ReadyPlanet.com


เรื่องการหย่า


ผมแต่งงานกับภรรบามา 9 ปี มีลูกด้วยกันหนึ่งคน และตอนนี้ต้องการหย่า เพราะอยุ่ไปก้ไม่มีความสุข

ภรรยาผมเป้นคนก้าวร้าว ไม่เค้ารพพ่อแม่ของผมเลย ซึ่งผมทนไม่ได้และมีปัญหากันเรื่อยมา จนตอนนี้แยกกันอยุ่มาสองปีกว่าแล้ว และผมต้องการหย่า เพราะอยากไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ แต่ผมขอรับผิดชอบค่าเลี้ยงดุบตุรเดือนละ 15,000 บาท ซึ่งภรรยาไม่ยอมโดยขอเพิ่มอีกหนึ่งหมื่นบาท ซึ่งผมคิดว่ามันมากเกินไป

เพราะผมต้องดูแลพ่อแม่และญาติๆด้วย อีกทั้งภรรบาผมเค้าก้มีหน้าที่การงานมั่นคงดี แต่เท่าทีคุยกันเค้าอยากกลั่นแกล้งผม ไม่ให้ผมมีความสุข ผมไม่รุ้จะทำอย่างไรดี ตอนอยุ่ด้วยกันก้ให้ค่าใช้จ้ายเค้าเดือนละไม่ต่ำกว่าสามหมื่น แต่เพราะผมต้องการจะหย่า และจะรับผิดชอบค่าเลี้ยงดูบุครเท่านั้น เพราะเค้าเองก้มีรายได้ดี

ผมควรทำอย่างไรได้บ้างครับคุณทนาย

1ถ้าจะรอให้ครบสามปีแล้วฟ้องหย่าเพราะแยกกันอยุ่ได้มั้ย เพราะตอนนี้ก้ไม่ได้อยุ่ด้วยกัน

2ถ้าเงินเดินแต่ละเดอืนผมให้แม่เกือบหมด และแบ่งให้บุตร 15000 บาทเค้าสามารถไปเรียกร้องจากแม่ผมได้มั้ย ในเมื่อผมก้ต้องเลี้ยงดูแม่เช่นกัน

3.ภรรยาเก่าอ้างว่า ต้องจ่ายค่าเลี้ยงดูบุตร หนึ่งในสามของเงินเดือน (ผมเงินเดือนเจ็ดหมื่นบาม ถ้าข่ายหนึ่งในสาม ผมก้ไม่พอใช้ เพราะต้องดุแลแม่ด้วย )แต่คิดว่าให้แค่ค่าเลี้ยงดูบุตร15,000 น่าจะเพียงพอ แต่ภรรยาไม่ยอม ผมจะทำอย่างได้ครับ

ทรัพสินที่มี แค่รถยนคันเดียวเป้นชื่อผม

และ



ผู้ตั้งกระทู้ คนทุกข์ใจ :: วันที่ลงประกาศ 2012-02-24 23:26:04


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (2256174)

1. ถ้าจะรอให้ครบสามปีแล้วฟ้องหย่าเพราะแยกกันอยุ่ได้มั้ย เพราะตอนนี้ก้ไม่ได้อยุ่ด้วยกัน

ตอบ - เหตุหย่าที่จะอ้างสมัครใจแยกกันอยู่เกินสามปีนั้น ต้องได้ความว่า "สมัครใจ" ทั้งสองฝ่าย ซึ่งตามพฤติการณ์ที่คุณเล่ามานั้น เป็นที่แน่นอนว่า หากคุณเป็นโจทก์ฟ้องหย่า ภริยาคุณก็ต้องต่อสู้คดีอ้าง "ไม่สมัครใจ" แยกกันอยู่ แต่เป็นการที่คุณสมัครใจฝ่ายเดียว จึงไม่เข้าเหตุหย่าตามเหตนี้ครับ

