สวัสดีค่ะ รบกวนช่วยตอบด้วยนะคะ เพราะจนปัญญาจะปรึกษาใครแล้วจริง ๆ ค่ะ คือดิฉันเปิดมินิมาร์ทและซักรีดใต้อพาร์ทเมนท์ในสุขุมวิทค่ะ พอดีว่าต้องย้ายไปอยู่กับแฟนที่เชียงใหม่เลยบอกเซ้งต่อเพื่อนสนิท ซึ่งพักในอพาร์ทเมนท์เดียวกัน ดิฉันทำการเซ็นสัญญาและมอบร้านในวันที่ 1 มิ.ย.55 น่ะค่ะ แต่ปัญหาคือ ในหนังสือสัญญาเช่าของอพาร์ทเมนต์ระบุว่าห้ามเช่าช่วงต่อ ดิฉันก็ได้ทำการคุยกับเจ้าของตึกซึ่งเป็นผู้มีอำนาจตัดสินใจทุกอย่าง ท่านบอกว่าก็ให้แจ้งก่อนเพราะทางเขาต้องดูคนที่จะมาเซ้งต่อด้วยว่าน่าไว้ใจไหม แต่ถ้าเพื่อนเราเองก็ไม่มีปัญหา สามารถติดต่ออ๊อฟฟิตและทำสัญญาได้เลย ซึ่งดิฉันก็สบายใจค่ะ แต่พอดีว่าคนที่ดูแลอ๊อฟฟิตคือเมียน้อยของน้องชายเจ้าของตึก และดูท่าทางเค้าอยากได้ทุกอย่างเป็นของตัวเอง มีครั้งนึงเค้ามาบอกดิฉันว่าถ้าไม่ไหวก็ไม่เป็นไร เดี๋ยวเค้าจะให้น้องสาวเค้ามาทำแทน ซึ่งดิฉันก็แปลกใจมาก ว่าทำไมจู่ ๆ มาพูดแบบนี้ทั้งที่ดิฉันขายดีเหมือนเดิม แต่ดิฉันตอบไปสั้น ๆ ว่า ไม่เป็นไรค่ะ ถ้าพี่ยังไม่แจ้งคือยังไม่ออกค่ะ .........ดิฉันก็คิดว่า เออ เมื่อไหร่จะไปค่อยหาคนมาเซ้งละกัน คิดว่ามันง่าย ๆ ไงคะ แต่เมื่ออาทิตย์ก่อนเพื่อนคนต่างชาติเป็นครูสอนภาษาจะย้ายมาอยู่ ดิฉันก็ถามเจ้าของตึกแล้ว เค้าก็อนุญาติ แต่พอไปวางเงินจอง คุณเมียน้อยของน้องชายเจ้าของตึกกลับบอกว่าไม่ได้ ไม่รับ ฉันก็ถามเหตุผล เค้าบอกว่าไม่อยากรับต่างชาติเพราะคุยไม่ได้ ฉันก็บอกว่าเค้าพูดไทยได้ หล่อนยังยืนยันว่าไม่รับค่ะ ดิฉันบอกว่าคุยกับลุงแล้ว ท่านอนุญาติ ( ลุงคือพี่ชายของสามีเค้าน่ะค่ะ เจ้าของตึกนั่นแหละ) หล่อนก็บอกว่างั้นไปเคลียร์กับลุงเองละกัน ดิฉันก็โทรไปทันที ท่านบอกว่า อ้าว ทำไมเค้าไม่รับล่ะ เหตุผลคืออะไร ฉันก้บอกไปตามที่คุยมา แล้วบอกว่าเพื่อนแจ้งย้ายตึกนั้นแล้วด้วย ท่านก็ว่าจะโทรไปคุยกับหล่อนให้ แต่สุดท้ายหล่อนมาบอกว่า สรุปไม่รับนะคะ เพราะอำนาจการตัดสินใจเด็ดขาดอยู่ที่หนู ดิฉันก็โทรกลับไปหาคุณลุงท่านอีก ท่านบอกสั้น ๆว่า อืมมม ก็คงตามนั้น เพราะยกให้เค้าเป็นคนจัดการแล้วคงต้องให้เค้าเป็นใหญ่ ....... คราวนี้ดิฉันเลยคิดว่า แล้วแบบนี้ร้านของฉันที่ท่านอนุญาติให้เซ้งได้ ก็ต้องให้หล่อนตัดสินใจด้วยสิคะ แล้วแบบนี้หล่อนก็คงไม่ให้ดิฉันเซ้งแน่ ๆ เพราะท่าทางหล่อนพยายามบีบให้ดิฉันออกเพราะอยากได้ร้านน่ะค่ะ อันนี้ดิฉันคิดเองนะคะ .......ส่วนเพื่อนที่จะเซ้งก็บอกว่า ถ้างั้นก็ทำสัญญารู้กันเองเราสองคน ชื่อผู้เช่าก็คือดิฉันเหมือนเดิม ดิฉันอยากรบกวนถามหน่อยนะคะ คือจะให้ย้ายออกคงไมได้ เพราะขาดทุนยับเลยล่ะค่ะ และจริง ๆ แล้ว ดิฉันเซ้งต่อมาอีกที ซึ่งเป้นสัญญาเดียวกันที่ระบุว่าห้ามเช่าช่วงต่อ แต่ดิฉันเซ้งมาและเปลี่ยนสัญญาผู้เช่าอย่างง่ายดาย แต่คนที่ให้ทำคือคนเก่าที่ดูแลอ๊อฟฟิตน่ะค่ะ ไม่ใช่หล่อน ดิฉันขอรบกวนถามว่า

