1. ถ้ากระทำความผิดจริงไม่ยกฟ้องง่าย ๆหรอกครับ หย่าหวังเลย รับสารภาพจะเป็นประโยชน์กว่า แต่กรณีนี้มันเลยขั้นตอนรับสารภาพไปแล้ว ฎีกาไปก็ยืดคดีไปโดยไม่ได้รับสิทธิอภัยโทษ เพราะคดียังไม่ถึงที่สุด กว่าศาลฎีกาจะตัดสินก็พ้นโทษไปแล้วครับ

2.ยอมรับผิดไม่ได้แล้วครับ มีแต่ยอมไม่ฏีกา ให้คดีถึงที่สุดแล้วทำความดีลดโทษในวันสำคัญจะดีกว่าครับ ติดจริงกี่ปี ผมตอบไม่ได้ครับไปหาข้อมูลที่เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ จะตอบได้ชัดเจนกว่าทนายความนะครับ

เรียน คุณ ลีนนท์

อยากทราบเพิ่มเติมครับไม่ทราบว่าเข้าใจถูกต้องหรือเปล่า

1)ที่คุณบอกว่า ฎีกาไปก็ยืดคดีไปโดยไม่ได้รับสิทธิ์อภัยโทษ หมายความว่าถ้าศาลฎีกาตัดสินให้ติดคุก 1 ปี 3 เดือนตามศาลชั้นต้นและอุธรณ์ทางผู้ต้องหาจะต้องติดคุกเต็มตามนั้นโดยไม่ได้รับการลดโทษถ้าทำตัวดีๆหรือลดหย่อนโทษในวโรกาสสำคัญๆใช่ไหมครับ

2)ที่คุณบอกว่า กว่าศาลฎีกาจะตัดสินก็พ้นโทษไปแล้ว หมายความว่า กว่าที่ศาลฎีกาจะตัดสินอาจใช้เวลาเป็นปีๆแต่ถ้ายอมรับโทษในตอนนี้ก็อาจจะติดจริงไม่ถึงปีหรือ 1 ปี ถ้าทำความดีเยอะๆหรือหรือลดหย่อนโทษในวโรกาสสำคัญๆใช่ไหมครับ

นับถือ

ละออ

1. ไม่ใช่ครับ การที่บอกว่ายืดคดีไปนั้นหมายความว่า ถ้าไม่ได้ประกันตัว และในระหว่างฎีกานั้น หากมีการอภัยโทษในโอกาสสำคัญ จำเลยจะไม่ได้รับสิทธิเนื่องจากคดียังไม่ถึงที่สุดจะไม่ได้รับสิทธิอภัยโทษกับนักโทษอื่นที่เด็ดขาดแล้ว แต่เมื่อคดีถึงที่สุดแล้วจะได้รับลดวันเช่นเดียวกันทุกคนไม่ว่าจะอุทธรณ์หรือฎีกาหรือไม่ (เป็นคนละเรื่องกันครับ)

2. ในข้อ 2 คุณเข้าใจถูกต้องแล้วครับ เพราะถ้าไม่ได้ประกันตัว กว่าศาลฎีกาจะตัดสินก็เป็นปีหรือกว่านั้นครับ