ReadyPlanet.com


กลัวเบี้ยวหนี้แถมฟ้องเรียกค่าเสียหาย


ให้เพื่อนที่รู้จักทางเนตยืมเงิน 25000 โอนให้ 2 ครั้ง ครั้งแรก 10000 ครั้งสอง 15000 ตั้งแต่ปี 2552 เพื่อนอยู่มหาสารคาม เราอยู่ กทมสงสารเพื่อนที่อยู่ ตจว เดือนร้อนหาคนช่วยไม่ได้ อยู่ไกลกันเลยไม่ได้ทำหนังสือสัญญา

 

เหตุผลที่ที่ให้เพื่อนยืม เพื่อนแจ้งว่า พ่อของเขารถล้มบาดเจ็บมาก ค่ารักษา 15000 และมีหนี้สินที่ดินที่อาศัยอยู่อีก 10000 นึง เพราะพ่อบาดเจ็บเลยไม่มีเงินส่งที่ดิน จึงเห็นใจ คนเรามีพ่แม่แค่อย่างละคน และหากที่ดินโดนยึก เขาและพ่อแม่คงไม่รู้ไปอยู่ไหน

 

เพื่อนสัญญาว่าจะคืนให้ขอเวลาหน่อยจะทะยอยคืน ผ่านไปครึ่งปี มาจนปี 2553 เงียบหาย เพื่อนมี 3 เบอร์ ก็ติดต่อไม่ได้ แถมเพื่อนก็ไม่คิดจะติดต่อมา เลยส่งจดหมายลงทะเบียนไปทวงหนี้ว่าหากไม่คืนจะแจ้งความดำเนินคดีนะหากไม่หายก็ไม่มีอะไรต้องกลัวไปที่บ้านเพื่อนพร้อม "หลักฐานการโอนเงินผ่านทางธนาคาร" ก็ไม่มีตอบกลับมา แต่เนื่องจากเป็นไปรษณ๊ยตอบรับ มีคนญาติเขารับเซ็นชื่อกลับมา ส่งไป 2 ครั้ง เลยไปลงเอาไว้ตามเวบบอร์ดว่าเขาติดเงินให้มาชำระด้วยและเขียนเรื่องลงไปด้วยว่าเขายืมเพราะอะไรเราให้ยืมเพราะอะไรไม่มีการด่าทอ (ถ้าคนอื่นอ่านเขาก็อายเองเพราะเราแค่เล่าเรื่องแต่มีชื่อนามสกุลเขาลงไปด้วย) จนผ่านไป 1 ปี รวม เกือบ 2 ปี ก็ไร้ผลไม่ติดต่อกลับ คิดว่าทั้งโทร ทั้งจดหมาย ทั้งเวบไซด์ ไม่ได้ผล จนปี 2554 ตัดสินใจว่าไม่เกรงใจ ส่งไปรษณ๊ย์บัตรไปที่ทำงานเลยไม่ต้องปกปิดข้อมูลกันแล้ว ปรากฎว่า ติดต่อกลับมา

 

