

ที่งอกริมตลิ่ง สาธารณสมบัติของแผ่นดิน
ที่งอกริมตลิ่ง สาธารณสมบัติของแผ่นดิน
ข้อ 1. เมื่อปี พ.ศ. 2520 นายแดงนำเรือบรรทุกที่ใช้รับจ้างส่งสินค้ามาจอดเกยตื้นอยู่ที่ปากแม่น้ำท่าจีนหน้าที่ดินมีโฉนดของนายดำ ซึ่งอยู่ใกล้ตลาดสะดวกที่นายแดงและภริยาจะไปค้าขาย และใช้เรือบรรทุกนั้นเป็นที่อยู่อาศัยตลอดมา ไม่ได้ย้ายไปไหนเลยเป็นเวลา 12 ปี ในระยะเวลาดังกล่าวสายน้ำเปลี่ยนทางเดิน พอขึ้นปีที่ 13 ชายตลิ่งที่จอดเรือบรรทุกก็ตื้นเขินติดต่อมาจากที่ดินของนายดำ เป็นเนื้อที่ 10 ตารางวา นายแดงจึงปลูกบ้านในที่ดินดังกล่าวอยู่อาศัยแทนเรือบรรทุกที่ผุพังแล้ว นายดำรู้เรื่องก็ไม่ว่ากล่าวอะไร ต่อมาปี พ.ศ. 2540 นายดำจะสร้างบ้านในที่ดินของนายดำ จึงบอกให้นายแดงออกจากที่ดินนั้น นายแดงไม่ยอมออก นายดำจึงฟ้องขับไล่ นายแดงให้การต่อสู้ว่าได้เข้าครอบครองมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2520 ได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินดังกล่าวแล้ว
ให้วินิจฉัยว่า นายดำหรือนายแดงเป็นผู้มีกรรมสิทธิ์ในที่ดินส่วนดังกล่าว
เดิมที่ดินตามปัญหาเป็นที่ชายตลิ่งซึ่งน้ำท่วมถึง จึงเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกันตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1304 (2) นายแดง มีสิทธินำเรือบรรทุกไปจอดใช้เป็นที่อยู่อาศัยในที่ชายตลิ่งดังกล่าวเท่านั้น แต่ต่อมาเมื่อที่จอดเรือบรรทุกของนายแดง ตื้นเขินกลายเป็นที่งอกเชื่อมต่อมาจากที่ดินมีโฉนดของนายดำ ที่ดินส่วนดังกล่าวย่อมเป็นทรัพย์สินของนายดำ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1308 ส่วนที่นายแดงอ้างว่าครอบครองที่ดินส่วนดังกล่าวตั้งแต่ปี พ.ศ. 2520 จนถึงปี พ.ศ. 2540 เป็นเวลา 20 ปี นายแดง ได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินส่วนดังกล่าวแล้วนั้น ในช่วงเวลา 12 ปีแรก ที่ดินนั้นยังเป็นที่สาธารณสมบัติของแผ่นดินอยู่ แม้นายแดงจะครอบครองมานานเท่าใดก็ไม่ได้กรรมสิทธิ์ แต่หลังจากที่ดินส่วนดังกล่าวเป็นที่งอกริมตลิ่งและตกเป็นของนายดำ แล้ว นายแดง เพิ่งเข้าครอบครองได้เพียง 8 ปีเท่านั้น ที่ดินส่วนดังกล่าวจึงยังคงเป็นกรรมสิทธิ์ของนายดำ (เทียบคำพิพากษาฎีกาที่ 126/2503 และคำพิพากษาฎีกาที่ 149/2543)
|