ReadyPlanet.com


ร้องทุกข์กล่าวโทษ กรรโชกทรัพย์ใด้ไหม กรณีนี้


ความเดิม ...นาย ก.และพวก 8 คน และพนักงานตำรวจ ดต.(ไม่ใช่ท้องที่) เข้าตรวจค้น ร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่ โดยไม่มีหมายค้น ไม่มีตำรวจท้องที่ร่วมด้วย บอกกับเจ้าของร้านว่าคอมพิวเตอร์ มี ไฟล์เพลง ละเมิดลิขสิทธิ์ ขอยกเครื่องคอมพิวเตอร์ไปตรวจสอบที่ ส.นท้องที่ ให้เจ้าของร้านติดตามไปรับเครื่องคอมพิวเตอร์คืน ช่วยเซ็นต์ยินยอมให้ยกเครื่องคอมพิวเตอร์ด้วย และบอกว่าจะไม่ดำเนินคดีอะไรจะไปตักเตือนแล้วให้กลับ

                 เมื่อถึง ส.น กลับขอให้ไกล่เกลี่ยเรียกรับเงินเพื่อให้ยอมความพร้อมกลับกล่าวหาว่า ละเมิดลิขสิทธิ์ ตาม พรบ ลิขสิทธิ์ พ.ศ 2537  ยกเครื่องคอมพิวเตอร์มา  10 ชุด ยึดเป็นของกลาง

                 ต่อมาเจ้าของร้าน ณ. ตอนนี้กลายเป็นผู้ถูกกล่าวหา อ้างจะหาเงินมาให้ไกล่เกลี่ย แล้วได้หลบหนีกลับบ้าน กลายเป็นผู้ต้องหา ในคดี

               ร้อยเวรท้องที่รับคดีและยึดของกลาง พยามติดต่อผู้ต้องหา  เพื่อให้มาไกล่เกลี่ยยอมความเพื่อจะได้ไม่ต้องเป็นคดีความ แต่ไม่สำเร็จ  จึงออกหมายเรียก ผู้ต้องหาเข้าพบพนักงานสอบสวน ผู้ต้องหาเข้าพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียก ให้การและเซ็นต์รับคำให้การและกลับบ้าน

             เจ้าพนักงาน (ร้อยเวร)แจ้งว่าจะนำของกลางส่ง กองพิสูจน์หลักฐานเพื่อประกอบคำให้การ ส่งอัยการฟ้องคดี

             ว่าด้วยของกลางที่ยึด     ของกลางที่ยึดเป็นทรัพย์สินให้เช่า (มีสัญญาเช่า)และทรัพย์สินส่วนตัวผู้ต้องหา     9 และ 1 ตามลำดับ  ผู้ให้เช่านำเอกสารในทรัพย์สินเข้าแสดงต่อพนักงานสอบสวน (ร้อยเวร) และให้ไปให้การและนำหลักฐานแสดงว่าไม่มีส่วนรู้เห็นหรือร่วมกระทำการ ละเมิดลิขธิ์ด้วย

                  จน ณ. วันนี้ร่วมเวลา  20 วัน คดียังไม่มีอะไรเพิ่มเติม ของกลางโดนยีดโดยยังไม่มีอะไรที่จะแสดงได้ว่า ยึดด้วยเหตุอะไร และสมควรแก่เหตุหรือไม่ 

                เจ้าของร้าน (ผู้ต้องหา) ปิดร้านปิดกิจการ ไม่มีรายได้ (หาทนายสู้คดี)

               เจ้าของเครื่องคอมฯ(ผู้ให้เช่า)ไม่มีรายได้ จากค่าเช่า (กระทบธุรกิจ)ต้องทำรายงานแจ้งหุ้นส่วนธุรกิจ ถึงเหตุแห่งรายได้จากค่าเช่าที่หายไป

              พนักงานสอบสวน และเจ้าทุกข์ ดู เสมือนไม่พยามเร่งรัดคดี แต่จะพยามขอให้จ่ายเงินเพื่อยอมความหรือไกล่เกลี่ยในชั้นพนักงานสอบสวน

              เจ้าของเครื่องคอมพิวเตอร์(ผู้ให้เช่า) ทำหนังสือขอคืนของกลางบ้างส่วนแล้ว ขอคืน  8 ชุด เหลือให้ 2 ชุด เพื่อให้เป็นหลักฐาน  แต่ได้รับการปฎิเสธด้วยวาจาจากพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ว่าไม่ได้ และหากอยากให้เร็วๆให้ไปเร่งรัดตามคดีกับกองพิสูจน์หลักฐานเอง (ใกล้ๆสำนักงานตำรวจแห่งชาติ)

       คำถามมีว่า

   1. ณ.วันนี้เจ้าของทรัพย์สิน(ผู้ให้เช่า) สามารถร้องทุกข์กล่าวโทษต่อ นาย ก.และพวกใด้หรือไม่ในข้อกล่าวหา กรรโชกทรัพย์ หรือข้อกล่าวหาใด หรือต้องให้อัยการสั่งฟ้องหรือไม่ฟ้องคดีก่อน

    2. เมื่อมีหนังสือขอคืนของกลาง เจ้าพนักงานสอบสวนต้องทำหนังสือไม่คืนเป็นลายลักณ์อักษรหรือไม่ หรือด้วยวาจาก็ได้ (เจ้าของทรัพย์สินต้องนำเอกสารไปแสดงต่อหุ้นส่วน)

   3. มีกำหนดระยะเวลาหรือไม่ เจ้าพนักงานสอบสวนต้องสรุปสำนวนส่งฟ้อง ภายในกี่วัน กี่เดือน

  4.  ณ. วันนี้พนักงานสอบสวน แจ้งมาว่าจะ ผู้ให้เช่าเจ้าของทรัพย์สินของกลาง  ผู้ต้องหา  เจ้าทุกข์

        เข้าพบพนักงานสืบสวน อีกครั้ง  ( ยังไม่มีกำหนดวัน) 

                                               ขอบคุณท่านทนายมากครับ 

            

                  
 



ผู้ตั้งกระทู้ ไพรัตน์ :: วันที่ลงประกาศ 2010-02-11 12:13:57


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (2034440)

 1. ณ.วันนี้เจ้าของทรัพย์สิน(ผู้ให้เช่า) สามารถร้องทุกข์กล่าวโทษต่อ นาย ก.และพวกใด้หรือไม่ในข้อกล่าวหา กรรโชกทรัพย์ หรือข้อกล่าวหาใด หรือต้องให้อัยการสั่งฟ้องหรือไม่ฟ้องคดีก่อน

---ผมมองว่ายังไม่เป็นกรรโชกทรัพย์นะครับ และตามพฤติการณ์ที่เล่ามาก็พิสูจน์ยากด้วยครับ สำหรับข้อหากรรโชกทรัพย์เป็นคนละคดีไม่ต้องรอคดีเดิมถูกฟ้องก็ดำเนินการได้เลยเพราะหากเข้าหลักเกณฑ์ ความผิดย่อมสำเร็จแล้ว ร้องทุกข์ได้เลย

2. เมื่อมีหนังสือขอคืนของกลาง เจ้าพนักงานสอบสวนต้องทำหนังสือไม่คืนเป็นลายลักณ์อักษรหรือไม่ หรือด้วยวาจาก็ได้ (เจ้าของทรัพย์สินต้องนำเอกสารไปแสดงต่อหุ้นส่วน)

---อยู่ระหว่างการสอบสวนยังไม่แล้วเสร็จ เขามีข้ออ้างไม่คืนได้ หากเห็นว่าเขาไม่มีอำนาจทำอย่างนั้นก็ต้องไปว่ากันเป็นคดีอื่นต่างหากครับ

  3. มีกำหนดระยะเวลาหรือไม่ เจ้าพนักงานสอบสวนต้องสรุปสำนวนส่งฟ้อง ภายในกี่วัน กี่เดือน

---เมื่อยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหาก็ไม่มีกำหนดเวลา แต่หากเห็นว่าเกินสมควรกว่าเหตุก็ร้องเรียนผู้บังคับบัญชาได้

  4.  ณ. วันนี้พนักงานสอบสวน แจ้งมาว่าจะ ผู้ให้เช่าเจ้าของทรัพย์สินของกลาง  ผู้ต้องหา  เจ้าทุกข์ 

        เข้าพบพนักงานสืบสวน อีกครั้ง  ( ยังไม่มีกำหนดวัน)  

---ก็เป็นเรื่องปกติที่พนักงานสอบสวนเขาปฏิบัติกับทุก ๆ คดีครับ คุณบอกว่า 20 วันแล้ว เห็นว่าการทำคดีนั้น 20 วันยังไม่ผิดปกติครับ

 

ผู้แสดงความคิดเห็น ลีนนท์ วันที่ตอบ 2010-02-11 17:05:46


ความคิดเห็นที่ 2 (2034677)

 1. ณ.วันนี้เจ้าของทรัพย์สิน(ผู้ให้เช่า) สามารถร้องทุกข์กล่าวโทษต่อ นาย ก.และพวกใด้หรือไม่ในข้อกล่าวหา กรรโชกทรัพย์ หรือข้อกล่าวหาใด หรือต้องให้อัยการสั่งฟ้องหรือไม่ฟ้องคดีก่อน

