ReadyPlanet.com


ผมโดนผู้หญิงที่รู้จักทางอินเตอร์เน็ตหลอกให้โอนเงิน


ผมโดนผู้หญิงที่รู้จักทางอินเตอร์เน็ตหลอกให้โอนเงิน แบบขอความช่วยเหลือเรื่องเงินต่างๆนาๆ โดยที่ยังไม่เจอตัว เค้าเอารูปคนหน้าตาดีส่งมาให้เราแล้วบอกว่าเป็นคนนั้น  ในกรณีของผมคล้ายๆ ที่บอกว่าทำงานอยู่แกรมมี่หลอกผู้หญิงที่โดนกองปราบดำเนินคดีครับ .ผมมารู้ตัวทีหลังว่าโดนหลอกเพราะแอบไปหาที่ทำงานเจอตัวจริงแล้วไม่ใช่ ตัวจริงอ้วนหน้าตาไม่ดี ตรงกันข้ามในรูปที่ส่งมาเลยครับ พอจับได้ว่าโดนหลอกผมก็อยากจะได้เงินคืนครับ ตั้งแต่รู้จักกันแรกๆ ผมพยายามอยากขอเจอตัวจริงแต่ปฎิเศธบ่ายเบี่ยงตลอดด้วยเหตุผลต่างๆนาๆ / ผมรุ้จักคนที่หลอก ในอินเตอร์เน็ต ประมาณต้นเดือน พย.54 ตอนแรกคุยปกติ พอต้นเดือน มค.เค้าแอดเฟสบุคผมแล้วส่งรุปคนอื่นที่หน้าตาดีมาให้ผม แล้วจึงใช้อุบายหลอกให้ผมโอนเงินให้ต่างๆนาๆ ว่าป่วยเป็นเนื้องอกในสมอง เรียนคณะสถาปัตย์ จุฬา โดยเรียนไปด้วยทำงานไปด้วย ต้องส่งเงินให้แม่ที่ต่างจังหวัด แม่เป็นโรคหัวใจ พ่อแก่มาก ต้องใช้เงินต่างๆนาๆบอกว่าขอยืม โดยหลอกให้โอนเงินช่วงตลอดทั้งปี55 แต่ผมมารุ้ตัวว่าโดนหลอกประมาณต้นเดือน มีนาคม 56 แล้วได้ไปแจ้งความที่กองปราบปราบเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือ อปท.มาโดยทางพนักกงานสอบสวนรับดำเนินเป็นคดี แล้วสอบปากคำผมไปแล้ว ไม่รุ้ว่าตำรวจจะแจ้งข้อหาเป็นอะไร ความผิดอาญารึเปล่าโดยเป็นคดีเกี่ยวกับเงิน จนถึงวันนี้ก็เกือบ หลายเดือนแล้ว  อย่างนี้ถ้าผมจะไปแจ้งเป็นดดีแพ่งที่ศาลแพ่งได้ด้วยไหมครับ ส่วนตอนนี้ก็รอ ทาง อปท ติดต่อมา อยากทราบด้วยว่าคดีอย่างนี้ใช้ระยะเวลานานไหมครับ ผมกังวลใจมากกลัวว่าจะไม่ได้เงินคืน เงินจำนวน91000 ตอนแรกตำรวจนัดให้มาไกล่เกลี่ย ทางฝ่ายนั้นพาทนายมา ขอชดใช้ 50000 โดย จะผ่อนคืนให้เดือนล่ะ 5000 โดยผมตอบปฎิเศธไป ผมอยากได้เงินครบจำนวนที่โดนหลอกไป แต่เหมือนกับทางตำรวจจะให้ไกล่เกลี่ยซ่ะทีเดียว ถ้าผมจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด มันจะเสี่ยงไหมครับ ถ้าเกิดชน่ะคดีผมคงได้เงินคืนทั้งหมดไหมครับแล้ว ถ้าศาลตัดสินว่าไม่ผิด ผมคงไม่ได้เงินคืนใช่ไหมครับ แน่ะนำให้ด้วยผมลืมบอกอีกอย่างนึงครับว่า ในวันที่ไปสอบปากคำ ผมใช้เวลประมาณ 2ชม. พอสอบปากคำเสร็จ ได้มีตำรวจนายนึงซึงอยุ่โต๊ะข้างๆได้ฟังตอนผมให้ปากคำแล้วเค้าก็พูดกับผมว่า " คดีอย่างนี้ไม่ใช่หลอกขายของ ถ้าหลอกขายของมันเรียกฉ้อโกงได้ แต่รายของน้อง มันเหมือนกับว่าเป้นเงินพิศวาส-ให้โดยสเน่หา ไปให้เค้าเองโดยไม่คิดพิจารณาให้ดีก่อน แล้วอีกอย่างนึงตอนที่มาไกล่เกลี่ยครั้งแรกที่เค้าบอกให้เงินก่อน 5000 ทำไมไม่รับไว้ก่อน น้องไม่ทันเค้า " แล้วก็มีสายตาของตำรวจที่มาสอบปากคำผม ยิ้มแบบเย้ยหยัน สายตาดูถูก เหมือนกับว่าผมโง่ ไม่รู้ว่าใช้จิตวิทยามาหลอกผมรึเปล่า
เลยอยากจะถามต่ออีกว่า
1. ถ้าตอนนั้นผมรับเงิน5000จริงๆแล้วเรื่องมันจะจบยังไงครับ เสียรูปคดีรึเปล่า
2.ผมต้องการจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เพื่อที่จะชน่ะคดี มีคนเคยบอกผมว่า ถ้าไปไกล่เกลี่ยตั้งแต่แรก สุดท้ายจำเลยอาจจะหลุดในคดีจริงไหมครับ
3.ตอนที่ให้ปากคำ ผมได้ลืมให้ข้อความสำคัญ คือ คำที่จำเลยบอกกับผมตอนโทรคุยกันว่า " ถ้าอยากได้เงินคืนให้ไปแจ้งความเอาเอง ไม่รุ้จักศาลแพ่งรึไง ถ้าศาลให้ชดใช้เท่าไรก็ให้เท่านั้น แล้วยังพูดอีกว่าไม่ต้องโทรมาอีก ไม่งั้นจะเปลี่นเบอร์โทร" ผมไม่ได้อัดเสียงไว้ด้วย อยากทราบว่า คำพูดแล้วนี้ถ้าผมไปชี้แจงให้ปากคำอีกครั้งจะมีน้ำหนักเพียงพอ รึิเป้นข้อดี ข้อเสียอย่างไรครับ ขอบคุณล่วงหน้า
4.ถ้าผู้ต้องหาหนีคดี ผมควรจะทำยังไง เป็นผลดีรึผลเสียครับ
5.ถ้ามีการไกล่เกลี่ยครั้งต่อไป ทางตำรวจยังคงยืนยันว่าคงจะไม่ได้เงินครบตามที่ผมต้องการคือ 91000 แต่ผมต้องการตามนี้ ควรทำยังไงต่อไป
6.ถ้าผู้ต้องหาพร้อมจะสู้คดี ผมมีหลักฐานต่างๆมากมายๆซึ่งได้ให้ทาง อปท.ไปมดแล้ว คือ หลักฐานการโอนเงิน/ ข้อความที่ส่งมาหลอกผม / บทสนทนาทางเฟสบุคที่เค้าหลอกผม ข้อมูลหลักฐานเกี่ยวกับเจ้าของรุปตัวจริงที่เค้าเอามาหลอกผม ผมรุ้ทั้งชื่อ จริง นามสกุลจริง แล้วก็ได้คุยกับเพื่อนเค้าทางโทรศัพท์ด้วย ทาง อปท.ก็อยากให้เขามาเป็นพยานให้ในคดีของผม แต่เขาบอกยังไม่ว่าง เลยอยากรุ้ว่า ถ้าผมมีหลักฐาน
แต่พยานไม่ให้ความร่วมมือจะส่งผลต่อรูปคดียังไงครับ
7.ตามที่เล่ามาผมควรสุ้คดีให้ถึงที่สุดรึยอมไกล่เกลี่ยครับ จุดประสงค์ผมต้องการเงินคืนทั้งหมด ถ้าไม่ได้ตามนี้ ผมอยากวัดใจไปครับ คุก /ไม่คุก
8.ผมสามารถเรียกเงินชดเชย ต่างๆได้ไหมครับ ค่าธรรมเนียมการโอนเงินเงินของธนาคาร รววมๆแล้วประมาณ 1000 บาท ค่าสินไหมทดแทน
ช่วยตอบปัญหาให้ผมทีขอบคุณครับ



