ReadyPlanet.com


โดนยึดโฉนดทำไงดีคะ


คือว่าเมื่อวานตอนช่วงเช้าได้รับจดหมายจากสหกรณ์ออมทรัพย์ครูแจ้งมาว่าโฉนดที่ดินที่พ่อเอาไปค้ำประกันเงินกู้ไว้ โดนหมายบังคับคดีของศาลในคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 529/2542 ยึดไป ทำให้หลักประกันเงินกู้บกพร่อง ทางสหกรณ์ขอให้เราเอาหลักทรัพย์อื่นไปค้ำประกันภายใน 30 วัน ไม่งั้นจะเรียกเก็บเงินเงินต้นและดอกเบี้ยทั้งหมด ซึ่งตอนนี้ร้อนใจมากเลยค่ะเพราะโฉนดที่ดินที่จะไปค้ำประกันมีบ้านที่เราพักอาศัยอยู่ด้วยและเรามีแค่อันนี้เพียงอันเดียว


เหตุที่โดนแจ้งยึดทรัพย์เพราะพ่อเคยไปซื้อบ้านอีกหลังไว้ แล้วต่อมาขาดส่งเลยไปทำเรื่องประนอมหนี้กับทางแบงค์ ภายหลังขาดส่งอีกพ่อเลยปล่อยให้เค้ายึดบ้านขายทอดตลาดไป หลังจากขายทอดตลาดไปแล้วเรื่องก็เงียบหายไปทางแบงค์ก็ไม่ได้ติดต่ออะไรกับทางเราเลย จนผ่านไปเกือบ 10 ปี จึงได้มีการยึดโฉนดเราโดยสำนักงานบังคับคดี

ดิฉันได้ติดต่อไปทางแบงค์เพื่อขอทราบยอดหนี้ที่ต้องชำระ ทางแบงค์แจ้งมาว่ามียอดทั้งหมด 1,280,200.- และให้เราเข้าไปคุยที่แบงค์


จากนั้นดิฉันก็ติดต่อไปสำนักงานบังคับคดีเพื่อขอทราบรายละเอียดว่าจะต้องทำยังไงถึงจะให้เรื่องมันยุติ ทางเจ้าหน้าที่เค้าบอกให้เอาเงินไปจ่าย 90,000.- ภายในอาทิตย์หน้าแล้วจะนัดทางแบงค์มาไกล่เกลี่ย แล้วแจ้งยอดหนี้ว่ารวมทั้งดอกเบี้ยเป็นเงิน 2,450,000 กว่าบาท ซึ่งดิฉันงงมากเพราะยอดมันไม่ตรงกับที่โทรไปสอบถามกับทางแบงค์ แต่ก็ไม่ได้บอกกับเจ้าหน้าที่เค้าไปนะคะว่าที่โทรไปถามที่แบงค์มันคนละยอดกัน

ต่อมาตอนบ่าย 3 โมงครึ่งก็ได้รับหนังสือของสำนักงานบังคับคดีว่าเจ้าพนักงานได้ทำการยึดโฉนดเอาไว้แล้ว ตามหมายบังคับคดีของศาล และได้ประเมิณราคาไว้ทั้งสิ้น 3,198,000 บาท พร้อมทั้งแนบเอกสารเกี่ยวกับคดีหมายเลขแดง 529/2542 มาด้วย ดิฉันดูแล้วมันเป็นสัญญาเกี่ยวกับการประนอมหนี้ลงวันที่ 16 เม.ย. 42 มีจำนวนยอดหนี้ทั้งสิ้น 1,177,350.- บาท ซึ่งตอนนั้นยังไม่ได้หักราคาบ้านที่ขายทอดตลาดหลังนั้นไปนี่คะ แล้วทำไมยอดมันถึงได้สูงถึงเพียงนี้ ที่งงมากคือยอดที่ต้องชำระของทางแบงค์กับทางสำนักงานบังคับคดีทำไมไม่ตรงกันหล่ะคะ

แล้วเรื่องมาถึงขั้นนี้แล้วดิฉันควรจะเข้าไปคุยกับใครดี ถ้าคุยแล้วจะสามารถของให้เค้าลดหย่อนยอดหนี้ หรือขอรับชำระหนี้แทนพ่อแบบแบ่งจ่ายเป็นงวดๆได้หรือเปล่าคะ เพราะตอนนี้พ่อดิฉันเป็นอัมพาตนอนป่วยไม่รู้สึกตัวมาเกือบ 5 ปีแล้ว แม่ก็อยู่บ้านเฉยๆใช้เงินบำนาญของพ่อหลังจากที่หักสหกรณ์แล้วก็เหลือแค่ 6 พันกว่าบาท รบกวนขอคำปรึกษาด้วยค่ะ

 

 



ผู้ตั้งกระทู้ เศร้ามาก :: วันที่ลงประกาศ 2009-04-03 11:29:37


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (1922914)

สำหรับเรื่องสหกรณ์ นั้น ไม่ทราบข้อเท็จจริงว่าโฉนดที่ดินได้ไปอยู่ที่สหกรณ์โดยมิได้ดำเนินการกับสำนักงานที่ดินใช่หรือไม่ คือเขาขอโฉนดยึดไว้เป็นประกันแล้วทางสำนักงานบังคับคดีเขาทราบได้อย่างไรว่าโฉนดอยู่ที่สหกรณ์

เมื่อหนี้นี้เป็นหนี้ของพ่อแต่ผู้เดียวและโฉนดก็เป็นชื่อของพ่อมีกรรมสิทธิ์ ดูตามรูปการแล้ว เห็นว่า หนี้เดิมที่ถูกฟ้องขายทอดตลาดทรัพย์ ได้เงินมาไม่พอชำระหนี้ เขาก็มีสิทธิที่จะยึดทรัพย์สินอื่นของลูกหนี้ออกขายทอดตลาดนำเงินมาชำระหนี้ส่วนที่ขาดอยู่ได้ตามสัญญาที่ทำกันไว้

เมื่อคำนวณดอกเบี้ยจากต้นเงินประมาณ 1,200,000 บาท ถึงวันนี้ประมาณ 10 ปีคงจะไกล้ 2 ล้านบาท แต่ที่โทรไปสอบถามทางธนาคารว่ามียอดหนี้เท่าใดนั้น อาจเป็นได้ว่าหากคุณนำเงินจำนวนที่ทางธนาคารแจ้งไปชำระหนี้เขาก็อาจปลดหนี้ให้ แต่ที่ทางสำนักงานบังคับคดีแจ้งยอดที่ไม่ตรงกันอาจเป็นได้ว่า เป็นยอมเต็มที่รวมดอกเบี้ยเข้าไปแล้ว

ทางที่ดี หากมีคำถามคุณน่าติดต่อกับเจ้าหนี้โดยตรงและคำถามที่คุณสงสัยใดๆ ก็สอบถามทางธนาคารเจ้าหนี้ได้ เพื่อหาข้อมูลในการตัดสินใจต่อไปครับ

เรื่องการลดหย่อนยอมหนี้นั้นถ้าคุณประสงค์ที่จะเจรจาก็สามารถทำได้อยู่แล้วและเขาก็คงลดให้เท่าที่เขามีกำไรบ้าง น่าจะติดไปโดยเร็วนะครับ

เนื่องจากคุณปรึกษามากว้าง ๆ ไม่มีคำถามเฉพาะเจาะจงจึงตอบได้เพียงเท่านี้ครับ หากมีคำถามเพิ่มเติมก็ถามเข้ามาใหม่นะครับ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ลีนนท์ วันที่ตอบ 2009-04-04 09:09:59


ความคิดเห็นที่ 2 (1922960)

ขอบพระคุณมากสำหรับคำตอบค่ะ

ดิฉันไปดูสำเนาโฉนดที่ดินแล้วมีเขียนว่าสหกรณ์ออมทรัพย์ครูเป็นผู้รับจำนอง  ซึ่งคงมีการไปดำเนินการที่สำนักที่ดินก่อนเอาโฉนดไปค้ำประกันเงินกู้  ทางสำนักงานบังคับคดีเค้าคงสืบจากที่นั่นมั้งคะ   อยากจะขอทราบเพิ่มหน่อยค่ะว่ายอดหนี้จำนวนนี้ทางแบงค์เค้าจะพอลดหย่อนให้เหลือได้เต็มที่ประมาณเท่าไหร่ค่ะ (แบงค์กรุงไทย) อย่างถ้าขอลดเหลือสัก 7 – 8 แสน  แล้วแบ่งจ่ายเดือนละแสน  ทางแบงค์เค้าจะยอมหรือเปล่าคะ ขอถามเพื่อเป็นแนวทางในการเข้าไปเจรจากับแบงค์ค่ะ 

ตอนนี้ดิฉันติดต่อพี่ๆน้องๆ  ตกลงนัดกันจะไปคุยกับทางแบงค์วันอังคารที่ 7 เม.ย.นี้ค่ะ  ได้เรื่องยังไงจะมาเล่าให้ฟังค่ะ  แล้วถ้ามีปัญหาอะไรเพิ่มเติมจะมารบกวนขอคำปรึกษาเพิ่มเติมนะคะ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น เศร้ามาก วันที่ตอบ 2009-04-04 11:56:49


ความคิดเห็นที่ 3 (1923013)

ก็ลองไปเจรจาดูนะครับ เป็นเรื่องของเจ้าหนี้ ที่เขาจะลดให้ได้มากน้อยเท่าใด เขาเป็นสถาบันการเงินคงมีนโยบายจากผู้บริหารอยู่แล้วว่าจะยอมผ่อนผัน ณ ที่จุดใด แต่อย่างน้อยเขาคงขอต้นเงินของเขาคืน คงไม่มีสูตรตายตัว ขอให้โชคดีครับ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ลีนนท์ วันที่ตอบ 2009-04-04 15:15:05


ความคิดเห็นที่ 4 (1925841)

เงินต้น ๑,๒๐๐,๐๐๐.- ดอกเบี้ยร้อยละ ๑๕ เวลา ๑๐ ปี ก็พอดี ๓ ล้านกว่าๆ เจรจาลงเหลือ ๘๐ % โดยประมาณ

แนะนำ...ให้เช่าหลักทรัพย์นำไปวางเป็นประกัน...ขอรับ

ผู้แสดงความคิดเห็น ปกรณ์ วันที่ตอบ 2009-04-15 05:13:57


ความคิดเห็นที่ 5 (2205299)

ยึดโฉนดที่ดินเป็นประกันเงินกู้ยืม(คำพิพากษาศาลฎีกาที่  3874/2549)

กู้ยืมเงินกันแต่ไม่ได้ทำสัญญากู้ยืมเงิน ข้อเท็จจริงปรากฏว่า ผู้กู้ยืมส่งมอบโฉนดที่ดินให้ผู้ให้กู้ยึดถือไว้(ยึดโฉนดที่ดินเป็นประกัน) ต่อมาผู้กู้ยืม ฟ้องเรียกโฉนดที่ดินคืน กรณีนี้ ศาลฎีกา วินิจฉัยว่า การกู้ยืมเงินไม่มีหลักฐานลงลายมือชื่อผู้กู้นั้นจะฟ้องร้องบังคับคดีไม่ได้ และยังรวมไปถึงการอ้างการกู้ยืมที่ไม่มีสัญญากู้ยืมเงินเพื่อยึดหน่วงโฉนดที่ดินก็ไม่ได้เช่นกัน ผู้ให้กู้ต้องคือนโฉนดที่ดินให้ผู้กู้ไป

ผู้แสดงความคิดเห็น ทนายความ ลีนนท์ วันที่ตอบ 2011-08-12 18:44:22



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล