ReadyPlanet.com


ให้ที่พักผู้กระทำผิด


น้องผมให้ที่พักเพื่อนที่ชิงทรัพย์อาศัยอยู่ด้วย2อาทิตย์และก็ได้ใช้เงินที่เพื่อนชิงทรัพย์มาด้วยแต่น้องผมไม่รู้เห็นด้วยตอนที่เขาไปชิงทรัพย์มาน้องผมจะมีความผิดด้วยไหมครับและถ้ามีน้องจะโดนข้อหาสมรู้ด้วยไหมครับน้องผมบอกว่าเขามาขออาศัยอยู่ด้วยชั่วคราวและเขาก็เป็นคนออกค่าใช้จ่ายต่างๆเองทั้งหมดน้องผมก็ไม่รู้จะทำอย่างไรดีก็เลยต้องยอมเพราะเขาบอกว่าอยู่แค่4-5วันเท่านั้นด้วยความที่น้องผมยังเด็กอยู่ก็เลยอยากกินอยากเที่ยว ตอนนี้เพื่อนเขาโดนจับแล้วและก็มีหมายศาลเรียกตัวน้องผมไปเป็นพยานผมก็ไม่แน่ใจว่าน้องผมจะไปเป็นพยานอย่างไรช่วยแนะนำผมทีนะครับที่บ้านกลุ้มใจกันมากไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรอีกแค่อาทิตย์เดียวน้องผมต้องไปเป็นพยานแล้ว และถ้าเขาซัดทอดว่าน้องผมรู้เห็นด้วยน้องผมจะโดนจับไหมครับและถ้าขอประกันตัวได้ไหมครับ ขอบคุณครับ


ผู้ตั้งกระทู้ โอ๊ก :: วันที่ลงประกาศ 2008-07-02 09:08:26


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (1791328)

ตามที่เล่ามานั้นพอที่จะปรับเข้ากับความผิดตามกฎหมายดังนี้ครับ

มาตรา 189 ผู้ใดช่วยผู้อื่นซึ่งเป็นผู้กระทำความผิด หรือเป็นผู้ต้อง หาว่ากระทำความผิด อันมิใช่ความผิดลหุโทษ เพื่อไม่ให้ต้องโทษ โดยให้พำนักแก่ผู้นั้น โดยซ่อนเร้นหรือโดยช่วยผู้นั้นด้วยประการใด เพื่อไม่ให้ถูกจับกุม ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปีหรือปรับไม่เกิน สี่พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

โทษก็ตามที่กฎหมายกำหนดคือไม่เกินสองปีแต่ถ้าไม่เคยกระทำความผิดอาญามาก่อนศาลน่าจะเมตตาปรานีลงโทษสถานเบาคือรอการลงโทษหรือรอลงอาญาก็ได้ครับ

เรื่องที่มีหมายเรียกศาลไปเป็นพยานนั้น ถ้าคุณแน่ใจว่าเป็นหมายเรียกของศาลและเรียกไปในฐานะพยานก็ไม่มีปัญหาอะไรเพราะก็คงไม่ได้ไปในฐานะจำเลยครับ ต้องอ่านหมายศาลนั้นดีๆครับ

แต่อย่างไรก็ตามก็ต้องไปตามหมายนัดของศาลครับ และถ้าในฐานะพยานก็ไม่ต้องมีการประกันตัวครับ

มีข้อสงสัยถามมาใหม่นะครับ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ลีนนท์ วันที่ตอบ 2008-07-02 12:43:57


ความคิดเห็นที่ 2 (1791332)

ตัวอย่างคำพิพากษา

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อระหว่างวันที่ 25 สิงหาคม 2508 ถึงวันที่ 10 กันยายน2508 ทั้งเวลากลางวันและกลางคืนติดต่อกัน จำเลยได้บังอาจช่วยนายทิม อยู่ดี ซึ่งเป็นผู้ต้องหาว่ากระทำผิดและถูกพนักงานอัยการจังหวัดจันทบุรีฟ้องในข้อหาฆ่านายเจริญ มาลาวงษ์ ศาลจังหวัดจันทบุรีพิพากษายกฟ้อง ตามคดีหมายเลขแดงที่ 797/2513 โจทก์อุทธรณ์ ศาลจังหวัดจันทบุรีนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ แต่นายทิมอยู่ดี จงใจหลบหนีไม่ไปฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ศาลจังหวัดจันทบุรีจึงออกหมายจับนายทิม อยู่ดี เพราะเป็นผู้กระทำผิดฐานหลบหนีไม่ไป ศาลฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ จำเลยได้บังอาจช่วยนายทิม อยู่ดี โดยให้พำนักโดยซ่อนเร้นนายทิม อยู่ดี และเมื่อตำรวจติดตามจับกุมนายทิม อยู่ดี จำเลยก็ช่วยบอกให้นายทิม อยู่ดี ทราบล่วงหน้าเพื่อหลบหนีไม่ให้ถูกจับกุม และเพื่อไม่ให้นายทิม อยู่ดี ต้องโทษ เหตุเกิดที่ตำบลกระแจะ อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี ขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 189

