แต่งงานกันมา 20 กว่าปี คำว่าแต่งงาน กับจดทะเบียนสมรสมีความหมายไม่เหมือนกัน ดังนั้นจึงขอมัดข้อเท็จจริงให้ชัดเจนคือจดทะเบียนสมรสถูกต้องตามกฎหมาย เพราะมีข้อความว่า "จะหย่ากัน" ขอตอบคำถามดังนี้

1.จะแบ่ง มรดกกันอย่างไร คือมี บ้าน 2 หลังพร้อมที่ดิน ให้ตากับยายอยู่หนึ่งหลัง อยู่ในเนื้อที่เดียวกันและมีไร่ไม่แน่ใจว่ามีเนื้อที่เท่าไหร่เป็นชื่อพ่อ  และรถทางการเกษตร 1 คัน จักรยานยนต์ 2 คันหนูใช้อยู่ 1 คันเป็นชื่อพ่อทั้งหมด คือพ่อกับแม่แย่งกัน

คำตอบ--- ที่ถูกคือสินสมรส ไม่ใช่ มรดก เพราะมรดกคือทรัพย์ของคนตาย ทรัพย์ที่เป็นสินสมรสให้แบ่งคนละครึ่ง วิธีการแบ่งให้ตกลงกัน หากตกลงกันไม่ได้ให้ประมูลกันเองก่อน ถ้าไม่สามารถตกลงกันได้อีกก็ต้องนำทรัพย์ขายทอดตลาดนำเงินมาแบ่งกันคนละครึ่งครับ

มาตรา 1364  การแบ่งทรัพย์สินพึงกระทำโดยแบ่งทรัพย์สินนั้นเองระหว่างเจ้าของรวม หรือโดยขายทรัพย์สินแล้วเอาเงินที่ขายได้แบ่งกัน
ถ้าเจ้าของรวมไม่ตกลงกันว่าจะแบ่งทรัพย์สินอย่างไรไซร้ เมื่อเจ้าของรวมคนหนึ่งคนใดขอ ศาลอาจสั่งให้เอาทรัพย์สินนั้นออกแบ่ง ถ้าส่วนที่แบ่งให้ไม่เท่ากันไซร้ จะสั่งให้ทดแทนกันเป็นเงินก็ได้ ถ้าการแบ่งเช่นว่านี้ไม่อาจทำได้หรือจะเสียหายมากนักก็ดี ศาลจะสั่งให้ขายโดยประมูลราคากันระหว่างเจ้าของรวมหรือขายทอดตลาดก็ได้

2. และเมื่อพ่อได้แยกอยู่กับแม่มา 1 เดือนได้ไปซื้อที่ดินแต่ยังจ่ายไม่หมดไปสร้างบ้านอีกหนึ่งหลังไม่ทราบว่าที่ดินนี้เป็นกรรมสิทธ์ของพ่อเลยหรือป่าว

คำตอบ - เมื่อยังไม่มีการจดทะเบียนหย่าอยู่ตราบใดก็ถือว่ายังเป็นคู่สมรสกันอยู่ ทรัพย์สินที่พ่อได้มาจึงเป็นการได้มาระหว่างสมรส ไม่ว่าใครจะเป็นผู้ออกเงินซื้อทรัพย์สินนั้นก็เป็นสินสมรสที่จะต้องนำแบ่งกัน

3.แล้วหนี้ที่พ่อกับแม่ไปกู้ทำการเกษตร คือ กองทุนหมู่บ้าน แล้ว ธกส. จะต้องแบ่งหนี้กันอย่างไร

คำตอบ - หนี้ที่เป็นหนี้ร่วมก็ต้องรับผิดชอบร่วมกัน(คนละครึ่ง) ควรนำสินสมรสตีราคา หรือนำออกขายเพื่อชำระหนี้ก่อน

4.หนูเป็นลูกสาวคนเดียวจะได้อะไรบ้าง

คำตอบ - ไม่มีกฎหมายบังคับให้บิดา มารดา เมื่อจดทะเบียนหย่ากันต้องแบ่งทรัพย์สินให้ลูก (บุตร) เพราะไม่ใช่มรดกของพ่อ แม่ ที่เสียชีวิต ดังนั้นคุณจึงไม่มีสิทธิจะได้ทรัพย์ของพ่อแม่ เว้นแต่จะให้โดยเสน่หาครับ

5.แม่จะได้อะไรบ้าง-----6.พ่อจะได้อะไรบ้าง

คำตอบ - ตามข้อ 1 คือ หลังชำระหนี้แล้วแบ่งกันคนละครึ่งครับ