ผมทำสัญญาซื้อคอนโดเกรด B ที่อยู่แนวรถไฟฟ้า ในขณะนั้นรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายยังไม่ได้ดำเนินการสร้าง  กับ บริษัทแรก ผ่อนชำระดาวน์จนครบตามสัญญา แต่บริษัทมีปัญหาเรื่องการเงินไม่สามารถสร้างคอนโดให้แล้วเสร็จ (มาทราบภายหลัง) ต่อมามีบริษัทที่ 2 มา Take over มาดำเนินการสร้างต่อ และ สร้างอาคารที่ 2 ขึ้นอีกอาคาร ผมเห็นว่ามีการสร้างต่อ และยังสร้างเพิ่ม จึงเข้าใจว่าไม่น่าจะมีปัญหา จึงมิได้ดำเนินการใด ๆ เพียงแต่เฝ้ารอให้แล้วเสร็จ แล้วทำการโอน ผ่านมาเป็นเวลา 2 ปี รถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสร้างเกือบแล้วเสร็จ บริษัทที่ 2 ได้โทรศัพท์มาแจ้งว่าโครงการมีปัญหา ลูกค้าจะขอเงินคืน(จะผ่อนชำระคืนให้)  หรือ รอต่อไป  ผมเข้าใจว่าเป็นกลยุทธ์ที่จะเพิ่มราคาขายของบริษัท ผมจึงตัดสินใจที่จะรอต่อไป หลังจากนั้นโครงการก็หยุดสร้าง ผมไม่สามารถติดต่อบริษัทได้ สำนักงานขายปิด ผมแวะเวียนเข้าไปดูอยู่เป็นระยะ จนกรทั่งผ่านไปอีกประมาณ 1-2ปี โครงการเริ่มมีการก่อสร้างต่อ มีการขอไฟฟ้า สร้างตึกที่ 1 จนแล้วเสร็จ เริ่มเห็นมีเลขที่บ้านมาติดที่หน้าห้อง แต่พยายามสอบถามคนงานก่อสร้างที่มาก่อสร้าง ได้รับแจ้งว่าไม่มีเบอร์โทรศัพท์ที่จะติดต่อบริษัทได้ ได้พยายามสอบถามหลายครั้งก็ได้รับคำตอบเช่นเดิม จนกระทั่งต่อมา รถไฟฟ้าได้เปิดให้บริการสักประมาณ 4-5 เดือน มีป้ายโฆษณาขายคอนโด ด้วยราคาที่เพิ่มขึ้น ผมจึงรีบเข้าไปติดต่อที่สำนักงานขายที่เปิดขึ้นใหม่ ได้รับคำตอบว่า เขาเป็นบริษัทที่ 3 ที่มา Take over ถ้าลูกค้าเก่าจะมาซื้อจะต้องซื้อที่ราคาใหม่ อาจมีส่วนลดให้ ซึ่งราคาใหม่สูงกว่าราคาเดิมมาก (ราคาเดิมประมาณ 9 แสนกว่า ราคาใหม่ 1.4 ล้านบาท) ถ้าลูกค้าไม่ยอมรับราคาใหม่ให้ไปฟ้องร้องขอเงินดาว์นคืนกับ บริษัทที่ 1   ผมมีคำถามดังนี้

  1. ผมอยากได้คอนโดด้วยราคาและเงื่อนไขเดิม มากกว่าได้เงินดาว์นคืน ผมสามารถฟ้องร้องใครได้บ้างเช่น บริษัทที่ 1 หรือ 2 หรือ 3 หรือได้ทั้งหมด

2. โอกาสที่ผมจะชนะคดีมีมากน้องเพียงใด (ตามข้อ 1)

3.ค่าทนายในการต่อสู้คดี ราคาประมาณเท่าไหร่ครับ