
ขอปรึกษาการใช้เงินประกันการทำงานและเงินเดือนที่นายจ้างค้างอยู่ | |
คือผมได้ใช้เงินประกันการทำงานจำนวน 100000 บาท ในวันเข้าทำงาน และตอนนี้ผมได้ลาออกเมื่อวันที่ 23 พ.ค 2557 โดยทางสำนักงานไม่สามารถจ่ายเงินเดือนให้ได้ (ค้างอยู่ประมาณเดือนกว่าเลยตัดสินใจลาออก) และหลังจากนั้นได้ทำหนังสือบันทึกข้อตกลงกัน ว่าทางสำนักงานจะจ่ายเงินประกันคืนทุกวันที่ 30 ของเดือน คือ งวดแรก 30 พ.ค 2557 งวด 2. วันที่ 30 มิ.ย 57 และงวดสุดท้าย 30 ก.ค. 57 (ที่ทำเพราะทางสำนักงานขาดทุน และตอนนี้ได้ปิดกิจการแล้ว) และได้จ่ายมาส่วนหนึ่ง เหลืออยู่คนละ 30000 บาทหากรวมเงินเดือนก็เกือบคนละ 50,000 บาท ถ้าหากฟ้องเป็นคดีความขึ้นมา ผมมีโอกาสแพ้ไหมคับ แล้วค่าใช้จ่ายในการจ้างทนายต้องใช้ไหมคับและขอคำปรึกษาจากท่านว่าผมควรทำยังไงดีครับ ขอบพระคุณมากครับ | |
ผู้ตั้งกระทู้ นัท :: วันที่ลงประกาศ 2014-09-06 20:31:39 |
[1] |
ความคิดเห็นที่ 1 (3723533) | |
กฎหมายกำหนดให้นายจ้างที่เรียกหรือรับเงินประกันการทำงานเพื่อชดใช้ความเสียหาย ต้องคือเงินประกันดังกล่าวภายใน 7 วัน ข้อตกลงว่า ให้นายจ้างคืนเงินประกันเป็นงวด ๆ ขัดต่อมาตรา 10 วรรคสอง อันเป็นกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน ย่อมตกเป็นโมฆะเมื่อนายจ้างไม่จ่ายแนะนำให้ไปร้องเรียนพนักงานตรวจแรงงานที่สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานพื่อที่ที่นายจ้างมีสำนักงานแห่งใหญ่ตั้งอยู่ครับ กรณีตามคำถามเป็นสิทธิของลูกจ้างไม่มีช่องทางแพ้คดีครับ มาตรา 10 ภายใต้บังคับ มาตรา 51 วรรคสอง ห้ามมิให้ นายจ้างเรียกหรือรับเงินประกันการทำงานหรือเงินประกันความ เสียหายในการทำงานจากลูกจ้าง เว้นแต่ลักษณะหรือสภาพของ งานที่ทำนั้นลูกจ้างต้องรับผิดชอบเกี่ยวกับการเงินหรือทรัพย์สิน ของนายจ้าง ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่นายจ้างได้ ทั้งนี้ ลักษณะหรือสภาพของงานที่ให้เรียกหรือรับเงินประกันจากลูกจ้าง ได้ ตลอดจนจำนวนเงินและวิธีการเก็บรักษา ให้เป็นไปตามหลัก เกณฑ์และวิธีการที่รัฐมนตรีประกาศกำหนด ในกรณีที่นายจ้างเรียกหรือรับเงินประกัน หรือทำสัญญา ประกันกับลูกจ้างเพื่อชดใช้ความเสียหายที่ลูกจ้างเป็นผู้กระทำ เมื่อนายจ้างเลิกจ้าง หรือลูกจ้างลาออก หรือสัญญาประกัน สิ้นอายุ ให้นายจ้างคืนเงินประกันพร้อมดอกเบี้ย ถ้ามี ให้แก่ ลูกจ้างภายในเจ็ดวันนับแต่วันที่นายจ้างเลิกจ้างหรือวันที่ลูกจ้าง ลาออกหรือวันที่สัญญาประกันสิ้นอายุ แล้วแต่กรณี
ข้อตกลงว่าลูกจ้างไม่ขอรับเงินประกันทั้งหมดคืนขัดต่อมาตรา 10 วรรคสอง นางพิศมัย ---------- โจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกา 6636-6638/2547 เงินที่นายจ้างเรียกเก็บจากลูกจ้างที่ส่งไปฝึกอบรมที่กรุงเทพฯ โดยมีข้อตกลงว่าจะต้องทำงานกับนายจ้างเป็นเวลา 2 ปี หากทำงานไม่ครบให้นายจ้างมีสิทธิริบเงินดังกล่าว ไม่ว่าจะเรียกว่าอย่างไร ก็ยังเป็นเงินประกันการทำงาน ตาม พ.ร.บ.คุ้มครอง ฯ มาตรา 10 ที่กฎหมายห้ามนายจ้างเรียก หรือรับเงินประกันการทำงานจากลูกจ้าง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3304/2545 ลูกจ้างทำงานเป็นผู้จัดการสถานีบริการน้ำมัน มีหน้าที่ดูแลสินค้าในร้านสะดวกซื้อ นายจ้างมีสิทธิเรียกประกันการทำงานได้
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น ทนายความลีนนท์ พงษ์ศิริสุวรรณ โทร. 0859604258 วันที่ตอบ 2014-10-19 15:54:16 |
ความคิดเห็นที่ 2 (3723550) | |
ข้อตกลงระหว่างนายจ้าง-ลูกจ้างที่ว่าหากลาออกจากงานก่อน 24 เดือนขอสละสิทธิไม่รับเงินประกันคืนเป็นโมฆะ ห้างหุ้นส่วนจำกัด พะเยารัตนชาติ โจทก์ จำเลยให้การ ขอให้ยกฟ้อง โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น * วันที่ตอบ 2014-10-19 17:56:49 |
ความคิดเห็นที่ 3 (3723551) | |
เงินประกัน (พ.ร.บ. คุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 มาตรา 10 ) มาตรา 10 ภายใต้บังคับมาตรา 51 วรรค 2 ห้ามมิให้นายจ้างเรียกหรือรับเงินประกันการทำงานหรือเงินประกันความเสียหายในการทำงานจากลูกจ้าง เว้นแต่ลักษณะหรือสภาพของงานที่ทำนั้นลูกจ้างต้องรับผิดชอบเกี่ยวกับทรัพย์สินของนายจ้าง ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่นายจ้างได้ ทั้งนี้ ลักษณะหรือสภาพของงานที่ให้เรียกหรือรับเงินประกันจากลูกจ้างได้ ตลอดจนจำนวนเงินและวิธีเก็บรักษา ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่รัฐมนตรีประกาศกำหนด ดังนี้ เงินประกัน หมายความว่า เงินที่นายจ้างเรียกหรือรับจากลูกจ้างเพื่อประกันการทำงานของลูกจ้างหรือประกันความเสียหายในการทำงานที่ลูกจ้างได้ก่อให้เกิดขึ้น ในกรณีที่นายจ้างเรียกหรือรับเงินประกัน--จำนวนเงินหรือรับได้ จะต้องไม่เกิน 60 เท่า ของอัตราค่าจ้างรายวันโดยเฉลี่ยที่ลูกจ้างได้รับอยู่ในวันนายจ้างรับเงินประกัน ในกรณีที่เงินประกันซึ่งนายจ้างเรียกหรือรับไว้ ลดลง เนื่องจากนำไปชดใช้ค่าเสียหายให้แก่นายจ้างตามเงื่อนไขของการเรียกหรือรับเงินประกัน หรือตามข้อตกลงหรือได้รับความยินยอมจากลูกจ้างแล้ว นายจ้างจะเรียกหรือรับเงินประกันเพิ่มได้ไม่เกิน60 เท่า ของอัตราค่าจ้างรายวันโดยเฉลี่ยที่ลูกจ้างได้รับอยู่ในวันนายจ้างรับเงินประกัน เท่านั้น ให้นายจ้างนำเงินฝากไว้กับธนาคารพาณิชย์หรือสถาบันการเงินอื่น โดยจัดให้มีบัญชีเงินฝากของลูกจ้างแต่ละคน และให้แจ้งชื่อธนาคารพาณิชย์หรือสถาบันการเงินอื่น ชื่อบัญชี และเลขที่บัญชีให้ลูกจ้างทราบเป็นหนังสือภายใน 7 วันนับแต่วันที่รับเงินประกัน ทั้งนี้ นายจ้างจะเก็บรักษาเงินประกันโดยวิธีอื่นหรือนำไปจัดหาผลประโยชน์อื่นใดนอกจากที่กำหนดไว้มิได้ ในกรณีที่นายจ้างเรียกหรือรับเงินประกัน หรือทำสัญญาประกันกับลูกจ้างเพื่อชดใช้ความเสียหายที่ลูกจ้างเป็นผู้กระทำ เมื่อนายจ้างเลิกจ้าง หรือลูกจ้างลาออก หรือสัญญาประกันสิ้นอายุ ให้นายจ้างคืนเงินประกันพร้อมดอกเบี้ย ถ้ามี ให้แก่ลูกจ้างภายใน 7 วัน นับแต่วันที่นายจ้างเลิกจ้างลูกจ้างหรือวันที่ลูกจ้างลาออก หรือวันที่สัญญาประกันสิ้นอายุ แล้วแต่กรณี
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น * วันที่ตอบ 2014-10-19 18:58:55 |
[1] |