สัญญาหมั้น | |
มีปัญหาว่า บิดามารดา ฝ่ายชายและหญิง ทำสัญญาหมั้นกัน โดยบิดามารดา ฝ่ายชายไม่ทราบมาก่อนว่า ขณะทำสัญญาหมั้นนั้น หญิงคู่หมั้นอายุไม่ถึง 17 ปี ทั้งสองฝ่ายได้จัดพิธีแต่งงานกันตามประเพณีแล้ว แต่ฝ่ายหญิงไม่ยินยอมหลับนอนฉันสามีภรรยากับฝ่ายชายและไม่ยินยอมไปจดทะเบียนสมรสตามกฎหมาย และนอกจากนั้นหญิงคู่หมั้นได้หลบหนีไปจากบ้าน บิดามารดาฝ่ายชายจะเรียกสินสอดและของหมั้นคืนจากฝ่ายหญิงได้หรือไม่
| |
ผู้ตั้งกระทู้ นรี :: วันที่ลงประกาศ 2009-07-05 14:49:04 |
[1] |
ความคิดเห็นที่ 1 (1959257) | |
สัญญาหมั้นที่คู่หมั้นมีอายุไม่ครบ 17 ปี เป็นโมฆะ แต่ฝ่ายชายคู่หมั้นไม่ทราบว่าหญิงคู่หมั้นมีอายุไม่ครบ 17 ปี ดังนั้นของหมั้นและสินสอดต้องคืนแก่ฝ่ายชายเพราะเหตุโมฆะกรรมนั้น ตามลาภมิควรได้ บิดามารดาฝ่ายชายจึงเรียกสินสอดและของหมั้นคืนจากฝ่ายหญิงได้ สัญญาหมั้นระหว่างชายและหญิงที่ทำขึ้นหากมีการฝ่าฝืนเงื่อนไขแห่งการสมรสจะมีผลอย่างไรบ้าง? จะมีผลทำให้การหมั้นนั้นเป็นโมฆะหรือไม่? | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ทนายความลีนนท์ พงษ์ศิริสุวรรณ โทร. 085-9604258 วันที่ตอบ 2009-07-06 18:59:53 |
ความคิดเห็นที่ 2 (1959472) | |
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นบิดาของนาย อ. จำเลยเป็นมารดาของนางสาว บ. เมื่อวันที่ ๑๖ พฤษภาคม ๒๕๔๐ โจทก์จำเลยร่วมกันจัดพิธีแต่งงานให้กับบุตรทั้งสองคนแล้วพักอาศัยอยู่บ้านจำเลย แต่บุตรจำเลยไม่ยอมร่วมหลับนอนกับบุตรโจทก์และหลังแต่งงานเพียง ๓ วัน บุตรจำเลยหนีจากบ้านไปอันเป็นการผิดประเพณีของการสมรส โจทก์จำเลยจึงตกลงกันโดยจำเลยยอมชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์จำนวน ๗๐,๔๐๐ บาท ภายในวันที่ ๒๖ พฤษภาคม ๒๕๔๐ แต่เมื่อครบกำหนดแล้วจำเลยไม่ชำระ ขอให้บังคับจำเลยชดใช้เงิน ๗๐,๔๐๐ บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ ๗.๕ ต่อปี นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ จำเลยให้การว่า สัญญาระหว่างโจทก์จำเลยไม่มีมูลหนี้ ขอให้ยกฟ้อง ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษาให้จำเลยชำระเงินจำนวน ๗๐,๔๐๐ บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ ๗.๕ ต่อปี นับแต่วันที่ ๑๐ มิถุนายน ๒๕๔๐ เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ ค่าฤชาธรรมเนียมระหว่างโจทก์จำเลยให้เป็นพับ จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ภาค ๑ พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ จำเลยฎีกา โดยผู้พิพากษาที่ได้นั่งพิจารณาคดีในศาลชั้นต้นรับรองว่ามีเหตุสมควรที่จะฎีกาในข้อเท็จจริงได้ ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า พิเคราะห์แล้ว ข้อเท็จจริงเบื้องต้นฟังได้ว่า