ต้นไม้ข้างบ้าน | |
ข้างบ้านดิฉันปลูกต้นมะขามใหญ่ แล้วแผ่กิ่งก้านมาทางบ้านดิฉัน ทำให้ใบมะขามร่วงมาทับหลังคา ตอนแรกนิดหน่อยก็ไม่เป็นไร แต่พอนานวันเข้า หลังคามันเริ่มแ่อ่นจากการทับถมของใบมะขาม และหลังคาเริ่มผุ บอกให้ข้างบ้านเค้าตัดออกแล้วเค้าไม่ตัดออก ดิฉันจะต้องทำอย่างไรค่ะ | |
ผู้ตั้งกระทู้ ชลลดา :: วันที่ลงประกาศ 2011-07-14 08:15:03 |
[1] |
ความคิดเห็นที่ 1 (2199826) | |
กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับคำถามมีดังนี้ มาตรา 434 ถ้าความเสียหายเกิดขึ้นเพราะเหตุที่โรงเรือนหรือ สิ่งปลูกสร้างอย่างอื่นก่อสร้างไว้ชำรุดบกพร่องก็ดีหรือบำรุงรักษาไม่ เพียงพอก็ดีท่านว่าผู้ครองโรงเรือนหรือสิ่งปลูกสร้างนั้นๆ จำต้องใช้ ค่าสินไหมทดแทนแต่ถ้าผู้ครองได้ใช้ความระมัดระวังตามสมควร เพื่อปัดป้องมิให้เกิดเสียหายฉะนั้นแล้ว ท่านว่าผู้เป็นเจ้าของจำต้องใช้ค่าสินไหมทดแทน บทบัญญัติที่กล่าวมาในวรรคก่อนนั้นให้ใช้บังคับได้ตลอดถึงความ บกพร่องในการปลูกหรือค้ำจุนต้นไม้หรือกอไผ่ด้วย ในกรณีที่กล่าวมาในสองวรรคข้างต้นนั้น ถ้ายังมีผู้อื่นอีกที่ต้องรับผิดชอบในการก่อให้เกิดเสียหายนั้นด้วยไซร้ ท่านว่าผู้ครองหรือเจ้าของจะใช้สิทธิไล่เบี้ยเอาแก่ผู้นั้นก็ได้ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ทนายความ ลีนนท์ วันที่ตอบ 2011-07-27 16:06:30 |
ความคิดเห็นที่ 2 (2199830) | |
ความเสียหายที่เกิดจากต้นไม้ปลูกในที่ดิน ความเสียหายของโจทก์เกิดขึ้นจากความบกพร่องในการปลูกต้นมะพร้าวที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์ของจำเลย ผู้ครองหรือเจ้าของต้นมะพร้าวต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายที่เกิดขึ้น คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4128/2528
แม้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 434 จะบัญญัติให้ผู้ครองหรือเจ้าของต้นไม้ต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อความเสียหายที่เกิดขึ้นก็ตามแต่มูลละเมิดในเรื่องนี้เป็นกรณีที่โจทก์กล่าวอ้างในคำฟ้องว่า ความเสียหายของโจทก์เกิดขึ้นจากความบกพร่องในการปลูกหรือค้ำจุนต้นมะพร้าวที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์ของจำเลยโจทก์ก็มีภาระที่จะต้องพิสูจน์ให้ศาลเห็นว่า เหตุที่ต้นมะพร้าวล้มจนก่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์เกิดจากความบกพร่องในการปลูกหรือค้ำจุนของจำเลยหาใช่ว่าโจทก์ไม่มีหน้าที่จะต้องพิสูจน์ดังกล่าวไม่ จำเลยทั้งสองให้การว่า จำเลยที่ 2 เป็นเจ้าของต้นมะพร้าวตามฟ้อง ส่วนจำเลยที่ 1 เป็นผู้เช่าหรือผู้ครอบครอง ตามวันเวลาที่โจทก์ฟ้องไม่มีเหตุการณ์ตามฟ้องเกิดขึ้น หากจะมีก็มิได้เกิดจากความประมาทของจำเลยทั้งสองเพราะต้นมะพร้าวที่โจทก์กล่าวอ้างได้รับการดูแลอย่างดีจากจำเลยทั้งสองมีความแข็งแรงมั่นคง เหตุที่ล้มก็เพราะเกิดจากลมพายุ จำเลยทั้งสองไม่ต้องรับผิด ค่าเสียหายเกินความจริง ขอให้ยกฟ้อง ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงยังฟังไม่ได้ว่าความเสียหายเกิดขึ้นเพราะการบกพร่องในการปลูกต้นมะพร้าว จำเลยทั้งสองจึงไม่ต้องรับผิด พิพากษายกฟ้อง โจทก์อุทธรณ์ โจทก์ฎีกา พิพากษายืน ( สุรัตน์ ศรีอนุพันธุ์ - ยนต์ พิรวินิจ - สมประสงค์ พานิชอัตรา ) | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ทนายความ ลีนนท์ วันที่ตอบ 2011-07-27 16:12:46 |
ความคิดเห็นที่ 3 (2199834) | |
ความบกพร่องในการใช้ความระมัดระวังหรือบำรุงรักษาของผู้ครองในการปลูกหรือค้ำจุนต้นไม้ซึ่งทำให้เกิดความเสียหายต่อผู้อื่น คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1028/2505 โจทก์จำเลยต่างเป็นผู้เช่าที่ดินของวัดปลูกเรือนอาศัยอยู่จำเลยได้ปล่อยปละละเลยให้ต้นมะม่วงที่ขึ้นอยู่ในที่ดินที่จำเลยเช่าแผ่กิ่งก้านสาขาเข้ามาปกคลุมหลังคาเรือนโจทก์ เป็นเหตุให้โจทก์ได้รับความเสียหาย โจทก์ย่อมมีอำนาจฟ้องจำเลยฐานละเมิดและเรียกค่าเสียหายได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 434 จำเลยให้การสู้คดี และตัดฟ้องว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง คู่ความตกลงกันขอให้ศาลชี้ขาดในปัญหาข้อเดียวว่า "การที่โจทก์ครอบครองที่เช่าแล้วปลูกบ้านของโจทก์ลงในที่เช่า โจทก์จะมีอำนาจฟ้องจำเลยในประเด็นที่ว่าจำเลยได้ปล่อยปละละเลยให้ต้นมะม่วงแผ่กิ่งก้านสาขาเข้ามาปกคลุมหลังคาเรือนโจทก์หรือไม่" ถ้าวินิจฉัยว่าโจทก์มีอำนาจฟ้อง จำเลยยอมรับผิดใช้ค่าเสียหายเต็มตามฟ้อง ถ้าวินิจฉัยว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง โจทก์ยอมแพ้คดี ศาลแพ่งวินิจฉัยว่า โจทก์มีอำนาจฟ้องตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1337 พิพากษาให้จำเลยแพ้คดี จำเลยทั้ง 2 อุทธรณ์ จำเลยที่ 1 ฎีกา พิพากษายืน ( ไชยเจริญ สันติศิริ - พจน์ ปุษปาคม - สารกิจปรีชา )
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น ทนายความ ลีนนท์ วันที่ตอบ 2011-07-27 16:17:43 |
[1] |