2. ถ้าเงินเดือนแต่ละเดือนผมให้แม่เกือบหมด และแบ่งให้บุตร 15000 บาทเค้าสามารถไปเรียกร้องจากแม่ผมได้มั้ย ในเมื่อผมก้ต้องเลี้ยงดูแม่เช่นกัน

ตอบ - ทรัพย์สินทุกชนิดที่ได้มาระหว่างสมรส กฎหมายให้สันนิษฐานว่าเป็นสินสมรส การอุปการะเลี้ยงดูบิดามารดาเป็นหน้าที่ของบุตร แต่ต้องอยู่ในฐานานุรูปของผู้ให้ คุณจะนำเงินอันเป็นสินสมรสไปให้แม่เกือบหมด ศาลอาจมองว่าเป็นการจัดการสินสมรไปในทางที่ไม่สุจริตก็ได้คือให้สมรู้กัน เมื่อเขาพิสูจน์ได้ก็อาจถือว่าเป็นการจัดการสินสมรสเพื่อประโยชน์ของตนฝ่ายเดียว อาจเข้าหลักตามกฎหมายคือ

 มาตรา 1534 สินสมรสที่คู่สมรสฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจำหน่ายไปเพื่อประโยชน์ตนฝ่ายเดียวก็ดี จำหน่ายไปโดยเจตนาทำให้คู่สมรสอีกฝ่ายหนึ่งเสียหายก็ดี จำหน่ายไปโดยมิได้รับความยินยอม ของคู่สมรสอีกฝ่ายหนึ่ง ในกรณีที่กฎหมายบังคับว่าการจำหน่ายนั้นจะต้องได้รับความยินยอมของอีกฝ่ายหนึ่งด้วยก็ดี จงใจทำลายให้สูญหายไปก็ดี ให้ถือเสมือนว่าทรัพย์สินนั้นยังคงมีอยู่ เพื่อจัดแบ่งสินสมรส ตามมาตรา 1533 และถ้าคู่สมรสอีกฝ่ายหนึ่งได้รับส่วนแบ่งสินสมรส ไม่ครบตามจำนวนที่ควรจะได้ ให้คู่สมรสฝ่ายที่ได้จำหน่ายหรือจงใจทำลายสินสมรสนั้นชดใช้จากสินสมรสส่วนของตน หรือสินส่วนตัว

3.ภรรยาเก่าอ้างว่า ต้องจ่ายค่าเลี้ยงดูบุตร หนึ่งในสามของเงินเดือน (ผมเงินเดือนเจ็ดหมื่นบาม ถ้าข่ายหนึ่งในสาม ผมก้ไม่พอใช้ เพราะต้องดุแลแม่ด้วย )แต่คิดว่าให้แค่ค่าเลี้ยงดูบุตร 15,000 น่าจะเพียงพอ แต่ภรรยาไม่ยอม ผมจะทำอย่างได้ครับ

ตอบ - ไม่มีกฎหมายบังคับไว้ว่าจะต้องจ่ายค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตรเดือนละเท่าใด แต่ให้อุปการะและให้การศึกษาตามสมควรและตามฐานะของผู้ให้และผู้รับหมายความว่าดูค่าใช้จ่ายของบุตร และรายได้ของผู้รับ ดังนั้นขอให้พิจารณาว่าบุตรควรใช้จ่ายเดือนละเท่าใดก็พิจารณาดู ซึ่ง 15,000 บาทต่อเดือนสำหรับผู้มีรายรับ 70,000 บาท ผมก็เห็นว่าสมแก่ฐานานุรูปของผู้ให้แล้ว ขอแนะนำว่าให้เขาเป็นผู้ฟ้องมาและจะได้ไปคุยกัน ตกลงไกล่เกลี่ยกันที่ศาล นะครับ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ทนายลีนนท์ วันที่ตอบ 2012-02-26 08:27:17



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล