ปรึกษา ทนายความ - ค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตร | |
ขอปรึกษาเรื่องค่าเลี้ยงดูบุตรเพื่อเป็นแนวทางครับ คือผมอยู่กินกับภรรยามาประมาณ 5 ปี (ไม่ได้จดทะเบียนสมรส)ภรรยาผมไม่ได้ทำงาน และตอนนี้มีบุตรสาวด้วยกัน อายุ 3 ขวบ 1คน และภายใน5 ปี ก็ไปกลับ บ้านที่ต่างจังหวัดเสมอ ปีนึง 2-3ครั้งครั้งละ 1-2เดือนจนในที่สุดก็แยกกันอยู่ มา2 ปี ภรรยาผมเอาลูกกลับไปอยู่ที่ต่างจังหวัด แต่ผมก็ยังส่งเงินไปให้ลูกใช้ ตลอดตั้งแต่แยกกัน จนตอนนี้ลูกสาวอายุพอที่จะเข้าเรียน ผมเลยอยากขอให้มาเรียน ที่ที่ผมอยู่ เพราะเห็นแก่อนาคตเด็ก ทางแม่เด็กก็รับปาก แต่พอเอาเข้าจริงก็ไม่ยอมและอ้างว่าอายุยังไม่ถึงบ้าง และบอกว่าจะเลี้ยงเองโดยจะมาทำงานที่ต่างจังหวัดและ จะให้อยู่กับตากับยายซึง ผมจึงอยากรบกวนปรึกษาข้อสงสัยเป็นข้อๆ 1.ผมมีสิทธ์ฟ้องขออุปการะลูก จะได้ไหม?เพราะผมอ่านตามข้อกฏหมายแม่เท่านั้นที่มีสิทธิอุปการะลูก 2 . เนื่องจากค่าเลี้ยงดูลูกที่ผมส่งให้ จะทำอย่างไรลูกถึงจะได้รับค่าเลี้ยงดูอย่างเต็มที่(เพราะเท่าที่รู้มา แม่,และยาย ของเด็ก อาจจะใช้ด้วย ผมเกรงว่าลูกผมจะไม่ได้รับเต็มตามที่ส่งให้) 3. ถ้าเด็กไม่ได้อยูกับแม่(อยู่กับยาย)ผมสามารถใช้ เหตุผมข้อนี้อ้างขออุปการะบุตรได้ไหมครับ? | |
ผู้ตั้งกระทู้ อยากได้ลูก :: วันที่ลงประกาศ 2013-01-10 13:23:17 |
[1] |
ความคิดเห็นที่ 1 (2326357) | |
1.ผมมีสิทธ์ฟ้องขออุปการะลูก จะได้ไหม?เพราะผมอ่านตามข้อกฏหมายแม่เท่านั้นที่มีสิทธิอุปการะลูก ตอบ - เมื่อไม่ได้จดทะเบียนสมรส ย่อมเป็นบิดานอกกฎหมาย การจะเป็นบิดาชอบด้วยกฎหมายมี 3 กรณีคือ 1. บิดาและมารดาจดทะเบียนสมรสกัน 2. จดทะเบียนรับรองบุตร 3. ให้ศาลมีคำสั่ง มาตรา 1547 เด็กเกิดจากบิดามารดาที่มิได้สมรสกัน จะเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายต่อเมื่อบิดามารดาได้สมรสกันในภายหลังหรือบิดาได้จดทะเบียนว่าเป็นบุตรหรือศาลพิพากษาว่าเป็นบุตร ตามข้อเท็จจริงที่ให้มานั้น เมื่อเด็กอายุเพียง 3 ปีจึงไม่อาจให้ความยินยอมได้จึงไม่อาจจดทะเบียนรับรองบุตรได้ จึงมีทางเลือกเพียงข้อ 3 คือให้ศาลมีคำสั่ง เมื่อศาลมีคำสั่งแล้วก็ค่อยคิดขั้นต่อไปคือขออุปการะเลี้ยงดูบุตรเองซึ่งคงต้องอยู่ที่ดุลพินิจของศาลว่า ฝ่ายบิดา หรือฝ่ายมารดา มีความเหมาะสมที่จะดูแลบุตร 2 . เนื่องจากค่าเลี้ยงดูลูกที่ผมส่งให้ จะทำอย่างไรลูกถึงจะได้รับค่าเลี้ยงดูอย่างเต็มที่(เพราะเท่าที่รู้มา แม่,และยาย ของเด็ก อาจจะใช้ด้วย ผมเกรงว่าลูกผมจะไม่ได้รับเต็มตามที่ส่งให้) ตอบ - ลูกยังเล็กใช้เงินเองไม่เป็น ดังนั้นจึงต้องพิจารณาว่า ค่าใช้จ่ายต่อเดือนของบุตรควรจะเป็นเท่าใด แล้วคุณส่งเงินไปเท่าใด คิดว่ามากเกินไปหรือไม่ หากเห็นว่าลูกต้องมีค่าใช้จ่ายไม่น้อยกว่าเงินที่คุณส่งไปอย่าคิดมากเลยครับ 3. ถ้าเด็กไม่ได้อยูกับแม่(อยู่กับยาย)ผมสามารถใช้ เหตุผมข้อนี้อ้างขออุปการะบุตรได้ไหมครับ? ตอบ - ในกรณีที่คุณเป็นบิดาชอบด้วยกฎหมายตามข้อ 1 แล้ว และจะอ้างว่ามารดาไม่มีเวลาดูบุตรด้วยตนเองก็ได้ แต่เหตุผลดังกล่าวเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอที่ศาลจะเห็นว่าคุณเหมาะสมที่จะดูแลบุตร เพราะบุตรอยู่กับมารดาตลอดมาย่อมมีความคุ้นเคยกับคนใกล้ชิด และอาจไม่คุ้นเคยกับบิดาก็ได้ แต่อย่างไรก็ตาม แม้คุณจะเลิกกันแล้ว ศาลก็อาจให้คุณร่วมกันดูแลและอาจกำหนดวิธีการ เช่นกำหนดให้อยู่ช่วงปิดภาคเรียนกับบิดา หรือมารดาก็ได้ เป็นคำถามตอบยากครับ เป็นดุลพินิจของศาลและพฤติการณ์แต่ละครอบครัวซึ่งข้อเท็จจริงที่ให้มาไม่อาจฟันธงได้
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น ทนายความ ลีนนท์ พงษ์ศิริสุวรรณ 0859604258 วันที่ตอบ 2013-01-10 20:01:49 |
ความคิดเห็นที่ 2 (2393042) | |
คือดิฉันกับเขาไม่ได้แต่งงานกันและไม่ได้จดทะเบียน อยู่กินกันมามีลูก 1 คน ตอนคลอดลูกในสูติบัตรเขารับรองเป็นพ่อของเด็ก และในสำเนาทะเบียนบ้านเด็กก็มี ชื่อเขาเป็นพ่อ แต่พอคลอดเสร็จเขาก็ไม่เคยมาดูแล มีการตีตัวออกห่าง ไม่รับโทรศัพท์ ไม่โทรหา และไม่เคยสนใจไยดีดิฉันกับลูกเลย เงินทองดิฉันก็ไม่พอใช้ ไหนจะค่านมลูก ดิฉันจะเรียกร้องให้เขาจ่ายค่าเลี้ยงดูได้ไม๊ ยังไงบ้างคะ ต้องการสอบถามดังนี้ กรณีเด็กเกิดจากหญิงที่มิได้มีการสมรสกับชาย ให้ถือว่าเป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายของหญิงนั้น อำนาจปกครองบุตรย่อมตกเป็นของมารดา ตามมาตรา 1564 1.บิดามารดาได้จดทะเบียนสมรสกันภายในหลังที่เด็กเกิดมาแล้ว เมื่อบิดาเป็นบิดาชอบด้วยกฎหมายและบุตรก็เป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายของบิดาแล้ว สิทธิในการเรียกค่าอุปการะเลี้ยงดูจึงจะเกิดขึ้น โดยการฟ้องคดีขอให้รับเด็กเป็นบุตรนั้น(ชาวบ้านเรียกว่าฟ้องให้รับรองบุตร) ตัวเด็กเป็นคนฟ้องบิดาหรือผู้แทนโดยชอบธรรมของเด็กเป็นผู้ฟ้องบิดาเด็ก เพื่อให้ศาลมีคำสั่งว่าบิดานอกกฎหมายนั้นนั้นเป็นบิดาโดยชอบด้วยกฎหมายแต่ในการฟ้องคดีจะต้องมีพฤติการณ์หรือข้อเท็จจริงอย่างใดอย่างหนึ่งตามที่กฎหมายกำหนดในมาตรา 1555 คือ (1) เมื่อมีการข่มขืนกระทำชำเรา ฉุดคร่า หรือหน่วงเหนี่ยวกักขังหญิงมารดาโดยมิชอบด้วยกฎหมายในระยะเวลาซึ่งหญิงนั้นอาจตั้งครรภ์ได้ ส่วนในกรณีของค่าอุปการะเลี้ยงดูระหว่างบิดามารดากับบุตรนั้น ย่อมเรียกจากกันได้เมื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่รับอุปการะเลี้ยงดูหรืออุปการะเลี้ยงดูไม่เพียงพอแก่อัตภาพ ค่าอุปการะเลี้ยงดูนี้ศาลอาจให้เพียงใดหรือไม่ให้ก็ได้โดยพิจารณาจากความสามารถของผู้ให้และฐานะของผู้รับแล้วแต่กรณี ตามมาตรา 1598/38 กรณีเช่นนี้เป็นการฟ้องคดีแพ่งที่เป็นการฟ้องหรือร้องขอต่อศาลหรือกระทำการใด ๆ ในทางศาลเกี่ยวกับผู้เยาว์หรือครอบครัว อันเป็นคดีครอบครัวที่อยู่ในอำนาจของศาลเยาวชนและครอบครัว ซึ่งในเขตกรุงเทพมหานคร ยื่นที่ ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง และในกรณีเขตต่างจังหวัด ยื่นที่ ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดหรือศาลจังหวัดแผนกคดีเยาวชนและครอบครัวในจังหวัดนั้น หากจังหวัดใดไม่มีศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัด หรือ ศาลจังหวัดแผนกคดีเยาวชนและครอบครัวตั้งอยู่ให้ยื่นต่อศาลจังหวัด
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น ทนายความ ลีนนท์ พงษ์ศิริสุวรรณ วันที่ตอบ 2013-07-28 19:43:16 |
[1] |