ระหว่างติดต่อกลับมาได้พูดคุยกันทักทายว่าไปไหนมา หายไปไหน สบายดีไหม เป็นไงบ้าง แล้วเข้าเรื่องเลยว่า ได้ส่งจดหมายลงทะเบียนไปทำไมไม่ติดต่อกลับมา กลัวยืมไปแล้วหาย เห็นหายไป 2 ปี ใคร ๆ ก็กลัวนะ เงินตั้ง 25000 เขาบอกว่า มือถือหาย เลยไม่มีเบอร์โทรกลับ เราก็ถามว่าจดหมายก็ส่งเบอร์ไปด้วยทำไมไม่ติดต่อกลับ เขาบอกว่าเขาไม่ได้เป็นคนรับจดหมาย คนรับแทนก็ไม่เอามาให้เขา เราก็ถามต่อไปอีกว่ารู้ไหมว่าลงในเวบด้วยทำไมไม่ติดต่อกลับ เขาบอกว่าเห็นในเวบ ลงแบบนี้ทำให้เขาเสียชื่อเสีย สามีเขาจะฟ้องว่าทำลายชื่อเสียงเรา (ก็ยืมเงินแล้วหายต้อยไม่ติดต่อกลับนี่นา ทั้งโทร จดหมาย เวบ แต่ไปรษณียร์บัตรกลับรีบโทรกลับมา นึกไว้ในใจ) เลยประนีประนอมกับเขาว่าตกลงกันใหม่ว่า "เราให้ยืมเพราะเธอคือเพื่อน เธอบอกว่าพ่อบาดเจ็บค่ารักษาไม่พอ บ้านก็เดือดร้อนเขาจะยึดที่ดินจะไม่มีที่อยู่ เรามีน้ำใจให้ หวังว่าคงไม่ทำให้เราผิดหวังเหมือนคนอื่นว่าได้เงินแล้วหายไปอีกนะ 2 ปีนี่คิดไปเยอะเลย" ด้วยจากการพูดประนีประนอม ตกลงกันได้ว่า 2 ปีที่ไม่ได้ติดต่อ เขาก็ไม่ได้เก็บเงินไว้คอยเมื่อมีโอกาสชำระหนี้ แต่ขอเริ่มชำระหนี้ใหม่ หนี้ 25000 จะชะระให้หมดในปี 2555 โดยจะเริ่มผ่อนจ่ายทุกเดือนเดือนละประมาณ 2000 บาท เดือนสุดท้าย 3000 ก็ครบ 25000 เราก็เลยสัญญาให้เขาว่า ถ้าครบแล้วจะทำเรื่องติดต่อให้เจ้าของเวบลบข้อความเรื่องราวการยืมเงินของเขาออกให้

 

มีคำถามว่า

1.หากเขาหนีหนี้จริง เอกสารสเตจเม้นที่มีรายชื่อบัญชีการโอนเงินพร้อมจำนวนเงิน สามารถใช้เป็นหลักฐานได้ไหม เพราะไม่ได้หนังสือสัญญา

2.หากเขาเบี้ยว กฎหมายเอาเรื่องเขาไม่ได้ เขามีสิทธิ์ที่เอาเรื่องเล่าการยืมเงินของเขาไปฟ้องเราได้ไหม (ทำนองว่าเบี้ยวได้แล้วแถมฟ้องเรียกค่าเสียหายได้อีก)



ผู้ตั้งกระทู้ ขรก :: วันที่ลงประกาศ 2012-01-30 11:01:22


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (2262203)

1.หากเขาหนีหนี้จริง เอกสารสเตจเม้นที่มีรายชื่อบัญชีการโอนเงินพร้อมจำนวนเงิน สามารถใช้เป็นหลักฐานได้ไหม เพราะไม่ได้หนังสือสัญญา

ตอบ - รายการเดินบัญชี หรือจะเป็นสลิปเข้าบัญชี ไม่ใช่หลักฐานแห่งการกู้ยืมเงินลงลายมือชื่อผู้ยืมจึงไม่สามารถฟ้องร้องบังคับคดีได้

2.หากเขาเบี้ยว กฎหมายเอาเรื่องเขาไม่ได้ เขามีสิทธิ์ที่เอาเรื่องเล่าการยืมเงินของเขาไปฟ้องเราได้ไหม (ทำนองว่าเบี้ยวได้แล้วแถมฟ้องเรียกค่าเสียหายได้อีก)

ตอบ - ถ้าเขาเสียหาย เสียชื่อเสียงก็เข้าหมิ่นประมาท ฟ้องเรียกค่าเสียหายได้ครับ เพราะคุณไม่มีสิทธิจะทวงหนี้โดยวิธีการดังกล่าวได้แม้เป็นเรื่องจริงก็ต้องใช้ช่องทางตามกฎหมาย ไม่อาจลบล้างว่าเป็นเรื่องจริงแล้วไม่ผิดเพราะเป็นเรื่องส่วนตัวที่พิสูจน์แล้วไม่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม

ผู้แสดงความคิดเห็น ทนายลีนนท์ วันที่ตอบ 2012-03-22 16:32:56



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล