เปิดร้านรับซื้อของเก่าไม่มีเจตนาจะซื้อของโจร | |
อยากปรึกษาพี่ว่าเรารับซื้อของเก่าเราไม่รู็ว่าเป็นของโจร ไม่มีเจตนาจะซื้อของที่ลักขโมยมาขายแต่เราไม่รู้ และระยะเวลาที่เอามาขายผ่านไป 2 ปีแล้วเจ้าของถึงมาทวงถามซึ่งของกลางร้านรับซื้อก็นำไปขายต่อแล้ว ไม่มีของกลางแล้ว แบบนี้มีความผิดไหมค่ะ แล้วตอนนี้ก็ยังจับคนที่เอามาขายไม่ได้แต่เจ้าของมาเอาความผิดกับร้านรับซื้อซึ่งตอนนี้อยู่ในช่วงดำเนินคดีในศาลชั้นต้นศาลให้ประกันตัวเจ้าของร้านออกมาแล้ว แต่ศาลนัดไปขึ้นศาลอีกภายใน 1เดือนอยากปรึกษาว่าจะเป็นอย่างไรบ้างคะแล้วถ้าเรายอมชดใช้ค่าเสียหายให้เจ้าของผู้เสียหายแล้วศาลจะยกฟ้องไหมคะแล้วจะเป็นอย่างไรต่อไปต้องติดคุกไหมคะ (ร้านรับซื้อมีใบอนุญาตครบทุกอย่าง) | |
ผู้ตั้งกระทู้ วาส :: วันที่ลงประกาศ 2012-08-16 21:31:27 |
[1] |
ความคิดเห็นที่ 1 (2301077) | |
ความผิดฐานรับของโจรนั้น เป็นการรับเอาไว้ซึ่งทรัพย์ที่ได้กระทำความผิด หากว่าคุณไม่รู้และสามารถพิสูจน์ให้ศาลเชื่อว่าคุณไม่รู้ได้ ศาลก็ยกฟ้องครับ แต่จะพิสูจน์อย่างไร เพราะพูดลอย ๆ ว่าไม่รู้นั้นคงไม่พอเพียงให้ศาลเชื่อว่าคุณไม่รู้ เช่น ตอนนำมาขาย ขอเอกสารความเป็นเจ้าของไหมเช่นใบเสร็จรับเงิน หรือรับซื้อในราคาท้องตลาดไม่ถูกกว่าราคาที่ควรเป็น ลงบันทึกชื่อผู้ขายและบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ขายไว้เป็นหลักฐาน เป็นต้น คดีนี้เป็นความผิดต่อแผ่นดินไม่สามารถยอมความกันได้ แต่หากผู้เสียหายมาแถลงศาลว่าไม่ติดใจดำเนินคดีแพ่งและคดีอาญาต่อศาล ๆ ก็จะเมตตาลงโทษสถานเบาได้ครับ ส่วนยกฟ้องคงเป็นไปไม่ได้ครับ ติดคุกหรือไม่ตอบไม่ได้ครับ ส่วนใหญ่ไม่ค่อยรอลงอาญานะครับ แต่ถ้ารับสารภาพก็ยังอยู่ในหลักเกณฑ์ตามกฎหมายที่ศาลมีอำนาจรอลงอาญาได้ครับ
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น ทนายลีนนท์0859604258 วันที่ตอบ 2012-09-14 12:45:54 |
ความคิดเห็นที่ 2 (2301078) | |
มาตรา 357 ผู้ใดช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำหรือรับไว้โดยประการใด ซึ่งทรัพย์อันได้มาโดยการกระทำความผิดถ้าความผิดนั้นเข้าลักษณะลักทรัพย์ วิ่งราวทรัพย์ กรรโชก รีด เอาทรัพย์ ชิงทรัพย์ ปล้นทรัพย์ ฉ้อโกง ยักยอกหรือ เจ้าพนักงานยักยอกทรัพย์ ผู้นั้นกระทำความผิดฐานรับของโจรต้อง ระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้ง จำทั้งปรับ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น * วันที่ตอบ 2012-09-14 12:46:19 |
ความคิดเห็นที่ 3 (2301080) | |
มาตรา 56 ผู้ใดกระทำความผิดซึ่งมีโทษจำคุก และในคดีนั้นศาลลงโทษศาลจำคุกไม่เกินสามปี ถ้าไม่ปรากฏว่าผู้นั้นได้รับโทษจำคุกมาก่อน หรือปรากฎว่าได้รับโทษจำคุกมาก่อนแต่เป็นโทษสำหรับความผิดที่ได้กระทำโดยประมาท ศาลจะพิจารณาว่าผู้นั้นมีความผิด แต่รอการกำหนดโทษหรือกำหนดโทษแต่รอการลงโทษไว้ 1. “รอการกำหนดโทษ” หมายถึง ศาลพิพากษาว่าผู้นั้นกระทำผิดจริงและไม่ได้กำหนดโทษ เพียงแต่ทราบว่าโทษทีจะลงนั้นจำคุกไม่เกิน 3 ปี กรณีตัวอย่าง จากกรณีของนายแดง ซึ่งเป็นการกระทำความผิดฐานขับรถโดยประมาท ทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ถ้าศาลพิจารณา ลงโทษจำคุก 1 ปี 6 เดือน แต่ได้นำมาตรา 56 มาใช้ประกอบ คือผู้พิพากษาจะรอการลงอาญาเอาไว้ 2 ปี โดยกำหนดให้รายงานตัวและบำเพ็ญประโยชน์ ดังนั้นผลของการรอลงอาญาตามมาตรา 56 เมื่อศาลพิจารณารอลงอาญาหมายความว่า ศาลพิพากษาว่าผู้นั้นมีความผิดแต่ให้ปล่อยตัวไปเพื่อให้โอกาสปรับตัวภายในเวลาที่กำหนดแต่ไม่เกิน 5 ปี โดยศาลอาจจะสั่งคุมความประพฤติ ประกอบคำสั่งการลงอาญา | |
ผู้แสดงความคิดเห็น * วันที่ตอบ 2012-09-14 12:52:38 |
ความคิดเห็นที่ 4 (2301081) | |
1. การฟ้องบวกโทษผู้ที่กระทำความผิดในระหว่างรอการกำหนดโทษหรือรอการลงโทษ
2.การฟ้องเพิ่มโทษที่จะลงแก่ผู้กระทำความผิดอีกหนึ่งในสาม (ป.อ.ม.92) 3. การเพิ่มโทษที่จะลงแก่ผู้กระทำความผิดอีกกึ่งหนึ่ง (ป.อ.ม.93)
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น * วันที่ตอบ 2012-09-14 12:57:24 |
[1] |