การกระทำดังกล่าวเป็นความผิดฐานพรากผู้เยาว์ซึ่งเป็นความผิดอาญาแผ่นดินไม่สามารถยอมความกันได้ แต่หากผู้เสียหายแถลงศาลว่าไม่ติดใจดำเนินคดีกับจำเลย ศาลก็คงปราณีรอการลงโทษ เพราะหากชายหญิงมีเจตนาอยู่กันเป็นสามีภริยากันก็คงจะผ่อนหนักเป็นเบาครับ

แม้น้องผู้หญิงจะแสดงออกชัดแจ้งว่าประสงค์จะอยู่กินกับฝ่ายชายก็ตาม แต่ยังเป็นผู้เยาว์ที่หากไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ปกครอง จึงเป็นการละเมิดอำนาจของผู้ปกครองครับ

แล้วมีวิธีแก้ไขอย่างไรครับ ในเมื่อน้องผู้หญิงเขายืนยันไม่กลับมาหาแม่ ส่วนแม่ก็ขอตัดขาดความป็นลูกแต่จะเอาความอย่างเดียวครับ. เพราะเริ่มต้นแม่ของฝ่ายหญิงเป็นคนเปิดโอกาศให้เด็กคบกันครับ.

ตอนนี้ตำรวจมีหมายเรียกไปยังภูมิลำเนาของฝ่ายชายหรือยัง หากตำรวจเรียกก็ต้องไปพบตำรวจตามหมายเรียก แล้วไปตกลงกับผู้ปกครองฝ่ายหญิงอาจตกลงกันได้ในชั้นตำรวจ โดยการที่ให้ทั้งสองฝ่ายอยู่กินฉันสามีภริยาเมื่อน้องผู้หญิงอายุครบ 17 ปี บริบูรณ์ก็ไปจดทะเบียนสมรสกันโดยผู้ปกครองให้ความยินยอม

พ่อแม่ไม่สามารถตัดความเป็นลูกได้หรอกครับ อาจพูดไปเพราะความโกรธ แต่ธรรมชาตของพ่อแม่ทำไม่ได้ครับ

แม้จะอ้างว่าแม่เขาเปิดโอกาสให้ทั้งสองฝ่ายคบกันก็ไม่ได้หมายความว่าจะอนุญาตให้พาบุตรหญิงผู้เยาว์ซึ่งอยู่ในความดูแลของเขาไปอย่างนั้น อันเป็นการกระทำที่กฎหมายบัญญัติไว้เป็นความผิด การมีคู่เป็นธรรมชาติของมนุษย์แต่ต้องเหมาะสมด้วย เช่นเข้าตามตรอกออกตามประตู ก็คงไม่มีปัญหาครับ