มารดาที่เสียชีวิตมีชื่อในที่ดินร่วมกับญาติ | |
มารดาของดิฉันเสียชีวิตไปได้ประมาณ 12 ปี มีทะเบียนสมรสกับบิดา และมีข้าพเจ้าเป็นบุตรเพียงคนเดียว แต่เนีื่องจากมารดาของข้าพเจ้ามีชื่อในที่ดินแปลงหนึ่งซึ่งเป็นที่ดินร่วมกับญาติห่างๆๆ ในโฉลดที่ดิน มีชื่อ มารดาของข้าพเจ้า และชื่อญาติของข้าพเจ้า คนละแปลง อยู่ในโฉนดแผ่นเดียวกัน (เนื่องจากสมัยก่อนมารดาสั่งไม่ให้แยกโฉลด) ข้าพเจ้าไม่เคยเห็นโฉนดนั้นเลยเนื่องจากอีกฝ่าย(ญาติของมารดาห่างๆๆ)เป็นผู้ถือไว้ ขอดูก้อจะไม่เคยให้ดู เคยติดต่อขอเปลี่ยนชื่อเป็นข้าพเจ้าบ้างแล้ว แต่เขาทำท่าบ่ายเบี่ยง ปัจจุบันข้าพเจ้าไปขอสิทธิืเปลี่ยนชื่อรับมรดกของมารดนของข้าพเจ้า แต่เขาก็บ่ายเบี่ยงอีก ไม่ทราบว่า ข้าพเจ้าจะทำอย่างไรได้บ้างค่ะ แล้วในเมื่อชื่อเป็นชื่อมารดาของข้าพเจ้า ข้าพเจ้ามีสิทธิืมี่จะได้ของแม่คืนมาไหมค่ะ ขอคำแนะนำค่ะ....... | |
ผู้ตั้งกระทู้ นงเยาว์ :: วันที่ลงประกาศ 2012-08-25 18:13:16 |
[1] |
ความคิดเห็นที่ 1 (2301935) | |
ปัญหาคือคุณไม่เคยเห็นโฉนดที่ดินเลย จึงแนะนำให้ไปติดต่อขอข้อมูลจากสำนักงานที่ดินในเขตพื้นที่ที่ที่ดินตั้งอยู่ อาจจะเริ่มจากค้นหาโดยใช้ชื่อแม่เป็นผู้ถือครองที่ดินตามโฉนดเลขที่ใดบ้าง หากประสบผลสำเร็จได้เอกสารมาแล้วยังพบว่ามีชื่อแม่เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในที่ดินอยู่ ต่อไปก็ไปร้องขอเป็นผู้จัดการมรดกของแม่ เมื่อคดีไปถึงศาลแล้วค่อยดูท่าทีของญาติว่าเขาท่าทีตอบสนองการขอเป็นผู้จัดการมรดกของคุณอย่างไรบ้าง หากไม่มาศาล ๆ ก็จะตั้งคุณเป็นผู้จัดการมรดก ต่อไปคุณอาจจะขอรังวัดแบ่งที่ดินตามแต่สถานการณ์ในขณะนั้น ขึ้นอยู่กับว่าที่ดินมีการแบ่งกันครอบครองเป็นสัดส่วนแล้วหรือไม่ หากมีการแบ่งกันเป็น 2 แปลงชัดเจนแล้วก็อาจจะจบง่ายขึ้นครับ หากแบ่งกันไม่ได้ก็ต้องขายที่ดินนำเงินมาแบ่งกัน
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น ทนายลีนนท์0859604258 วันที่ตอบ 2012-09-18 18:16:22 |
ความคิดเห็นที่ 2 (2301936) | |
วิธีแบ่งทรัพย์สินที่เป็นเจ้าของรวมกัน คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8746/2551 เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นว่า การแบ่งทรัพย์สินให้เป็นไปตาม ป.พ.พ. มาตรา 1364 คำพิพากษาศาลชั้นต้นและคำบังคับตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นย่อมเป็นอันสิ้นผลไปโดยคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ จำเลยที่ 1 ย่อมมีสิทธิขอให้ศาลชั้นต้นออกคำบังคับใหม่ตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้โจทก์ปฏิบัติตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ต่อไปได้ รวมถึงกรณีที่หากศาลฎีกามีคำพิพากษาในคดีเดิมและผลแห่งคำพิพากษาจำต้องมีการบังคับคดีให้แบ่งสินสมรสระหว่างกันอีก จำเลยที่ 1 หรือโจทก์ย่อมสิทธิขอออกคำบังคับใหม่เพื่อให้มีการบังคับคดีต่อไปได้ ถ้าเจ้าของรวมไม่ตกลงกันว่าจะแบ่งทรัพย์สินอย่างไรไซร้ เมื่อเจ้าของรวมคนหนึ่งคนใดขอ ศาลอาจสั่งให้เอาทรัพย์สินนั้นออกแบ่ง ถ้าส่วนที่แบ่งให้ไม่เท่ากันไซร้ จะสั่งให้ทดแทนกันเป็นเงินก็ได้ ถ้าการแบ่งเช่นว่านี้ไม่อาจทำได้หรือจะเสียหายมากนักก็ดี ศาลจะสั่งให้ขายโดยประมูลราคากันระหว่างเจ้าของรวมหรือขายทอดตลาดก็ได้ โจทก์อุทธรณ์ โจทก์ฎีกา พิพากษายืน ให้โจทก์ใช้ค่าทนายความชั้นฎีกา 1,500 บาท แทนจำเลยที่ 1 | |
ผู้แสดงความคิดเห็น * วันที่ตอบ 2012-09-18 18:41:44 |
[1] |