

ความผิดฐานร่วมกันเป็นอั้งยี่, การพนันออนไลน์ผิดกฎหมาย, การฟ้องอั้งยี่และซ่องโจร ปรึกษากฎหมายทางแชทไลน์ • คำพิพากษาศาลฎีกา 980/2567 • ความผิดฐานร่วมกันเป็นอั้งยี่ • การพนันออนไลน์ผิดกฎหมาย • การฟ้องอั้งยี่และซ่องโจร • กฎหมายอั้งยี่ มาตรา 209 และ 211 • พระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 • ข้อบังคับคำฟ้องตาม ป.วิ.อ. มาตรา 158 (5) สรุปย่อ คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 980/2567 สรุปว่า จำเลยทั้งยี่สิบร่วมกันเป็นสมาชิกของกลุ่มอั้งยี่ โดยจัดให้มีการเล่นพนันผ่านเว็บไซต์ออนไลน์ ซึ่งถือเป็นความผิดตามกฎหมาย โจทก์บรรยายคำฟ้องโดยชัดเจนและครบองค์ประกอบของความผิดฐานร่วมกันเป็นอั้งยี่ ไม่จำเป็นต้องบรรยายเพิ่มเติมว่าจำเลยทราบว่าเป็นการกระทำผิด เนื่องจากถือเป็นข้อเท็จจริงที่จำเลยเข้าใจข้อหาดีแล้ว นอกจากนี้ การร่วมกันประกาศโฆษณาชักชวนในเว็บไซต์พนันออนไลน์เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการกระทำผิด ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษาให้จำคุกจำเลยคนละ 3 เดือน ซึ่งศาลฎีกาเห็นพ้องและพิพากษายืน หลักกฎหมายที่เกี่ยวข้องในคดีนี้มีหลายมาตรา ซึ่งสามารถอธิบายได้ดังนี้: 1. ประมวลกฎหมายอาญา •มาตรา 209: ระบุความผิดฐาน "อั้งยี่" หมายถึงการร่วมกันตั้งกลุ่มหรือสมาคมลับ ที่มีเจตนาให้ทำการละเมิดกฎหมาย หากบุคคลใดเป็นสมาชิกของกลุ่มดังกล่าว ย่อมมีความผิดฐานเป็นอั้งยี่ •มาตรา 211: กำหนดบทลงโทษแก่ผู้ที่เป็นหัวหน้าหรือเป็นผู้จัดการอั้งยี่หรือซ่องโจร ซึ่งถือเป็นการกระทำความผิดที่มีโทษสูงกว่าการเป็นสมาชิกทั่วไป •มาตรา 213: กำหนดโทษสำหรับผู้ร่วมกันกระทำความผิด โดยการเป็นส่วนหนึ่งของการกระทำอั้งยี่หรือซ่องโจร แม้จะไม่ได้ลงมือกระทำด้วยตนเอง แต่การร่วมเป็นสมาชิกก็ถือว่ามีส่วนร่วมในการกระทำความผิด 2. ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา •มาตรา 158 (5): กำหนดให้โจทก์ต้องบรรยายคำฟ้องให้ชัดเจนเพียงพอ เพื่อให้จำเลยเข้าใจข้อกล่าวหาที่ถูกฟ้อง รวมถึงรายละเอียดเกี่ยวกับเวลา สถานที่ และการกระทำที่เกิดขึ้น 3. พระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 •มาตรา 4 ทวิ: กำหนดข้อบังคับเกี่ยวกับการเล่นพนันในรูปแบบที่ไม่ได้รับอนุญาต รวมถึงการพนันในลักษณะออนไลน์ที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตามกฎหมาย •มาตรา 5: ห้ามมิให้บุคคลใดจัดให้มีการเล่นพนันโดยไม่ได้รับอนุญาต หากกระทำการดังกล่าวจะมีโทษตามกฎหมาย •มาตรา 6: กำหนดบทลงโทษสำหรับผู้ที่เข้าร่วมเล่นพนันโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน •มาตรา 10: ให้อำนาจเจ้าพนักงานสามารถออกคำสั่งหรือจับกุมในกรณีที่พบการเล่นพนันที่ไม่ได้รับอนุญาต •มาตรา 11: กล่าวถึงอำนาจในการยึดอุปกรณ์และสิ่งของที่ใช้ในการเล่นพนันที่ไม่ได้รับอนุญาต •มาตรา 12: ระบุเกี่ยวกับการสั่งฟ้องคดีหรือการดำเนินคดีในศาล •มาตรา 13: กำหนดวิธีการพิจารณาคดีพนันโดยให้มีการพิจารณาตามกระบวนการยุติธรรม •มาตรา 14: กล่าวถึงการริบของกลางที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิด •มาตรา 15: ระบุถึงสิทธิในการรับสินบนนำจับสำหรับเจ้าพนักงานที่ดำเนินการจับกุมผู้กระทำผิด 4. พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวง พ.ศ. 2499 •มาตรา 4: กำหนดเขตอำนาจศาลแขวงในการพิจารณาคดีอาญา ซึ่งรวมถึงวิธีการพิจารณาคดีและอำนาจของศาลในการตัดสินคดีตามที่กฎหมายกำหนด 5. พระราชบัญญัติให้นำวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวงมาใช้บังคับในศาลจังหวัด พ.ศ. 2520 •มาตรา 3: กำหนดให้ศาลจังหวัดมีอำนาจพิจารณาคดีตามวิธีพิจารณาของศาลแขวงในบางกรณี ซึ่งหมายถึงการใช้กระบวนการพิจารณาที่เรียบง่ายและมีประสิทธิภาพมากขึ้นในการพิจารณาคดี คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 980/2567 สำหรับความผิดฐานร่วมกันเป็นอั้งยี่ โจทก์บรรยายฟ้องว่าเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2565 เวลากลางวัน จำเลยทั้งยี่สิบร่วมกันเป็นสมาชิกของคณะบุคคลซึ่งปกปิดวิธีดำเนินการและมีความมุ่งหมายเพื่อการอันมิชอบด้วยกฎหมายร่วมกันประชุมในที่ประชุมอั้งยี่และกระทำความผิดตามความมุ่งหมายของอั้งยี่ โดยร่วมกันจัดให้มีการเล่น ช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวนทางเว็บไซต์ โดยชักชวนผู้ที่ต้องการเล่นพนันบอลออนไลน์ บาการาออนไลน์ และสล็อตออนไลน์ให้สมัครเป็นสมาชิกของเว็บไซต์ดังกล่าวด้วยข้อความประกาศที่หน้าเว็บไซต์ที่ว่า "เว็บไซต์ออนไลน์ แทงบอล บาการา สล็อต ฝาก ถอน ออโต 1 วิ มีโปรโมชั่น กิจกรรม เครดิตฟรี มากที่สุด" โดยบาการาออนไลน์ เป็นการพนันที่ระบุในบัญชี ก. หมายเลข 27 สล็อตออนไลน์เป็นการพนันที่ระบุในบัญชี ข. หมายเลข 28 และบอลออนไลน์ เป็นการพนันตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 4 ทวิ แห่ง พ.ร.บ.การพนัน พ.ศ. 2478 จำเลยทั้งยี่สิบร่วมกันรับเป็นเจ้ามือรับกินรับใช้โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานตามกฎหมายและอยู่ด้วยในที่ประชุมขณะกระทำความผิด ไม่ได้คัดค้านในการกระทำความผิดนั้น ตามฟ้องดังกล่าวแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าจำเลยทั้งยี่สิบรู้อยู่แล้วว่าคณะบุคคลที่ตนเป็นสมาชิกมีความมุ่งหมายเพื่อร่วมกันจัดให้มีการเล่น ช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวนทางเว็บไซต์สำหรับผู้ที่ต้องการเล่นพนันบอลออนไลน์ บาการาออนไลน์ และสล็อตออนไลน์ให้สมัครเป็นสมาชิกของเว็บไซต์ดังกล่าวโดยจำเลยทั้งยี่สิบต่างร่วมกันเป็นเจ้ามือรับกินรับใช้และทราบข้อกฎหมายซึ่งรู้กันอยู่ทั่วไปว่า บาการาออนไลน์ สล็อตออนไลน์ และบอลออนไลน์ ล้วนแต่เป็นการพนันที่ไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานอันเป็นการกระทำที่มีความมุ่งหมายโดยเจตนาให้ผิดต่อกฎหมายอยู่ในตัวแล้ว โจทก์ไม่จำเป็นต้องบรรยายคำฟ้องว่าจำเลยทั้งยี่สิบรู้อยู่ก่อนแล้วโดยเจตนาว่าเป็นการเล่นพนันที่มิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานตามกฎหมายตามคำฟ้องของโจทก์จึงเป็นการบรรยายการกระทำทั้งหลายที่อ้างว่าจำเลยทั้งยี่สิบได้กระทำความผิด ข้อเท็จจริงและรายละเอียดที่เกี่ยวกับเวลาและสถานที่ซึ่งเกิดการกระทำนั้น ๆ อีกทั้งบุคคลหรือสิ่งของที่เกี่ยวข้องด้วยพอสมควรเท่าที่จะทำให้จำเลยทั้งยี่สิบเข้าใจข้อหาได้ดี ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 158 (5) ประกอบ พ.ร.บ. จัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวง พ.ศ. 2499 มาตรา 4 และ พ.ร.บ. ให้นำวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวงมาใช้บังคับในศาลจังหวัด พ.ศ. 2520 มาตรา 3 แล้ว ส่วนการที่จำเลยทั้งยี่สิบยื่นใบสมัครต่อบุคคลใด ตั้งแต่เมื่อใด มิใช่องค์ประกอบความผิด และเป็นรายละเอียดที่โจทก์สามารถนำสืบได้ในชั้นพิจารณา แต่เมื่อจำเลยทั้งยี่สิบให้การรับสารภาพ ย่อมแสดงว่าจำเลยทั้งยี่สิบเข้าใจข้อหาตามคำฟ้องแล้วโจทก์หาจำต้องบรรยายมาในคำฟ้องไม่ คำฟ้องโจทก์จึงครบองค์ประกอบความผิดฐานร่วมกันเป็นอั้งยี่แล้ว สำหรับการปกปิดวิธีการดำเนินการตามคำฟ้องก็เป็นเรื่องวิธีการหรือขั้นตอนในการกระทำความผิดฐานร่วมกันเป็นอังยี่ส่วนการร่วมกันจัดให้มีการเล่น ช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวนทางเว็บไซต์ผู้ที่ต้องการเล่นการพนันออนไลน์ก็เป็นวิธีการหรือขั้นตอนอย่างหนี่งในการกระทำความผิดฐานร่วมกันเป็นอั้งยี่ด้วยเหมือนกัน หาได้ขัดแย้งและเป็นฟ้องเคลือบคลุมแต่อย่างใดไม่ ***โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 มาตรา 4, 4 ทวิ, 5, 6, 10, 12, 15 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 32, 33, 58, 83, 209, 211, 213 ริบของกลาง จ่ายสินบนนำจับตามกฎหมาย และบวกโทษจำคุกของจำเลยที่ 10 ที่รอการลงโทษไว้ในคดีก่อนเข้ากับโทษในคดีนี้ *จำเลยทั้งยี่สิบให้การรับสารภาพ และจำเลยที่ 10 รับว่าเป็นบุคคลคนเดียวกับจำเลยในคดีที่โจทก์ขอให้บวกโทษ *ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งยี่สิบมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 209 วรรคแรก, 211 ประกอบมาตรา 213, 83 พระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 มาตรา 4 ทวิ, 12 (2) การกระทำของจำเลยทั้งยี่สิบเป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษฐานร่วมกันเป็นอั้งยี่ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 209 วรรคแรก ประกอบมาตรา 213 (ที่ถูก ประกอบมาตรา 83 ด้วย) ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 จำคุกคนละ 1 ปี จำเลยทั้งยี่สิบให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ลดโทษให้คนละกึ่งหนึ่ง คงจำคุกคนละ 6 เดือน ให้นำโทษจำคุก 1 เดือน ของจำเลยที่ 10 ที่รอการลงโทษไว้ในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 1431/2564 ของศาลแขวงพระนครเหนือ มาบวกกับโทษจำคุกของจำเลยที่ 10 ในคดีนี้ เป็นจำคุก 7 เดือน ริบของกลาง เนื่องจากศาลไม่ได้ลงโทษปรับ จึงไม่อาจให้จ่ายสินบนนำจับได้ ยกคำขอในส่วนนี้ *จำเลยทั้งยี่สิบอุทธรณ์ *ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำคุกจำเลยทั้งยี่สิบคนละ 6 เดือน ลดโทษให้คนละกึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุกจำเลยทั้งยี่สิบคนละ 3 เดือน ให้นำโทษจำคุก 1 เดือน ของจำเลยที่ 10 ที่รอการลงโทษไว้ในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 1431/2564 ของศาลแขวงพระนครเหนือ มาบวกกับโทษจำคุกของจำเลยที่ 10 ในคดีนี้ เป็นจำคุก 4 เดือน ไม่ริบของกลาง ให้คืนของกลางแก่เจ้าของ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น *จำเลยทั้งยี่สิบฎีกา *ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยทั้งยี่สิบข้อแรกว่า ฟ้องโจทก์ครบองค์ประกอบความผิดฐานร่วมกันเป็นอั้งยี่ และเป็นฟ้องเคลือบคลุมหรือไม่ เห็นว่า สำหรับความผิดฐานร่วมกันเป็นอั้งยี่โจทก์บรรยายฟ้องว่า เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2565 เวลากลางวัน จำเลยทั้งยี่สิบร่วมกันเป็นสมาชิกของคณะบุคคลซึ่งปกปิดวิธีดำเนินการและมีความมุ่งหมายเพื่อการอันมิชอบด้วยกฎหมายร่วมกันประชุมในที่ประชุมอั้งยี่และกระทำความผิดตามความมุ่งหมายของอั้งยี่ โดยร่วมกันจัดให้มีการเล่น ช่วยประกาศโฆษณา หรือชักชวนทางเว็บไซต์ โดยชักชวนผู้ที่ต้องการเล่นพนันบอลออนไลน์ บาการาออนไลน์ และสล็อตออนไลน์ให้สมัครเป็นสมาชิกของเว็บไซต์ดังกล่าวด้วยข้อความประกาศที่หน้าเว็บไซต์ที่ว่า "เว็บไซต์ออนไลน์ แทงบอล บาการ่า สล็อต ฝาก ถอน ออโต 1 วิ มีโปรโมชั่น กิจกรรม เครดิตฟรี มากที่สุด" โดยบาการาออนไลน์ เป็นการพนันที่ระบุในบัญชี ก. หมายเลข 27 สล็อตออนไลน์ เป็นการพนันที่ระบุในบัญชี ข. หมายเลข 28 และบอลออนไลน์ เป็นการพนันตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 4 ทวิ แห่งพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 จำเลยทั้งยี่สิบร่วมกันรับเป็นเจ้ามือรับกินรับใช้โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานตามกฎหมาย และอยู่ด้วยในที่ประชุมขณะกระทำความผิดไม่ได้คัดค้านในการกระทำความผิดนั้น ตามฟ้องดังกล่าวแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าจำเลยทั้งยี่สิบรู้อยู่แล้วว่าคณะบุคคลที่ตนเป็นสมาชิกมีความมุ่งหมายเพื่อร่วมกันจัดให้มีการเล่น ช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวนทางเว็บไซต์สำหรับผู้ที่ต้องการเล่นพนันบอลออนไลน์ บาการาออนไลน์ และสล็อตออนไลน์ให้สมัครเป็นสมาชิกของเว็บไซต์ดังกล่าวโดยจำเลยทั้งยี่สิบต่างร่วมกันเป็นเจ้ามือรับกินรับใช้และทราบข้อกฎหมายซึ่งรู้กันอยู่ทั่วไปว่าบาการาออนไลน์ สล็อตออนไลน์ และบอลออนไลน์ ล้วนแต่เป็นการพนันที่ไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานอันเป็นการกระทำที่มีความมุ่งหมายโดยเจตนาให้ผิดต่อกฎหมายอยู่ในตัวแล้ว โจทก์ไม่จำเป็นต้องบรรยายคำฟ้องว่าจำเลยทั้งยี่สิบรู้อยู่ก่อนแล้วโดยเจตนาว่าเป็นการเล่นพนันที่มิได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานตามกฎหมาย ตามคำฟ้องของโจทก์จึงเป็นการบรรยายการกระทำทั้งหลายที่อ้างว่าจำเลยทั้งยี่สิบได้กระทำความผิด ข้อเท็จจริงและรายละเอียดที่เกี่ยวกับเวลาและสถานที่ซึ่งเกิดการกระทำนั้น ๆ อีกทั้งบุคคลหรือสิ่งของที่เกี่ยวข้องด้วยพอสมควรเท่าที่จะทำให้จำเลยทั้งยี่สิบเข้าใจข้อหาได้ดี ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158 (5) ประกอบพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวง พ.ศ. 2499 มาตรา 4 และพระราชบัญญัติให้นำวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวงมาใช้บังคับในศาลจังหวัด พ.ศ. 2520 มาตรา 3 แล้ว ส่วนการที่จำเลยทั้งยี่สิบยื่นใบสมัครต่อบุคคลใด ตั้งแต่เมื่อใดมิใช่องค์ประกอบความผิด และเป็นรายละเอียดที่โจทก์สามารถนำสืบได้ในชั้นพิจารณา แต่เมื่อจำเลยทั้งยี่สิบให้การรับสารภาพ ย่อมแสดงว่าจำเลยทั้งยี่สิบเข้าใจข้อหาตามคำฟ้องแล้วโจทก์หาจำต้องบรรยายมาในคำฟ้องไม่ คำฟ้องโจทก์จึงครบองค์ประกอบความผิดฐานร่วมกันเป็นอั้งยี่แล้ว สำหรับการปกปิดวิธีดำเนินการตามคำฟ้องก็เป็นเรื่องวิธีการหรือขั้นตอนในการกระทำความผิดฐานร่วมกันเป็นอั้งยี่ ส่วนการร่วมกันจัดให้มีการเล่นช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวนทางเว็บไซด์ผู้ที่ต้องการเล่นการพนันออนไลน์ก็เป็นวิธีการหรือขั้นตอนอย่างหนึ่งในการกระทำความผิดฐานร่วมกันเป็นอั้งยี่ด้วยเหมือนกันหาได้ขัดแย้งและเป็นฟ้องเคลือบคลุมดังที่จำเลยทั้งยี่สิบกล่าวอ้างมาในฎีกาแต่อย่างใดไม่ ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษามานั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาของจำเลยทั้งยี่สิบข้อนี้ฟังไม่ขึ้น *ปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยทั้งยี่สิบข้อสุดท้ายมีว่า ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษาลงโทษจำเลยทั้งยี่สิบชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เห็นว่า คดีนี้โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งยี่สิบฐานร่วมกันเป็นอั้งยี่ และฐานร่วมกันจัดให้มีการเล่น ช่วยประกาศโฆษณา หรือชักชวนโดยตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าพนันโดยไม่ได้รับอนุญาต ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษาลงโทษจำเลยทั้งยี่สิบตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 209 วรรคแรก, 211 ประกอบมาตรา 213, 83 พระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 มาตรา 4 ทวิ, 12 (2) การกระทำของจำเลยทั้งยี่สิบเป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบทให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 209 ประกอบมาตรา 213, 83 ซึ่งเป็นบทกฎหมายที่มีโทษหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 นั้น การกระทำที่จะเป็นความผิดเกี่ยวกับบทกฎหมายเฉพาะและบทกฎหมายทั่วไปได้นั้น ต้องเป็นความผิดที่เกี่ยวข้องประเภทเดียวกันและเป็นกฎหมายฉบับเดียวกัน แต่ความผิดที่โจทก์ฟ้องจำเลยทั้งยี่สิบในคดีนี้ไม่เป็นความผิดที่เกี่ยวข้องประเภทเดียวกันและไม่เป็นกฎหมายฉบับเดียวกัน การที่ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษาลงโทษจำเลยทั้งยี่สิบตามคำฟ้องโจทก์จึงชอบด้วยกฎหมายแล้ว คำพิพากษาศาลฎีกาที่จำเลยทั้งยี่สิบกล่าวอ้างในฎีกานั้นไม่ตรงกับข้อเท็จจริงในคดีนี้ ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษามานั้น ชอบด้วยกฎหมายแล้ว ฎีกาของจำเลยทั้งยี่สิบข้อนี้ฟังไม่ขึ้นเช่นกัน พิพากษายืน |