      ความผิดฐานฉ้อโกง มาตรา341 จะเข้าจะถูกต้องกว่าหรือไม่ครับ

    
 

ผู้แสดงความคิดเห็น ไพรัตน์ วันที่ตอบ 2010-02-12 12:06:08


ความคิดเห็นที่ 3 (2034699)

 การยึดของกลางในคดีไว้นั้นเป็นอำนาจตามกฏหมายซึ่งพนักงานสอบสวนสามารถทำได้ครับ ดังนั้นเมื่อกฏหมายให้อำนาจทำได้ จึงไม่เป็นการ

ผิดกฏหมาย และจะยึดได้นานเเค่ไหน ยึดได้นานจนกว่าจะจบคดีนี้ครับ เมื่อศาลพิพากษาคดี ศาลจะสั่งเรื่องของกลางด้วย  จะคืนของกลางบางส่วนได้หรือไม่ คำตอบคือเป็นดุลพินิจของพนักงานสอบสวน ถ้าเห็นว่าของกลางบางชิ้นไม่เกี่ยวกับคดี อาจไม่ยึดไว้ก็ได้ครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น ทรงภพ (Songphobk-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2010-02-12 13:02:43


ความคิดเห็นที่ 4 (2034766)

ตามฟังจากเหตุการณ์นี้ 

       1. พนักงานสอบสวน ร้อยเวร มิได้ดำเนินการยึด ด้วยตนเอง มีเพียงแต่เจ้าทุกข์ และพวก เข้ายึดและตรวจค้นโดยไม่มีหมายค้น

       2. ไม่มีตัวตนผู้กระทำความผิดชัดเจน เนื่องจากเจ้าของร้านและเจ้าของทรัพย์สินไม่อยู่ ณ.ตอนนั้น อันจะกล่าวหาว่าเป็นความผิดซึ่งหน้า ไม่ได้ แต่เจ้าทุกข์กลับยกทรัพย์สิน (คอมพิวเตอร์มามอบให้ร้อยเวรที่ ส.น ท้องที่)และแจ้งให้เจ้าของร้านรับทราบภายหลัง

                                                 โปรดชี้แนะขอบคุณครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น ไพรัตน์ วันที่ตอบ 2010-02-12 15:51:01


ความคิดเห็นที่ 5 (2035172)

 ตอบรวมๆกันไปทั้งข้อ1และข้อ 2 นะครับ เพราะผมเดาไม่ถูกว่าจากประโยคบอกเล่าที่คุณเล่ามาแล้ว คุณจะถามคำถามใด

เเม้การตรวจค้นหรือขั้นตอนการจับกุม จะเป็นไปโดยมิชอบ ก็ไม่ทำให้การสอบสวนซึ่งทำโดยชอบแล้วนั้นเสียไป

เมื่อมีการสอบสวนโดยชอบแล้ว อัยการมีอำนาจฟ้องคดีได้

ถ้าคิดว่าการตรวจค้นมิชอบ ให้ไปว่ากล่าวกันเป็นคดีอีกเรื่องหนึ่งต่างหาก

การตรวจค้นนั้น สามารถกระทำต่อหน้าผู้ครอบครองสถานที่ได้ ไม่จำเป็นต้องทำต่อหน้าเจ้าของสถานที่หรือเจ้าของทรัพย์สินนั้นเท่านั้น

ผู้แสดงความคิดเห็น ทรงภพ (Songphobk-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2010-02-14 12:03:54


ความคิดเห็นที่ 6 (2035173)

 1.ตามที่ว่ามา หมายถึงจะกล่าวว่า การตรวจค้นกระทำโดยมิชอบไช่หรือไม่ครับ  คำตอบคือการค้นโดยมิชอบ ไม่ทำให้การสอบสวนที่ทำโดยชอบแล้วนั้นเสียไป ถ้าการสอบสวนทำโดยชอบแล้ว พนักงานอัยการมีอำนาจฟ้องคดีนี้ครับ

2.การค้นทำต่อหน้าผู้ครอบครองสถานที่นั้นๆได้ครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น ทรงภพ (Songphobk-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2010-02-14 12:08:55


ความคิดเห็นที่ 7 (2035898)

ขอบคุณครับ   เข้าใจแล้วครับ  ตอนนี้ ยืนขอของกลางมาเก็บรักษา ได้หนังสือตอบกลับแล้ว จะได้ของกลางกลับในเร็วๆนี้

ผู้แสดงความคิดเห็น ไพรัตน์ วันที่ตอบ 2010-02-16 20:29:10



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล 
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล