีกชั้นหนึ่ง โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินโฉนดเลขที่16942 ตำบลบางภาษี อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม จำเลยตกลงขายที่ดินดังกล่าวให้โจทก์ โจทก์ได้ชำระมัดจำไปแล้ว ตกลงจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์เมื่อชำระราคาครบถ้วน ต่อมาโจทก์ชำระเงินให้จำเลยอีกบางส่วน และโจทก์ติดต่อให้จำเลยรับชำระเงินส่วนที่เหลือพร้อมโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินให้โจทก์ จำเลยเพิกเฉย ขอให้บังคับให้จำเลยโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินโฉนดเลขที่ 16942 ให้โจทก์ จำเลยให้การและฟ้องแย้งว่า การซื้อขายที่ดินเป็นโมฆะและโจทก์ไม่มีสิทธิยึดโฉนดที่ดินไว้ ขอให้ยกฟ้องและบังคับให้โจทก์ส่งมอบโฉนดที่ดินเลขที่ 16942 คืนแก่จำเลย โจทก์ให้การแก้ฟ้องแย้งว่า จำเลยมอบโฉนดที่ดินให้โจทก์เนื่องมาจากการซื้อขายที่ดินดังกล่าว จึงไม่มีอำนาจฟ้องแย้งขอให้ยกฟ้องแย้ง ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ให้โจทก์ส่งมอบโฉนดที่ดินเลขที่16942 ตำบลบางภาษี อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม คืนจำเลยในสภาพเรียบร้อย โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน โจทก์ฎีกา ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่โจทก์ฎีกาคัดค้านคำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์ที่ว่าจำเลยไม่มีเหตุต้องคืนเงินให้โจทก์เพราะจำเลยได้ชำระเงินให้โจทก์ไปแล้ว 100,000 บาท เป็นการไม่ถูกต้องนั้นปัญหาข้อนี้สืบเนื่องมาจากศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า เมื่อสัญญาเป็นโมฆะคู่กรณีต้องกลับคืนสู่ฐานะเดิมจำเลยก็ต้องคืนเงินให้โจทก์ศาลฎีกาเห็นว่า นิติกรรมที่เป็นโมฆะนั้น กฎหมายมิได้บัญญัติถึงการให้คู่กรณีกลับคืนสู่ฐานะเดิม คู่กรณีจะมีสิทธิเรียกร้องเกี่ยวกับทรัพย์อันเป็นวัตถุแห่งนิติกรรมหรือสัญญาอย่างใดเป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาตามลักษณะลาภมิควรได้อีกชั้นหนึ่ง เมื่อโจทก์ฟ้องขอให้บังคับให้จำเลยปฏิบัติตามสัญญาและใช้ค่าเสียหายเท่านั้นการที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า จำเลยต้องคืนเงินมัดจำแก่โจทก์จึงเป็นเรื่องนอกคำฟ้องและนอกประเด็น เช่นนี้ ปัญหาตามฎีกาของโจทก์ข้อนี้จึงเป็นเรื่องที่ไม่จำต้องวินิจฉัย พิพากษายืน | |
ผู้แสดงความคิดเห็น admin วันที่ตอบ 2011-08-01 23:59:46 |
ความคิดเห็นที่ 4 (2201643) | |
ซื้อขายที่ดินไม่ได้จดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ ซื้อขายที่ดินมีข้อตกลงให้ผู้ซื้อเข้าครอบครองที่ดินและใช้ประโยชน์โดยยังไม่ได้จดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ เนื่องจากผู้ขายยังเป็นผู้เยาว์อยู่ไม่อาจทำนิติกรรมได้เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาลเสียก่อน จะอ้างว่าผู้ขายสละการครอบครองแล้วหาได้ไม่ การซื้อขายที่ดินไม่ผูกพันผู้เยาว์ และผู้ซื้อไม่อาจอ้างการครอบครองปรปักษ์หรืออ้างการแย่งการครอบครองได้ การซื้อขายที่ดินตกเป็นโมฆะ คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7776/2551
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น ทนายความ ลีนนท์ วันที่ตอบ 2011-08-02 00:02:59 |
[1] |