ไฟไหม้บ้าน | |
สวัสดีครับ อาจารย์ คือว่าบ้านที่ผมอยู่ถูกไฟไหม้ บ้านผมเป็นตึก แถวสามชั้น บ้านต้นเพลิงอยู่ห้องแรก เจ้าของให้คนอื่นมาเช่าร้านทำผม แล้วมีปัญหาทะเลาะกลับผู้เช่า เขาเลยย้ายบ้านหนีตอนกลางคืน เสร็จแล้วเอานำมันเบ็นซินราดแล้วจุดไฟเผา ไฟลามมาที่บ้านของผมกับบ้านข้างๆอีกสองห้อง ไม่ทราบว่าผมจะฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากเจ้าของบ้านได้ไมหมครับ เพราะตอนนี้เจ้าของบ้านเอาแต่นิ่เงียบไม่ทำอะไรเลย | |
ผู้ตั้งกระทู้ ธีรยุทย :: วันที่ลงประกาศ 2012-09-16 19:37:06 |
[1] |
ความคิดเห็นที่ 1 (2306973) | |
การจะฟ้องให้เขาต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนได้ก็ต้องได้ข้อยุติว่าเขาเป็นผู้กระทำละเมิดครับ ดังนั้นคงต้องติดตามความคืบหน้าจากเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าเหตุเกิดเพลิงไหมจากผู้ใด ถ้าเป็นเพราะผู้เช่าก็ต้องหาตัวผู้ที่วางเพลิงและต้องฟ้องผู้กระทำความผิดครับเพราะเจ้าของบ้านก็ถูกไฟไหม้บ้านเสียหายเหมือนกันครับ มาตรา 420 ผู้ใดจงใจหรือประมาทเลินเล่อ ทำต่อบุคคลอื่นโดยผิดกฎหมายให้เขาเสียหายถึงแก่ชีวิตก็ดี แก่ร่างกายก็ดี อนามัยก็ดี เสรีภาพก็ดี ทรัพย์สินหรือสิทธิอย่างหนึ่งอย่างใดก็ดี ท่านว่าผู้นั้นทำละเมิดจำต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อการนั้น | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ทนายลีนนท์0859604258 วันที่ตอบ 2012-10-10 21:33:22 |
ความคิดเห็นที่ 2 (2307157) | |
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6159/2551 เหตุเกิดเพลิงไหม้โรงงานมาตรฐานของโจทก์ เมื่อจำเลยเป็นผู้ครอบครองไฟฟ้าซึ่งเป็นทรัพย์อันเป็นของเกิดอันตรายได้โดยสภาพ การที่จำเลยไม่ดูแลให้ดีทำให้เกิดไฟไหม้ขึ้น จำเลยจึงต้องรับผิด เว้นแต่ว่าจำเลยจะพิสูจน์ได้ว่าการเสียหายนั้นเกิดแต่เหตุสุดวิสัย เมื่อมิใช่เหตุสุดวิสัยและมิได้เกิดเพราะความผิดของโจทก์ซึ่งเป็นผู้เสียหาย จำเลยจึงปฏิเสธความรับผิดหาได้ไม่ มาตรา 193/30 อายุความนั้น ถ้าประมวลกฎหมายนี้หรือกฎหมายอื่นมิได้บัญญัติไว้โดยเฉพาะ ให้มีกำหนดสิบปี มาตรา 437 บุคคลใดครอบครองหรือควบคุมดูแลยานพาหนะอย่างใดๆ อันเดินด้วยกำลังเครื่องจักรกล บุคคลนั้นจะต้องรับผิดชอบเพื่อการเสียหายอันเกิดแต่ยานพาหนะนั้น เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่าการเสียหายนั้นเกิดแต่เหตุสุดวิสัย หรือเกิดเพราะความผิดของผู้ต้องเสียหายนั้นเอง มาตรา 553 ผู้เช่าจำต้องสงวนทรัพย์สินที่เช่านั้นเสมอกับที่วิญญูชนจะพึงสงวนทรัพย์สินของตนเอง และต้องบำรุงรักษาทั้งทำการซ่อมแซมเล็กน้อยด้วย มาตรา 563 คดีอันผู้ให้เช่าจะฟ้องผู้เช่าเกี่ยวแก่สัญญาเช่านั้นท่านห้ามมิให้ฟ้องเมื่อพ้นกำหนดหกเดือนนับแต่วันส่งคืนทรัพย์สินที่เช่า มาตรา 567 ถ้าทรัพย์สินซึ่งให้เช่าสูญหายไปทั้งหมดไซร้ ท่านว่าสัญญาเช่าก็ย่อมระงับไปด้วย โจทก์ฎีกา มีประเด็นต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่า คดีโจทก์ขาดอายุความหรือไม่ในเบื้องต้นต้องวินิจฉัยก่อนว่า โรงงานมาตรฐานของโจทก์ทั้งสองหลังได้รับความเสียหายเพียงใด โจทก์มีนายอำพล และนายอัมพร เบิกความว่าโรงงานมาตรฐานทั้งสองหลังของโจทก์ได้รับความเสียหายโดยสิ้นเชิง เห็นว่า คำเบิกความของพยานโจทก์ทั้งสองปากสอดคล้องกับภาพถ่าย ข้อเท็จจริงจึงรับฟังได้ว่าโรงงานมาตรฐานทั้งสองหลังของโจทก์ได้รับความเสียหายโดยสิ้นเชิง ไม่สามารถใช้งานได้อีกต่อไป ซึ่งจำเลยเองก็ยอมรับว่าได้ย้ายที่ทำการไปอยู่แห่งใหม่แล้ว เมื่อทรัพย์ที่เช่าคือโรงงานมาตรฐานทั้งสองหลังได้รับความเสียหายทั้งหลัง สัญญาเช่าระหว่างโจทก์กับจำเลยจึงเป็นอันสิ้นสุดลงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 567 เมื่อทรัพย์เช่าสูญหายหรือเสียหายไปโดยสิ้นเชิง จึงไม่สามารถที่จะส่งคืนทรัพย์สินที่เช่าได้ ดังนั้น คดีโจทก์จึงไม่อยู่ในบังคับที่จะต้องฟ้องจำเลยภายใน 6 เดือน นับแต่วันส่งคืนทรัพย์สินที่เช่าตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 563 ตามคำฟ้องโจทก์ได้บรรยายถึงการกระทำของจำเลยว่า กระทำละเมิดเป็นเหตุให้โรงงานมาตรฐานทั้งสองหลังของโจทก์ได้รับความเสียหายถูกเพลิงไหม้ ดังนั้น โจทก์จะต้องฟ้องผู้จะพึงต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนภายใน 1 ปี นับแต่วันที่โจทก์รู้ถึงการละเมิดและรู้ตัวผู้จะพึงใช้ค่าสินไหมทดแทน ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า คณะกรรมการสอบสวนหาตัวผู้รับผิดในทางแพ่งที่โจทก์ได้แต่งตั้งขึ้นได้ทำรายงานผลการสอบสวนหาตัวผู้รับผิดในทางแพ่งแจ้งแก่ผู้ว่าการของโจทก์ระบุว่าไม่ปรากฏว่ามีผู้ใดเกี่ยวข้องในทางที่ทำให้เกิดเพลิงไหม้และจะต้องรับผิดในทางแพ่ง แต่เห็นว่าจำเลยผู้เช่าเป็นผู้ผิดสัญญาโดยทำให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินที่เช่า จำเลยจึงต้องชดใช้ค่าเสียหายซึ่งโจทก์ได้บรรยายฟ้องไว้ด้วยว่า จำเลยมีหน้าที่ตามสัญญาเช่าจะต้องส่งมอบโรงงานมาตรฐานที่เช่าจากโจทก์คืนในสภาพเรียบร้อย เมื่อคืนไม่ได้แล้วต้องชดใช้ค่าเสียหายซึ่งกรณีดังกล่าวไม่มีบทบัญญัติเรื่องอายุความไว้โดยเฉพาะ จึงต้องใช้อายุความทั่วไป 10 ปี โจทก์ยื่นฟ้องคดีเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2541 จึงยังไม่ขาดอายุความ ฎีกาของโจทก์ฟังขึ้น เนื่องจากศาลชั้นต้นได้สืบพยานคู่ความมาเสร็จเรียบร้อยแล้ว ศาลฎีกาจึงเห็นสมควรวินิจฉัยคดีไปโดยไม่ย้อนสำนวน มีข้อวินิจฉัยต่อไปว่า จำเลยจะต้องรับผิดต่อโจทก์หรือไม่ เพียงใด โจทก์มีร้อยตำรวจเอกกิตติ ซึ่งรับราชการอยู่กองพิสูจน์หลักฐานเบิกความว่า เหตุที่เกิดไฟไหม้โรงงานมาตรฐานของโจทก์หลังที่ 2 สืบเนื่องจากการหลอมละลายของขั้วหลอดไฟหรือการสปาร์ค สาเหตุมาจากการใส่ขั้วของหลอดดังกล่าวไม่แน่นหรือเกิดจากการใช้งานเป็นเวลานานทำให้พลาสติกที่ขั้วหลอดนั้นหลอมละลายเมื่อตกลงมาถูกวัสดุหรือกล่องกระดาษก็จะเกิดไฟลุกไหม้ และพันตำรวจตรีประสิทธิ์ รับราชการที่กองพิสูจน์หลักฐานเบิกความว่า เหตุที่เกิดเพลิงไหม้โรงงานมาตรฐานหลังที่ 1 ของโจทก์เกิดจากความร้อนสะสมที่ตัวมอเตอร์พัดลมจากการเปิดพัดลมไว้นาน ๆ หรือความชำรุดโดยสภาพของพัดลม เมื่อมีความร้อนมากๆ ทำให้ทรัพย์สินบริเวณใกล้เคียงเกิดไฟลุกไหม้ขึ้น เห็นว่า พยานโจทก์ทั้งสองปากเป็นผู้เชี่ยวชาญในการตรวจพิสูจน์หลักฐานด้านการเกิดเพลิงไหม้ ซึ่งได้เบิกความประกอบรายงานการตรวจพิสูจน์ ส่วนจำเลยไม่ได้นำสืบหักล้าง ข้อเท็จจริงจึงรับฟังได้ว่า เหตุเกิดเพลิงไหม้เป็นไปดังที่พยานโจทก์ทั้งสองปากเบิกความ เมื่อจำเลยเป็นครอบครองไฟฟ้าซึ่งเป็นทรัพย์อันเป็นของเกิดอันตรายได้โดยสภาพ การที่จำเลยไม่ดูแลให้ดีทำให้เกิดไฟไหม้ขึ้น จำเลยจึงต้องรับผิด เว้นแต่ว่าจำเลยจะพิสูจน์ได้ว่าการเสียหายนั้นเกิดแต่เหตุสุดวิสัย ซึ่งเหตุดังกล่าวมิใช่เหตุสุดวิสัยมิได้เกิดเพราะความผิดของโจทก์ซึ่งเป็นผู้เสียหาย จำเลยจึงปฏิเสธความรับผิดหาได้ไม่ มีข้อวินิจฉัยต่อไปว่า โจทก์ได้รับความเสียหายเพียงใด โจทก์มีนางราตรีหัวหน้างานบัญชีบริหารซึ่งเคยดำรงตำแหน่งหัวหน้างานรักษาการบัญชีทรัพย์สินได้ตีราคาอาคารโรงงานมาตรฐานของโจทก์โดยอาศัยรายงานทรัพย์สิน ปี 2535 และ 2536 ของสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินโดยหักราคาซากและหักค่าเสื่อมราคาของแต่ละปีตามกฎกระทรวงการคลังแล้ว โจทก์ได้รับความเสียหาย 3,165,038.02 บาท ตามรายละเอียดการคำนวณมูลค่าโรงงานมาตรฐาน แต่เนื่องจากหลังจากไฟไหม้แล้วยังมีวัสดุที่ยังสามารถใช้ประโยชน์ได้คือโครงสร้างซึ่งเป็นเหล็ก ซึ่งเดิมโจทก์ได้ประเมินราคาซากไว้ 410,549.02 บาท แต่ภายหลังกล่าวอ้างว่าไม่มีมูลค่า เมื่อพิจารณาแล้วเห็นว่า โครงสร้างเหล็กดังกล่าวสามารถนำไปขายได้ราคา จึงเห็นควรกำหนดราคาซากเท่ากับที่โจทก์เคยตีราคาไว้ เมื่อหักจากเงินประกันที่จำเลยมอบไว้แก่โจทก์แล้ว จำเลยจึงต้องรับผิดเป็นเงิน 2,154,279 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันที่สัญญาเช่าเลิกต่อกัน แต่โจทก์ขอนับแต่วันที่ 9 มกราคม 2540 ซึ่งเป็นระยะเวลาภายหลัง จึงเห็นควรกำหนดให้ตามขอ” พิพากษากลับ ให้จำเลยชำระเงิน 2,154,279 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันที่ 9 มกราคม 2540 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ กับให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสามศาลแทนโจทก์ โดยกำหนดค่าทนายความรวม 20,000 บาท | |
ผู้แสดงความคิดเห็น * วันที่ตอบ 2012-10-11 15:52:39 |
ความคิดเห็นที่ 3 (2307158) | |
จำเลยที่ 1 และที่ 3 ให้การทำนองเดียวกันว่า จำเลยที่ 2และที่ 3 ไม่มีหน้าที่ดังที่โจทก์ทั้งสามกล่าวอ้าง จำเลยที่ 2 มีหน้าที่เกี่ยวกับการควบคุมบังคับบัญชาพนักงานของฝ่ายจำหน่ายที่ประจำอยู่เขตบางกะปิ เกี่ยวกับการรับคำขอใช้ไฟฟ้า การสำรวจสถานที่ใช้ไฟฟ้าและการติดตั้งไฟฟ้า มิได้มีหน้าที่ควบคุมรับผิดชอบพนักงานฝ่ายอื่นที่ประจำอยู่เขตบางกะปิ เพราะแต่ละฝ่ายมีหัวหน้าเขตประจำรับผิดชอบอยู่ และในวันเกิดเหตุเพลิงไหม้ตามฟ้อง จำเลยที่ 2ก็มิได้มาปฏิบัติงานแต่อย่างใด สำหรับจำเลยที่ 3 ดำรงตำแหน่งช่างเทคนิคสายอากาศ 5 หมวดประมาณการ เขตจำหน่ายบางกะปิ ฝ่ายจำหน่าย มีหน้าที่ทำการประมาณราคาค่าใช้จ่ายรวมทั้งออกสำรวจและทำแผนที่สถานที่ของผู้ขอใช้ไฟฟ้ากับคำนวณการใช้กระแสไฟฟ้า เมื่อวันที่6 กุมภาพันธ์ 2526 จำเลยที่ 3 ได้รับแต่งตั้งเป็นหัวหน้าเวรแก้ไฟฟ้าขัดข้อง จึงได้มาปฏิบัติงานร่วมกับพนักงานอื่น ๆ อีก 13 คน และได้เกิดเพลิงไหม้ขึ้นที่อาคารเก็บเครื่องมือและวัสดุจริง แต่อยู่คนละอาคารกับที่จำเลยที่ 3 ปฏิบัติงาน เพลิงเกิดลุกไหม้โดยไม่ทราบว่าเกิดจากสาเหตุใด จำเลยที่ 2 และที่ 3 มิได้เป็นผู้ก่อหรือประมาททำให้เกิดเพลิงไหม้ จึงมิต้องรับผิด จำเลยที่ 1 ในฐานะนายจ้างของจำเลยที่ 2 และที่ 3 จึงมิต้องรับผิดด้วยโจทก์ทั้งสามเสียหายไม่เกิน30,000 - 50,000 บาท จำเลยที่ 2 ขาดนัดยื่นคำให้การ และขาดนัดพิจารณา โจทก์ทั้งสามฎีกา พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยที่ 1 ชดใช้ค่าเสียหายให้โจทก์ทั้งสามเป็นเงิน 206,650 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีในต้นเงินดังกล่าวนับแต่วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2526จนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ กับให้จำเลยที่ 1 ใช้ค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสามศาลแทนโจทก์ทั้งสาม โดยกำหนดค่าทนายความรวม 10,000 บาทค่าฤชาธรรมเนียมระหว่างโจทก์ทั้งสามกับจำเลยที่ 2 และที่ 3ในชั้นฎีกาให้เป็นพับ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์. | |
ผู้แสดงความคิดเห็น * วันที่ตอบ 2012-10-11 15:56:45 |
[1] |