นางสาว บ. เกิดวันที่ ๑๑ ธันวาคม ๒๕๒๔ ในวันที่ ๑๖ พฤษภาคม ๒๕๔๐ โจทก์และจำเลยจัดพิธีแต่งงานระหว่างนาย อ. กับนางสาว บ. ซึ่งขณะนั้นอายุ ๑๕ ปีเศษ ก่อนพิธีแต่งงานมีการหมั้นโดยไม่ปรากฏว่าโจทก์ได้ทราบว่านางสาว บ. อายุยังไม่ครบ ๑๗ ปี ส่วนการหมั้นมีของหมั้นเป็นสร้อยคอทองคำพร้อมจี้และสินสอดเป็นเงินสด นาย อ. กับนางสาว บ. อยู่กินฉันสามีภริยากันได้ ๓ วัน ก็เลิกการอยู่กินด้วยกันและโจทก์จำเลยทำบันทึกข้อตกลงว่าจำเลยตกลงคืนเงินสินสอดจำนวน ๖๐,๐๐๐ บาท และของหมั้นสร้อยคอทองคำหนัก ๒ บาท พร้อมจี้ทองคำให้แก่โจทก์ภายในวันที่ ๒๖ พฤษภาคม ๒๕๔๐ ตามเอกสารหมาย จ. ๑ คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยประการแรกว่า ข้อตกลงเอกสารหมาย จ. ๑ มีผลใช้บังคับได้หรือไม่ โดยจำเลยฎีกาว่า ขณะแต่งงานนางสาว บ. อายุ ๑๔ ปีเศษ เป็นการขัดต่อกฎหมายจึงตกเป็นโมฆะ เท่ากับว่าจำเลยไม่ได้เป็นหนี้โจทก์ บันทึกข้อตกลงดังกล่าวเป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน จึงไม่มีผลบังคับได้ ศาลฎีกาโดยมติที่ประชุมใหญ่ เห็นว่า ในขณะที่นาย อ. ทำการหมั้นกับนางสาว บ. นั้น นางสาว บ. อายุยังไม่ครบ ๑๗ ปี บริบูรณ์ โดยมีอายุเพียง ๑๕ ปีเศษ การหมั้นดังกล่าวจึงฝ่าฝืนบทบัญญัติ ป.พ.พ. มาตรา ๑๔๓๕ วรรคหนึ่ง ย่อมตกเป็นโมฆะ ตามมาตรา ๑๔๓๕ วรรคสอง นอกจากนี้ มาตรา ๑๗๒ วรรคสอง บัญญัติว่า ถ้าจะต้องคืนทรัพย์สินอันเกิดจากโมฆะกรรม ให้นำบทบัญญัติว่าด้วยลาภมิควรได้มาใช้บังคับ เมื่อข้อเท็จจริงไม่ปรากฏว่าโจทก์ทราบว่านางสาว บ. อายุไม่ครบ ๑๗ ปี จำเลยและนางสาว บ. จึงต้องคืนของหมั้นและสินสอดให้แก่โจทก์ตาม ป.พ.พ. มาตรา ๔๑๒ และ ๔๑๓ โดยจะถือว่าโจทก์ชำระหนี้ตามอำเภอใจตาม ป.พ.พ. มาตรา ๔๐๗ หาได้ไม่ ดังนั้นบันทึกข้อตกลงเอกสารหมาย จ. ๑ จึงมีมูลหนี้และใช้บังคับได้ หาได้ขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชนไม่ ฎีกาของจำเลยข้อนี้ฟังไม่ขึ้น? พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ. ( จรัส พวงมณี - สุเทพ เจตนาการณ์กุล - จรูญวิทย์ ทองสอน )
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3072/2547
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น * วันที่ตอบ 2009-07-07 13:42:45 |
ความคิดเห็นที่ 3 (1959474) | |
มาตรา 1435 ารหมั้นจะทำได้ต่อเมื่อชายและหญิงมีอายุสิบเจ็ดปี บริบูรณ์แล้ว การหมั้นที่ฝ่าฝืนบทบัญญัติวรรคหนึ่งเป็นโมฆะ
มาตรา 172 โมฆะกรรมนั้นไม่อาจให้สัตยาบันแก่กันได้และผู้มี ส่วนได้เสียคนหนึ่งคนใดจะยกความเสียเปล่าแห่งโมฆะกรรมขึ้นกล่าว อ้างก็ได้ ถ้าจะต้องคืนทรัพย์สินอันเกิดจากโมฆะกรรม ให้นำบทบัญญัติ ว่าด้วยลาภมิควรได้แห่งประมวลกฎหมายนี้มาใช้บังคับ
มาตรา 412 ถ้าทรัพย์สินซึ่งได้รับไว้เป็นลาภมิควรได้นั้นเป็นเงินจำนวนหนึ่งท่านว่าต้องคืนเต็มจำนวนนั้น เว้นแต่เมื่อบุคคลได้รับไว้โดยสุจริต จึงต้องคืนลาภมิควรได้เพียงส่วนที่ยังมีอยู่ในขณะเมื่อเรียกคืน
มาตรา 413 เมื่อทรัพย์สินอันจะต้องคืนนั้นเป็นอย่างอื่นนอกจากจำนวนเงิน และบุคคลได้รับไว้โดยสุจริต ท่านว่าบุคคลเช่นนั้นจำต้องคืนทรัพย์สินเพียงตามสภาพที่เป็นอยู่ และมิต้องรับผิดชอบในการที่ทรัพย์นั้นสูญหายหรือบุบสลาย แต่ถ้าได้อะไรมาเป็นค่าสินไหมทดแทนเพื่อการสูญหายหรือบุบสลายเช่นนั้นก็ต้องให้ไปด้วย
มาตรา 407 บุคคลใดได้กระทำการอันใดตามอำเภอใจเหมือน หนึ่งว่าเพื่อชำระหนี้โดยรู้อยู่ว่าตนไม่มีความผูกพันที่จะต้องชำระ ท่านว่าบุคคลผู้นั้นหามีสิทธิจะได้รับคืนทรัพย์ไม่ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น * วันที่ตอบ 2009-07-07 13:57:44 |
ความคิดเห็นที่ 4 (2399395) | |
เงื่อนไขของการหมั้น 1.1 ชายและหญิงคู่หมั้นคู่หมั้นต้องมีอายุอย่างต่ำ 17 ปีบริบูรณ์ มาตรา 1435 การหมั้นจะทำได้ต่อเมื่อชายและหญิงมีอายุสิบเจ็ดปีบริบูรณ์แล้ว ชายและหญิงที่มีอายุต่ากว่า 17 ปี บริบูรณ์จะขออนุญาติศาลทำการหมั้นไม่ได้เพราะไม่มีกฎหมายให้อำนาจไว้ ผิดกับการสมรสซึ่งหากมี่เหตุอันสมควร มาตรา 1448 ให้อำนาจศาลที่จะอนุญาตให้ชายหรือหญิงที่อายุต่ำกว่า 17 ปีบริบูรณ์ทำการสมรสได้ในกรณีที่ชายหรือหญิงซึ่งอายุต่ากว่า 17 ปีบริบูรณ์ทำการสมรสโดยได้รับอนุญาตจากศาล หากต่อมาขาดจากการสมรสเดิมและประสงค์จะทำการหมั้นใหม่ในขณะที่ตนอายุยังไม่ครบ 17 ปีบริบูรณ์ก็ไม่อาจจะกระทำได้ เพราะขัดต่อ มาตรา 1435 ที่บัญญัติไว้โดยเด็ดขาดว่า ชายและหญิงต้องอายุครบ 17 ปี บริบูรณ์แล้วทั้งสองคนจึงจะทำการหมั้นได้ หากฝ่าฝืนทำการหมั้นกันการหมั้นนี้เป็นโมฆะ สัญญาหมั้นที่เป็นโมฆะเพราะชายและหญิงอายุยังไม่ครบ 17 ปีบริบูรณ์ ถือว่าเสียเปล่าเสมือนไม่มีสัญญาหมั้นเกิดขึ้นเลย คู่สัญญาแต่ละฝ่ายคงอยู่ในฐานะเดิมเหมือนอย่างเช่น มิได้เข้าทำสัญญาหมั้นและเป็นผู้มีส่วนได้เสียในอันที่จะกล่าวอ้างความเสียเปล่าแห่งโมฆะกรรมได้ มาตรา 172 ซึ่งบัญญัติไว้ว่า "โมฆะกรรมนั้นไม่อาจให้สัตยาบันแก่กันได้ และผู้มีส่วนได้เสียคนหนึ่งคนใดจะยกความเสียเปล่าแห่งโมฆะกรรมขึ้นกล่าวอ้างก็ได้
ของหมั้นและสินสอดตามกฎหมาย, เรียกสินสอดของหมั้นคืนไม่ได้
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น ทนายความลีนนท์ พงษ์ศิริสุวรรณ โทร. 085-9604258 วันที่ตอบ 2013-08-12 15:03:29 |
ความคิดเห็นที่ 5 (2399428) | |
ชำระหนี้ตามอำเภอใจ(มาตรา 407),สัญญาหมั้นตกเป็นโมฆะ, ไม่ทราบว่าหญิงอายุไม่ครบ 17 ปี, ต้องคืนของหมั้นและสินสอด | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ทนายความลีนนท์ พงษ์ศิริสุวรรณ โทร. 085-9604258 วันที่ตอบ 2013-08-12 16:09:39 |
[1] |