1. ไม่ต้องแจ้งว่าจะเซ้ง แต่บอกเค้าว่าเราจ้างคนขาย แล้วเราทำสัญญาเซ้งระหว่างดิฉันกับเพื่อนรู้กันสองคนทั้งที่ชื่อผู้เช่ายังเป็นดิฉันคนเดิม ดีไหมคะ และจะทำได้ไหม เพราะดิฉันไม่อยากแจ้งว่าจะเซ้ง กลัวเค้าเล่นแง่ ถ้าเค้าจะเอาจริง ๆ ขึ้นมา

2.ดิฉันเช่าช่วงต่อมา และเปลี่ยนสัญญา ทั้งที่เป็นสัญญาฉบับเดียวกันว่าห้ามเช่าช่วงต่อ ถ้าเค้าไม่ยอมให้เซ้ง ดิฉันสามารถให้ตึกรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้นกับดิฉันในกรณีนี้ได้ไหมคะ เอาผิดกับเขาได้ไหม และจะคุ้มกันไหม

3.สัญญาเช่าทำร้านค้าข้างล่างตึกนี้ ไม่มีระยะเวลากำหนดค่ะ เหมือนเช่าห้องพักทั่วไป เป็นห้องเปล่า ๆ และเป็นสัญญาตัวเดียวกันกับคนอื่นที่เช่าห้องพักในตึกค่ะ เพียงแต่ค่าห้องต่างกันเท่านั้น  เมื่อไม่มีระยะเวลากำหนด ก็เท่ากับว่าถ้าเราไม่ทำผิดกฏอะไรก็สามารถเช่าอยู่ต่อไปตลอดไปจริงไหมคะ และในกรณีนี้ดิฉันไม่ได้ทำผิดกฏตึกเลยเค้าก็ไม่สามารถไล่ออกได้ใช่มั๊ยคะ ดิฉันจ้างคนมาขายแทนได้ใช่ไหมคะ ( แต่คนนั้นคือเพื่อนที่เซ้งต่อ แต่ทำสัญญากันเองโดยที่ไม่ให้ตึกรู้ แค่บอกว่าจ้างคนขายแทน ) เพราะดิฉันต้องไปอยู่กับแฟนน่ะค่ะ แบบนี้ทำได้ใช่ไหมคะ

รบกวนตอบด้วยนะคะ อาจจะยาวไปหน่อย แต่เพื่อความละเอียดในการวิเคราะห์เหตุการณ์น่ะค่ะ ดิฉันเครียดมากเลย ถ้าเซ้งไม่ได้ก็ไม่มีเงินติดตัวไปทำทุน .....ขอบพระคุณมากนะคะ