ศาลชั้นต้นสั่งว่า การกระทำของจำเลยตามที่โจทก์บรรยายมาในฟ้อง ไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 189 เพราะการที่ศาลออกหมายจับนายทิม อยู่ดี จำเลยในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 797/2513 ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 182 นั้น เป็นการออกหมายจับเพื่อให้ได้ตัวนายทิมจำเลยมาฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์เท่านั้น หาใช่เพราะนายทิมจำเลยกระทำความผิดหรือต้องหาว่ากระทำความผิดฐานหนึ่งฐานใดอันมีโทษตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ไม่ ให้ยกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 189 บัญญัติลงโทษผู้กระทำการช่วยเหลือผู้กระทำความผิด หรือเป็นผู้ต้องหาว่ากระทำความผิด เพื่อมิให้ต้องรับโทษ มิได้บัญญัติลงโทษผู้ไม่มาฟังคำพิพากษาของศาล ศาลอุทธรณ์ได้ตรวจแล้วไม่พบว่ามีตัวบทกฎหมายใดบัญญัติว่า คู่ความซึ่งไม่มาฟังคำพิพากษาของศาลตามวันนัด มีความผิดและมีโทษทางอาญา นายทิมจึงไม่เป็นผู้กระทำความผิด หรือเป็นผู้ต้องหาว่ากระทำความผิด การกระทำของจำเลยจึงไม่ครบองค์ความผิดตามบทกฎหมายที่โจทก์อ้าง พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาได้ตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้ว ปัญหาจะต้องวินิจฉัยว่า นายทิม อยู่ดี เป็นผู้กระทำความผิด หรือเป็นผู้ต้องหาว่ากระทำความผิดตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 189 หรือไม่ พิเคราะห์แล้ว สำหรับคดีที่นายทิมถูกฟ้องในข้อหาว่าฆ่านายเจริญ นั้น ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง แม้คดีจะยังไม่ถึงที่สุด แต่ตราบใดที่ยังไม่มีคำพิพากษาของศาลสูงเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น ก็ต้องถือว่า นายทิมไม่ใช่ผู้กระทำผิดในข้อหาฐานนี้ คงเหลือแต่เรื่องนายทิมจงใจหลบหนีไม่ไปฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ จนศาลจังหวัดจันทบุรีออกหมายจับว่าจะเป็นการกระทำผิดหรือไม่ เห็นว่าการที่ศาลจังหวัดจันทบุรีออกหมายจับนายทิม ก็เพื่อให้ได้ตัวนายทิมมาฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ หาใช่ออกหมายจับเพราะนายทิมกระทำผิดฐานหลบหนีไม่ไปศาลดังที่โจทก์กล่าวในฟ้องไม่ นายทิมจึงไม่ใช่ผู้กระทำความผิด หรือผู้ต้องหาว่ากระทำความผิด การที่จำเลยช่วยเหลือนายทิมด้วยประการต่าง ๆ ดังฟ้อง จึงไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 189 ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องเสียนั้นชอบแล้ว ฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น

พิพากษายืน

( อุดม ทันด่วน - พิชัย รชตะนันทน์ - ศวิต สมหวัง )

 

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 207/2517

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ลีนนท์ วันที่ตอบ 2008-07-02 12:48:52


ความคิดเห็นที่ 3 (1791343)

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้ช่วยนายยอดซึ่งต้องหาว่าเป็นผู้กระทำความผิดในคดีฆ่าผู้อื่นอันมิใช่ความผิดลหุโทษ โดยให้พำนักซ่อนเร้นอยู่ที่บ้านของจำเลยและเมื่อร้อยตำรวจเอกหิรัญกับพวกมาล้อมจับ จำเลยบอกว่านายยอดไม่ได้อยู่ที่บ้านจำเลย ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 189

จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 189 จำคุก 1 ปี

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้อง

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงที่ศาลล่างทั้งสองฟังเป็นยุติต้องกันว่ามีคนร้ายใช้ปืนยิงนายสมศักดิ์ถึงตาย ร้อยตำรวจเอกหิรัญสืบทราบว่านายยอดเป็นคนร้ายรายนี้ จึงไปจับกุมที่บ้านน้ำวิ่ง ทราบจากชาวบ้านว่ามาที่บ้านจำเลยจึงติดตามมาสอบถามจำเลยถึงนายยอด ชั้นแรกจำเลยปฏิเสธว่าไม่ได้มาบ้านจำเลย ครั้นร้อยตำรวจเอกหิรัญว่ากำลังติดตามจับ ทราบว่ามากู้เงินจำเลยจำเลยจึงรับว่านายยอดมาจริงแต่กลับไปแล้วครั้นค้นบ้านจึงพบนายยอดหลบซ่อนอยู่ชั้นบนบ้านจำเลย ปัญหาว่า การที่ร้อยตำรวจเอกหิรัญไปจับกุมนายยอดโดยมิได้แจ้งให้จำเลยทราบว่านายยอดต้องหาว่ากระทำความผิดฐานใดนั้นจำเลยจะมีความผิดตามฟ้องหรือไม่ เห็นว่า เจ้าพนักงานผู้ติดตามจับกุมผู้กระทำความผิดหาจำต้องแจ้งแก่ผู้ให้ที่พำนักซ่อนเร้นทราบว่าผู้กระทำความผิดหรือผู้ต้องหาว่ากระทำความผิดได้กระทำความผิดอันมิใช่ความผิดลหุโทษ เพียงแต่แจ้งให้รู้ว่าบุคคลที่ตนให้ที่พำนักซ่อนเร้นเป็นผู้กระทำความผิดก็พอแล้วส่วนจะเป็นความผิดฐานใดนั้นเป็นข้อเท็จจริงที่โจทก์จะต้องกล่าวในฟ้องและนำสืบ พฤติการณ์ของจำเลยแสดงว่าจำเลยรู้อยู่แล้วหรือควรจะรู้ว่านายยอดเป็นผู้ต้องหาว่ากระทำความผิด เพราะร้อยตำรวจเอกหิรัญได้แจ้งให้จำเลยทราบว่ากำลังติดตามจับนายยอดอยู่

พิพากษากลับให้ลงโทษจำเลยตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

( จรัญ สำเร็จประสงค์ - พิสัณห์ ลีตเวทย์ - ขจร หะวานนท์ )

 

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1670/2522

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ลีนนท์ วันที่ตอบ 2008-07-02 12:55:39



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล