บทความที่เกี่ยวข้องที่หามาให้อ่านนี้น่าจะตอบคำถามคุณได้นะครับ
http://www.geocities.com/acc_rest/a1.html
การตัดบัญชีหนี้สูญของกิจการ ใช่ว่าจะได้ตัดได้ทันทีทันใด อยากตัดก็สามารถตัดได้ทันทีนะคะ มีเกณฑ์อะไรบ้างที่เราต้องคำนึงก่อนการตัดบัญชีหนี้สูญ ก็เป็นข้อควรทราบไว้ เพื่อรักษาสิทธิทางภาษีค่ะ
ขั้นแรก ต้องพิจารณาก่อนนะคะว่าลูกหนี้นั้นเป็นลูกหนี้ที่เกิดขึ้นเกี่ยวเนื่องกับการประกอบกิจการโดยตรงหรือไม่ ถ้าเป็นลูกหนี้ที่ไม่เกี่ยวข้องก็หมดสิทธิ์...เช่น ลูกหนี้กรรมการ ลูกหนี้พนักงาน อย่างนี้ หมดสิทธิ์แน่นอนค่ะ
ขั้นต่อมา ก็ต้องพิจารณาว่าหนี้นั้นขาดอายุความแล้วหรือยัง อายุความของลูกหนี้ที่สามารถตัดหนี้สูญได้ตามหลักเกณฑ์ของสรรพากรนั้นคือ 2 ปีนะคะ ไม่ใช่ 10 ปีอย่างที่หลาย ๆ คนเข้าใจ ถ้าเข้าหลักเกณฑ์แล้วไปพิจารณาตามข้อ 3 ได้เลยค่ะ
พิจารณามูลหนี้ว่ามีจำนวนเท่าใด กรณีที่มูลหนี้ในแต่ละรายมีจำนวนเกิน 500,000 บาทขึ้นไป จะต้องดำเนินการดังต่อไปนี้ ได้ติดตามทวงถามตามสมควรแก่กรณี โดยมีหลักฐานการติดตามทวงถาม...ก็คือจดหมายทวงหนี้นั่นแหละค่ะ การส่งจดหมายทวงหนี้ควรใช้ไปรษณีย์ตอบรับด้วยนะคะ จะได้ทราบว่ามีคนรับแน่นอน และคนรับนั้นคือใคร และเมื่อติดตามแล้วปรากฎว่า ลูกหนี้เสียชีวิต, เป็นคนสาบสูญ, หรือลูกหนี้เลิกกิจการ แล้วมีเจ้าหนี้รายอื่นที่มีบุริมสิทธิ์เหนือกว่าเราค่ะ ได้ดำเนินการฟ้องลูกหนี้ และได้ยื่นคำขอเฉลี่ยหนี้ในคดีที่ลูกหนี้ถูกเจ้าหนี้รายอื่นฟ้องในคดีแพ่งแล้วแต่ลูกหนี้ไม่มีทรัพย์สินใด ๆ ที่จะชำระหนี้ได้ หรือ ได้ดำเนินการฟ้องลูกหนี้ในคดีล้มละลาย หรือได้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ในคดีที่ถูกลูกหนี้รายอื่นฟ้องล้มละลาย ข้อสังเกตง่าย ๆ ก็คือ ศาลจะต้องมีคำพิพากษาแล้วเท่านั้นนะคะ
ในกรณีที่มูลหนี้ในลูกหนี้แต่ละรายไม่จำนวนไม่เกิน 500,000 จะต้องดำเนินการดังต่อไปนี้ค่ะ ได้ติดตามทวงถามให้ชำระหนี้ตามสมควรแก่กรณี โดยมีหลักฐานชัดแจ้ง และไม่ได้รับชำระหนี้ ได้ดำเนินการฟ้องลูกหนี้ในคดีแพ่งและศาลได้มีคำสั่งรับคำฟ้องนั้นแล้ว หรือได้ดำเนินการฟ้องลูกหนี้ในคดีล้มละลาย หรือได้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ในคดีที่ถูกเจ้าหนี้รายอื่นฟ้องล้มละลาย และศาลได้มีคำสั่งรับคำฟ้องนั้นแล้ว ข้อสังเกตุในข้อนี้ก็คือ เพียงศาลรับคำฟ้องนั้นแล้วก็สามารถตัดบัญชีได้เลยค่ะ โดยต้องให้กรรมการ หรือ หุ้นส่วนผู้จัดการ เป็นผู้อนุมัติรายการหนี้สูญ ภายใน 30 วัน นับแต่สิ้นรอบระยะเวลาบัญชีนั้นค่ะ
ในกรณีที่มูลหนี้ในลูกหนี้แต่ละรายไม่จำนวนไม่เกิน 200,000 สำหรับกิจการธนาคาร บริษัทเงินทุนตามกฎหมาย จะต้องดำเนินการดังต่อไปนี้ค่ะ และจำนวนไม่เกิน 100,000 สำหรับนิติบุคคลอื่นที่ไม่ใช่ธนาคารหรือบริษัทเงินทุนค่ะ ได้ติดตามทวงถามให้ชำระหนี้ตามสมควรแก่กรณี โดยมีหลักฐานชัดแจ้ง และไม่ได้รับชำระหนี้ หากฟ้องแล้วจะต้องเสียค่าใช้จ่ายไม่คุ้มกับหนี้ที่ได้รับชำระ มูลหนี้แค่นี้ก็ตัดหนี้สูญได้เลย โดยไม่ต้องฟ้องค่ะ
ขั้นต่อไปก็ลงบัญชีค่ะ ถ้าเราได้ดำเนินการตามเกณฑ์กฎหมายภาษีอากร กรณีนี้เราจะบันทึกบัญชีโดย Debit หนี้สูญ Debit ภาษีขาย (ถ้ามี) และ Credit บัญชีลูกหนี้ เป็นรายการที่หนึ่ง และ Debit ค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ Credit หนี้สงสัยจะสูญ จำนวนเท่ากับหนี้สูญเท่ากับที่ตัดจำหน่าย เป็นรายการที่สองค่ะ (ม.การบัญชีฉบับที่ 11 ย่อหน้าที่ 20) แต่ถ้าเราตัดหนี้สูญแบบไม่เป็นไปตามกฎเกณฑ์ของภาษีอากร เช่น หนี้ขาดอายุความ เราก็สามารถบันทึกบัญชีได้โดยไม่ผิดหลักทฤษฎีบัญชีแต่อย่างใดนะคะ (แต่อย่าลืมบวกกลับใน ภงด.50 ด้วยล่ะ) เราจะใช้วิธีการตัดหนี้สูญโดยลดกับบัญชีค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญโดยตรง โดย Debit ค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ Credit ลูกหนี้ (ม.การบัญชีฉบับที่ 11 ย่อหน้าที่ 21)
กรณีหนี้สูญได้รับคืน หากลูกหนี้รายใดเราตัดบัญชีหนี้สูญไปแล้วถือว่าความสัมพันธ์กับลูกหนี้รายนั้นสิ้นสุดแล้วนะคะ ถ้าได้รับชำระเงินภายหลังถือว่าเป็นรายได้ที่ไม่ได้คาดหวังไว้ ก็ควรจะถือเป็นรายได้อื่น ๆ ค่ะ กรณีนี้ถ้าเราตัดหนี้สูญตามเกณฑ์ทางภาษีอากร ให้บันทึกบัญชีโดย Debit ลูกหนี้ Credit หนี้สูญได้รับคืน และ Debit เงินสด Credit ลูกหนี้ ค่ะ หากลูกหนี้รายใดที่เราตัดบัญชีหนี้สูญแบบไม่เป็นไปตามเกณฑ์ภาษีอากร ให้บันทึกบัญชีโดย Debit ลูกหนี้ Credit ค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ และ Debit เงินสด Credit ลูกหนี้ ค่ะ
|