

ขอลดโทษคดียาเสพติดตามมาตรา 100/2 ขอลดหย่อนโทษคดียาเสพติดตามมาตรา 100/2-ให้ข้อมูลเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อพนักงานสอบสวน แม้ใน มาตรา 100/2 จะให้ศาลมีอำนาจลงโทษผู้กระทำความผิดน้อยกว่าอัตราโทษขั้นต่ำที่กำหนดไว้ก็ตาม แต่ไม่ใช่บทบังคับศาล ดังนั้นจึงเป็นดุลพินิจของศาลตามที่ศาลจะเห็นสมควร และในทางนำสืบก็ต้องปรากฏว่าให้ข้อมูลที่สำคัญและเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษต่อพนักงานสอบสวน คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ลงโทษจำคุกตลอดชีวิตและปรับ 5,000,000 บาท ศาลอุทธรณ์ พิพากษาจำคุก 37 ปี 6 เดือน และปรับ 3,750,000 บาท จำเลยฎีกาขอให้ลงโทษสถานเบาตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 100/2 ศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3072/2553 ข้อมูลเป็นประโยชน์ตามมาตรา 100/2 ต้องมีลักษณะอย่างไร?(คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6287/2553)อ่านต่อคลิ๊กที่นี่ครับ โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 4, 7, 8, 15, 66, 67, 102 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 32 และริบของกลาง ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 15 วรรคสาม (3), 66 วรรคสาม, 102 ให้ลงโทษจำคุกตลอดชีวิตและปรับ 5,000,000 บาท ริบของกลาง ศาลอุทธรณ์ภาค 5 พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 15 วรรคสาม (3), 66 วรรคสาม, 102 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 คำให้การรับสารภาพชั้นจับกุม ชั้นสอบสวนและทางนำสืบของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาอยู่บ้าง ลดโทษให้หนึ่งในสี่ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ประกอบมาตรา 53 แล้ว คงจำคุก 37 ปี 6 เดือน และปรับ 3,750,000 บาท ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30 แต่ให้กักขังแทนค่าปรับได้ไม่เกิน 1 ปี นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ...ที่จำเลยฎีกาข้อสุดท้ายขอให้ลงโทษสถานเบาตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 100/2 นั้น เห็นว่า แม้บทบัญญัติดังกล่าวจะให้ศาลมีอำนาจลงโทษผู้กระทำความผิดน้อยกว่าอัตราโทษขั้นต่ำที่กำหนดไว้สำหรับความผิดนั้นได้ก็ตาม แต่ก็เป็นดุลพินิจของศาลที่จะพิจารณาตามที่เห็นสมควรมิใช่บทบังคับ ซึ่งข้อเท็จจริงที่จำเลยแจ้งตำหนิรูปพรรณนางกิตติมาและนายประกาศให้พนักงานสอบสวนทราบ จนมีการออกหมายจับบุคคลทั้งสอง แต่ทางนำสืบของโจทก์และจำเลยไม่ปรากฏว่าพนักงานสอบสวนสามารถจับกุมนายกิตติมาและนายประกาศมาดำเนินคดีได้หรือไม่ อย่างไร คำให้การในชั้นสอบสวนของจำเลยจึงยังไม่มีเหตุผลเพียงพอที่จะฟังว่าจำเลยให้ข้อมูลที่สำคัญและเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษต่อพนักงานสอบสวน ทั้งศาลอุทธรณ์ภาค 5 ลดโทษให้จำเลยหนึ่งในสี่ นับว่าเป็นคุณแก่จำเลยมากแล้วจึงไม่มีเหตุสมควรที่ศาลฎีกาจะกำหนดโทษจำเลยให้น้อยกว่าอัตราโทษขั้นต่ำที่กฎหมายกำหนดไว้ ฎีกาข้อนี้ของจำเลยฟังไม่ขึ้นเช่นกัน |