ผู้ตั้งกระทู้ คนดี :: วันที่ลงประกาศ 2013-06-19 21:02:09


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (2379335)

1. ถ้าตอนนั้นผมรับเงิน 5000 จริงๆแล้วเรื่องมันจะจบยังไงครับ เสียรูปคดีรึเปล่า

ตอบ - ตามข้อเท็จจริงข้างต้นตอนหนึ่งว่าทางฝ่ายนั้นพาทนายมา ขอชดใช้ 50000 บาท สรุปว่า 5,000 บาท ไม่ใช่ 50,000 บาท นะครับ สำหรับคำตอบประเด็นนี้ผมไม่ทราบว่าตำรวจจะตั้งรูปคดีเป็นอะไร คือ ฉ้อโกง หรือ พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. ๒๕๕๐ เพราะตามกฎหมายดังกล่าวเป็นความผิดทั้งต่อส่วนตัว และความผิดต่อแผ่นดนที่สามารถยอมความได้ และยอมความไม่ได้ ในกรณีความผิดอันยอมความได้ ถ้าผู้ต้องหา และผู้เสียหายตกลงกันได้ก็สามารถถอนคำร้องทุกข์ได้ แต่ความผิดต่อแผ่นดินไม่สามารถถอนคำร้องทุกข์ได้ครับ ดังนั้น หากคุณได้ยินยอมรับเงินตั้งแต่ชั้นไกล่เกลี่ย หากคุณยอมถอนแจ้งความคดีก็จบ แต่หากไม่ยอมตำรวจก็ต้องส่งสำนวนให้พนักงานอัยการส่งฟ้องต่อไป แต่ในกรณีนี้ ถ้าไม่จบเขาคงไม่ยอมจ่ายคุณแน่ ๆ เพราะยังไงเสียก็สามารถไปจ่ายกันในชั้นศาลได้อีกครับ

2.ผมต้องการจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เพื่อที่จะชน่ะคดี มีคนเคยบอกผมว่า ถ้าไปไกล่เกลี่ยตั้งแต่แรก สุดท้ายจำเลยอาจจะหลุดในคดีจริงไหมครับ

ตอบ - ถ้าคุณถอนแจ้งความคดีก็จบครับ หากไม่ถอน คดีก็ไปถึงศาล ถ้าเป็นคดี พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ฯ ไม่น่าจะหลุดนะครับ

3.ตอนที่ให้ปากคำ ผมได้ลืมให้ข้อความสำคัญ คือ คำที่จำเลยบอกกับผมตอนโทรคุยกันว่า " ถ้าอยากได้เงินคืนให้ไปแจ้งความเอาเอง ไม่รุ้จักศาลแพ่งรึไง ถ้าศาลให้ชดใช้เท่าไรก็ให้เท่านั้น แล้วยังพูดอีกว่าไม่ต้องโทรมาอีก ไม่งั้นจะเปลี่นเบอร์โทร" ผมไม่ได้อัดเสียงไว้ด้วย อยากทราบว่า คำพูดแล้วนี้ถ้าผมไปชี้แจงให้ปากคำอีกครั้งจะมีน้ำหนักเพียงพอ รึิเป้นข้อดี ข้อเสียอย่างไรครับ ขอบคุณล่วงหน้า

ตอบ -  ไม่มีประโยชน์กับคดีหรอกครับ เป็นความเห็นเกี่ยวกับกฎหมายที่เขาเหน็บคุณอยู่ในตัว

4.ถ้าผู้ต้องหาหนีคดี ผมควรจะทำยังไง เป็นผลดีรึผลเสียครับ

ตอบ - คดีฉ้อโกง มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี มีอายุความ 10 ปี คดีตาม พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ฯ มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี  มีอายุความ 10 ปี เช่นกันครับ หากผู้ต้องหาหนีคดีก็ต้องหนีให้พ้นอายุความครับ

5.ถ้ามีการไกล่เกลี่ยครั้งต่อไป ทางตำรวจยังคงยืนยันว่าคงจะไม่ได้เงินครบตามที่ผมต้องการคือ 91000 แต่ผมต้องการตามนี้ ควรทำยังไงต่อไป  

ตอบ - คงต้องรอคำพิพากษาครับ

6.ถ้าผู้ต้องหาพร้อมจะสู้คดี ผมมีหลักฐานต่างๆมากมายๆซึ่งได้ให้ทาง อปท.ไปมดแล้ว คือ หลักฐานการโอนเงิน/ ข้อความที่ส่งมาหลอกผม / บทสนทนาทางเฟสบุคที่เค้าหลอกผม ข้อมูลหลักฐานเกี่ยวกับเจ้าของรุปตัวจริงที่เค้าเอามาหลอกผม ผมรุ้ทั้งชื่อ จริง นามสกุลจริง แล้วก็ได้คุยกับเพื่อนเค้าทางโทรศัพท์ด้วย ทาง อปท.ก็อยากให้เขามาเป็นพยานให้ในคดีของผม แต่เขาบอกยังไม่ว่าง เลยอยากรุ้ว่า ถ้าผมมีหลักฐาน
แต่พยานไม่ให้ความร่วมมือจะส่งผลต่อรูปคดียังไงครับ

ตอบ - พนักงานสอบสวนมีอำนาจเรียกบุคคลใด ๆ มาให้เป็นพยานได้ ตามประมวลกฏหมายวิธีพิจารณาความอาญา ผู้ใดฝ่าฝืนมีโทษตามกฎหมายครับ

7.ตามที่เล่ามาผมควรสุ้คดีให้ถึงที่สุดรึยอมไกล่เกลี่ยครับ จุดประสงค์ผมต้องการเงินคืนทั้งหมด ถ้าไม่ได้ตามนี้ ผมอยากวัดใจไปครับ คุก /ไม่คุก   

ตอบ - เป็นสิทธิของคุณอยู่แล้วครับ คงต้องตัดสินใจเองครับ

8.ผมสามารถเรียกเงินชดเชย ต่างๆได้ไหมครับ ค่าธรรมเนียมการโอนเงินเงินของธนาคาร รววมๆแล้วประมาณ 1000 บาท ค่าสินไหมทดแทน
ช่วยตอบปัญหาให้ผมทีขอบคุณครับ

ตอบ - คงต้องไปฟ้องเป็นคดีแพ่งครับ พนักงานอัยการเรียกให้ไม่ได้ครับ (ค่าสินไหมทดแทนนอกจากตัวเงินที่จำเลยกระทำความผิดอาญา) เว้นแต่คุณจะตั้งทนายความขอเข้าเป็นโจทก์ร่วมกับพนักงานอัยการครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น admin วันที่ตอบ 2013-06-30 09:06:21


ความคิดเห็นที่ 2 (2380081)

ถ้ามีแต่หลักฐาน เช่นหลักฐานการโอนเงิน     ข้อความ / รูป ทางโทรศัพท์      ข้อความ / รูป ที่คุยในเฟสบุคล่ะครับ
เพียงพอไหม แต่หลักฐานที่มีผมค่อนข้างมั่นใจว่าเอาอยู่ ข้อความโกหกต่างๆนาๆ รูปที่ส่งมาหลอก
อีกอย่างนึงน่ะครับ สมมติอย่างนี้ ............คนที่หลอกชื่อ N...........  คนที่โดนเอารุปมาแอบอ้างชื่อ A.........
N ส่งรูป A มาหลอกผม  แล้วผมได้รุ้ข้อมูลเบื้องต้นของ A ว่าเป็นใคร รวมถึงเฟสบุคของ A ด้วย
รวมถึงเฟสบุคของแฟนA
เพื่อนของ A ผมก็แอดไปแล้วเป็นเพื่อนกับผมทางเฟสบุค ผมมีเบอร์โทรศัพท์เพื่ิอนของA แล้วยังเคยติดต่อคุยกันถึงเรื่องนี้ด้วย.แล้ว ทางตำรวจ อปท.ได้ให้ผมต่อสายไปคุยกับเพื่อน A ซึงทางตำรวจบอกว่าอยากให้มาเป็นพยานให้กับผม เขาอยุ่ต่างจังหวัด
ทางตำรวจบอกขอความร่วมมือ ถ้าไม่มาจะออกหมายเิรียก ซึงทางเพื่อน A ให้ผมไปคุยกับทางแฟนA เอง ซึงส่งข้อความ
คุยในเฟสบุค ทางแฟนA บอกว่า เข้าใจผม แต่ยังไม่ว่าง ถ้าว่างจะติดต่อมา ....เลยอยากทราบว่า
................ถ้ามีหลักฐาน(ส่วนตัวมั่นใจว่าแน่นหนาพอ)แต่ไม่มีพยาน รึมีตัวตนจริงแต่เขาไม่สนใจในคดีเหมือนไม่อยากจะยุ่งวุ่นวายด้วย จะส่งผลกับรูปคดียังไงบ้างครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น คนดี วันที่ตอบ 2013-07-01 23:39:29


ความคิดเห็นที่ 3 (2380082)

ผมได้ไปให้ปากคำเกี่ยวกับคดี ที่โดนผู้หญิงคนนึงหลอกให้โอนเงินโดยผู้หญิงคนนั้นใช้รูปคนอื่นมาหลอกว่า เป็นตัวเค้า ผมจึงไปแจ้งความดำเนินคดี ที่ ปอท. แล้วทางตำรวจ ได้สอบปากคำผม
มีประโยคหนึ่งซึ่ง ผมกลับมาคิดว่ามันจะทำร้ายตัวผมเองรึเปล่า คือ
ตำรวจที่สอบปากคำถามว่า     " คำพูดที่ผู้หญิงคนนั้นได้บอกกับคุณตอนที่ไปเจอตัวจริง เค้าพูดกับคุณว่ายังไง"
ผมตอบไปว่า                          " เค้าพูดว่า  ไม่ได้หลอก เงินจะคืนให้"
ผมจึงอยากทราบว่า  จากคำพูดที่ผมให้ปากคำไป มันจะทำให้ผมได้เปรียบ รึ เสียเปรีย

ผู้แสดงความคิดเห็น คนดี วันที่ตอบ 2013-07-01 23:41:27


ความคิดเห็นที่ 4 (2380571)

อยากทราบว่า..ถ้ามีหลักฐาน(ส่วนตัวมั่นใจว่าแน่นหนาพอ)แต่ไม่มีพยาน รึมีตัวตนจริงแต่เขาไม่สนใจในคดีเหมือนไม่อยากจะยุ่งวุ่นวายด้วย จะส่งผลกับรูปคดียังไงบ้างครับ

ตอบ - คงต้องดูว่า พยานปากนั้นเป็นพยานปากสำคัญกับคดีมากน้อยเพียงใด หากสำคัญแล้วไม่ยอมมาเบิกความก็มีผลต่อคดีครับ พนักงานสอบสวนหรือ พนักงานอัยการจะดำเนินการขอหมายเรียกพยานปากนี้มาสอบสวนหรือมาเบิกความเองครับ

ผมจึงอยากทราบว่า  จากคำพูดที่ผมให้ปากคำไป มันจะทำให้ผมได้เปรียบ รึ เสียเปรีย

ตอบ - คำพูดดังกล่าวไม่ผลต่อคดีอาญาครับ แต่น่าจะเป็นผลบวกต่อเราด้วยซ้ำ เพราะเธอยืนยันว่ามีการรับเงินไปจริงแต่จะเป็นฉ้อโกง หรือให้โดยเสน่หานั้นอยู่ที่ดุลพินิจของศาลครับ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น admin วันที่ตอบ 2013-07-02 18:17:32



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล