เมื่อนาย ค. ไม่ได้ลงหุ้นต่อก็ควรที่จะแบ่งกำไรกันให้เสร็จสิ้นก่อนที่จะมีการเปลี่ยนแปลงหุ้นส่วนกันใหม่ มิฉะนั้นจะเกิดความยุ่งยากในทางบัญชี

วิธีการแบ่งก็เป็นไปตามสัดส่วนของจำนวนเงินทุนที่แต่ละหุ้นส่วนมีส่วนในทุนนั้นไป

บทความที่เกี่ยวข้อง

1) หลักเกณฑ์การแบ่งกำไรให้ผู้เป็นหุ้นส่วนจำกัด

ตามประมวลกฏหมายแพ่งและพาณิชย์ ไม่ได้มีบัญญัติไว้ ก็ต้องอนุโลมหลักเกณฑ์การแบ่งกำไรในห้างหุ้นส่วนสามัญตามมาตรา 1044 และ 1045 มาใช้ โดยอาศัยมาตรา 1080 วรรค 1 ที่ว่า

" บทบัญญัติว่าด้วยห้างหุ้นส่วนสามัญขัอใดๆ หากมิได้ยกเว้นหรือแก้ไขเปลี่ยนแปลงไปโดยบทบัญญัติแห่งหมวด 3 นี้ ท่านให้นำมาใช้บังคับแก่ห้างหุ้นส่วนจำกัดด้วย "

คือหมายความว่า หุ้นส่วนประเภทจำกัดความรับผิดและหุ้นส่วนประเภทไม่จำกัดความรับผิดในห้างหุ้นส่วนจำกัด จะได้รับแบ่งกำไรเท่าไร ก็เป็นไปตามอัตราส่วนคือ ลงทุนมากก็จะได้กำไรมาก ลงทุนน้อยก็จะได้กำไรน้อยตามส่วน แต่ถ้าผู้เป็นหุ้นส่วนตกลงกันไว้เป็นอย่างอื่น ให้หุ้นส่วนแต่ละคนได้ส่วนกำไรเท่ากันหมดทุกคน หรือให้คนลงทุนน้อยได้กำไรมากกว่าคนลงทุนมาก ก็ต้องเป็นไปตามข้อตกลงนั้น

2) หลักเกณฑ์ในการแบ่งกำไร แยกเป็น 2 กรณีคือ
2.1 การแบ่งกำไรโดยบทบัญญัติของกฏหมาย
2.2 การแบ่งกำไรโดยอาศัยข้อตกลงของผู้เป็นหุ้นส่วน

3) การแบ่งกำไรโดยบทบัญญัติของกฏหมาย

เรื่องนี้มีหลักเกณฑ์ใน ป.พ.พ. มาตรา 1044 ที่ว่า

" อันส่วนกำไรก็ดี ส่วนขาดทุนก็ดี ของผู้เป็นหุ้นส่วนทุกๆ คนนั้น ย่อมเป็นไปตามส่วนที่ลงหุ้น "

หมายความว่า หุ้นส่วนทุกคนในห้าง จะมีสิทธิได้กำไรมากน้อยเท่าใดแล้วแต่ว่าตนจะลงทุนเท่าใด คือ ลงทุนมากก็มีสิทธิ์ได้กำไรมาก ลงทุนน้อยก็จะมีสิทธิ์ได้กำไรน้อยตามอัตราส่วนนั่นเอง

4) การแบ่งกำไรโดยอาศัยจข้อตกลงของผู้เป็นหุ้นส่วน

คือผู้เป็นหุ้นส่วนอาจจะตกลงกันว่าให้หุ้นส่วนคนที่ลงทุนมาก แต่มีส่วนได้กำไรน้อยกว่าหุ้นส่วนที่ลงทุนน้อยก็ได้ หรืออาจจะตกลงกันว่าหุ้นส่วนทุกคนไม่ว่าจะลงทุนมากน้อยกว่ากันเท่าไร ก็จะได้รับแบ่งกำไรคนละเท่าๆ กัน ก็เป็นไปตามข้อตกลงนั้น

http://www.avaccount.com/wb/account_update1232.htm