ช่วยด้วยค่ะ ถูกฟ้องแย่งสามีตัวเอง | |
เลิกกับสามีเมื่อหลายปีก่อน ต่อมาสามีแต่งงานจดทะเบียนสมรสกับผู้หญิงคนใหม่ ต่อมาสามีมาเยี่ยมลูกและได้นอนค้างด้วยที่บ้าน ผู้หญิงคนใหม่จะฟ้องเรียกค่าเสียหายในข้อหาแย่งสามีของเธอ อย่างนี้ทำได้ไหม เพราะสามีได้ขอหย่ากับเธอเพื่อที่จะมาอยู่กับดิฉัน เธอฟ้องดิฉันได้ไหมเพราะว่าดิฉันกับสามี มีลูกด้วยกัน แต่เธอไม่มีเพียงทะเบียนสมรส | |
ผู้ตั้งกระทู้ เมวลี :: วันที่ลงประกาศ 2008-03-14 16:26:32 |
[1] |
ความคิดเห็นที่ 1 (1615292) | |
1.ขอตอบตามหลักกฎหมายนะครับ เมื่อคุณอ้างว่าเคยเป็นภรรยาและมีบุตรด้วยกันนั้น แต่คุณไม่ได้จดทะเบียนสมรสกับสามีในสายตาของกฎหมายไม่สนใจว่าคุณจะมีบุตรกับเขา(สามี) ดังนั้นในขณะที่ภริยาของเขาได้จดทะเบียนสมรสถูกต้องตามกฎหมายเขาจึงเป็นภริยาที่ชอบด้วยกฎหมายครับ ส่วนคุณเป็นหญิงอื่นซึ่งกฎหมายเรื่องความสัมพันธ์ในสครอบครัวคุณเป็นบุคคลภายนอก 2. เมื่อสามีของเขา(จริงๆ ของเราด้วย) มาแสดงออกชัดแจ้งว่ามีความสัมพันธ์กับคุณฉันชู้สาวหรือยกย่องคุณฉันภริยาเขาก็มีสิทธิตามกฎหมายที่เรียกค่าทดแทนจากคุณได้ แต่ต้องนำสืบให้ศาลเชื่อว่ามีมามีความสัมพันธ์ฉันชู้สาว แต่เขาก็มีสิทธิที่จะมาพบลูกของเขาได้โดยมิได้ยุ่งเกี่ยวกับคุณก็ได้ใช่ไหมครับ 3. สามีฟ้องหย่า หรือฝ่ายภริยาฟ้องหย่ากันแน่ครับ และคงอยู่ระหว่างการดำเนินคดีใช่ไหมครับ อย่างนี้รอให้ศาลตัดสินก่อนดีกว่าครับ สรุป ถ้าเขามาค้างบ้านคุณและแสดงออกว่าคุณเป็นภริยาเสมอเขา ๆ ก็ฟ้องคุณได้ครับ อาจตอบไม่ถูกใจแต่ตามข้อเท็จจริงที่ให้มานิดเดียวและตอบตามหลักกฎหมายครับ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ลีนนท์ วันที่ตอบ 2008-03-14 19:20:18 |
ความคิดเห็นที่ 2 (1615293) | |
ป.พ.พ. มาตรา 1523 วรรคสอง เป็นบทบัญญัติที่ให้สิทธิแก่ภริยาชอบด้วยกฎหมายที่จะเรียกร้องค่าทดแทนจากหญิงอื่นที่แสดงตนโดยเปิดเผย เพื่อแสดงว่าตนมีความสัมพันธ์กับสามีในทำนองชู้สาวโดยมิได้มีเงื่อนไขว่าภริยาจะต้องเกิดความเสียหายอย่างใดหรือจะต้องเป็นภริยาที่อยู่กินกับสามีและอุปการะเลี้ยงดูกัน หรือต้องไม่มีคดีฟ้องหย่ากันอยู่ โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องเรียกค่าทดแทนจากจำเลยได้ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ลีนนท์ วันที่ตอบ 2008-03-15 10:45:16 |
ความคิดเห็นที่ 3 (1615294) | |
ป.พ.พ. มาตรา 1523 วรรคสอง เป็นบทบัญญัติที่ให้สิทธิแก่ภริยาชอบด้วยกฎหมายที่จะเรียกร้องค่าทดแทนจากหญิงอื่นที่แสดงตนโดยเปิดเผย เพื่อแสดงว่าตนมีความสัมพันธ์กับสามีในทำนองชู้สาวโดยมิได้มีเงื่อนไขว่าภริยาจะต้องเกิดความเสียหายอย่างใดหรือจะต้องเป็นภริยาที่อยู่กินกับสามีและอุปการะเลี้ยงดูกัน หรือต้องไม่มีคดีฟ้องหย่ากันอยู่ โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องเรียกค่าทดแทนจากจำเลยได้ ศาลฎีกาแผนกคดีเยาวชนและครอบครัววินิจฉัยว่า คดีมีปัญหาตามฎีกาของจำเลยว่า จำเลยไม่ต้องรับผิดจ่ายค่าทดแทนให้แก่โจทก์ตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 3 หรือไม่ โดยจำเลยฎีกาว่า ภริยาที่จะมีสิทธิเรียกค่าทดแทนตาม ป.พ.พ. มาตรา 1523 วรรคสอง จะต้องเป็นภริยาที่อยู่ร่วมกับสามีฉันสามีภริยาและอุปการะเลี้ยงดูซึ่งกันและกัน แต่คดีนี้โจทก์กับสามีนอกจากจะมิได้อยู่ร่วมกันฉันสามีภริยาแล้ว ยังมีคดีฟ้องหย่ากันก่อนที่จะเกิดเหตุตามฟ้อง และปัจจุบันศาลได้พิพากษาให้โจทก์กับสามีหย่ากันแล้ว ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษาให้จำเลยจ่ายค่าทดแทนให้แก่โจทก์จึงไม่ชอบ เห็นว่า ป.พ.พ. มาตรา 1523 วรรคสอง เป็นบทบัญญัติที่ให้สิทธิแก่ภริยาชอบด้วยกฎหมายที่จะเรียกร้องค่าทดแทนจากหญิงอื่นที่แสดงตนโดยเปิดเผยเพื่อแสดงว่าตนมีความสัมพันธ์กับสามีในทำนองชู้สาว โดยมิได้มีเงื่อนไขว่าภริยาจะต้องเกิดความเสียหายอย่างใดหรือจะต้องเป็นภริยาที่อยู่กินกับสามีและอุปการะเลี้ยงดูกัน หรือต้องไม่มีคดีฟ้องหย่ากันอยู่ดังที่จำเลยฎีกา ดังนั้นโจทก์จึงมีอำนาจฟ้องเรียกค่าทดแทนจากจำเลยได้แม้โจทก์กับสามีจะมีพฤติการณ์ดังที่จำเลยกล่าวอ้าง ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษาให้จำเลยจ่ายค่าทดแทนแก่โจทก์ชอบแล้ว | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ลีนนท์ วันที่ตอบ 2008-03-15 10:48:41 |
[1] |