

โทษการพนันออนไลน์ พ.ร.บ.การพนัน, การโฆษณาชักชวนเล่นพนันออนไลน์, ปรึกษากฎหมายทางแชทไลน์ • โทษการพนันออนไลน์ พ.ร.บ.การพนัน • คำพิพากษาศาลฎีกา 910/2567 • การโฆษณาชักชวนเล่นพนันออนไลน์ • มาตรา 12 (1) พ.ร.บ.การพนัน • ความผิดฐานเล่นพนันโดยไม่ได้รับอนุญาต • กฎหมายการพนัน พ.ศ. 2478 • การลงโทษโฆษณาและจัดให้มีการพนัน สรุปย่อ คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 910/2567 ย่อได้ดังนี้ โจทก์ฟ้องจำเลยทั้ง 16 ว่าร่วมกันประกาศโฆษณาหรือชักชวนให้ผู้อื่นเล่นการพนันหลายประเภทผ่านเว็บไซต์ โดยไม่ได้รับอนุญาต ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกคนละ 2 เดือน ปรับคนละ 2,000 บาท ลดโทษครึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 เดือน ปรับ 1,000 บาท รอการลงโทษ 1 ปี ศาลอุทธรณ์ภาค 9 แก้ให้ลงโทษจำเลยฐานจัดให้มีการเล่นสลากกินรวบ เป็นการกระทำหลายกรรมต่างกัน โดยไม่รอการลงโทษ ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า โจทก์ไม่ได้บรรยายแยกแต่ละกรรม จึงถือเป็นการกระทำกรรมเดียว และพิพากษาแก้ว่าให้ลงโทษฐานร่วมกันโฆษณาให้เล่นสลากกินรวบตามกฎหมายการพนัน มาตรา 12 (1) ซึ่งมีโทษหนักที่สุด แต่ศาลฎีกาไม่สามารถลงโทษเพิ่มได้เพราะทางโจทก์ไม่ได้อุทธรณ์หรือฎีกา หลักกฎหมายที่เกี่ยวข้องจากประมวลกฎหมายอาญาและพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 มีดังนี้: 1.พ.ร.บ.การพนัน พ.ศ. 2478 มาตรา 4 วรรคหนึ่ง: ระบุว่าการประกาศโฆษณาหรือชักชวนให้ผู้อื่นเข้าเล่นการพนันโดยไม่ได้รับอนุญาตถือเป็นความผิดทางกฎหมาย การกระทำในลักษณะนี้ครอบคลุมถึงการสื่อสารที่มุ่งหมายให้บุคคลทั่วไปเข้าร่วมเล่นการพนัน ซึ่งอาจทำให้มีการลุ่มหลงในอบายมุขและส่งผลกระทบต่อสังคม 2.พ.ร.บ.การพนัน พ.ศ. 2478 มาตรา 4 วรรคสอง: กล่าวถึงบทบัญญัติที่เกี่ยวข้องกับการลงโทษในกรณีที่การกระทำดังกล่าวมีลักษณะรุนแรงกว่าหรือครอบคลุมการกระทำที่อาจเข้าข่ายความผิดที่มีผลกระทบมากขึ้น เช่น กรณีที่มีการเล่นการพนันที่อาจส่งผลร้ายต่อสังคมมากกว่าปกติ 3.พ.ร.บ.การพนัน พ.ศ. 2478 มาตรา 4 ทวิ: เพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อกำหนดที่เข้มงวดในการจัดการและการโฆษณาเกี่ยวกับการพนัน การกระทำใด ๆ ที่เป็นการส่งเสริมให้เกิดการพนันโดยไม่ได้รับอนุญาตจะมีบทลงโทษที่ชัดเจนขึ้น เป็นมาตราที่เสริมความเข้มงวดในบทบัญญัติของกฎหมายนี้ 4.พ.ร.บ.การพนัน พ.ศ. 2478 มาตรา 12 (1): ระบุบทลงโทษสำหรับการกระทำผิดในกรณีที่มีการประกาศหรือโฆษณาให้ผู้อื่นเข้าเล่นการพนันโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งเป็นความผิดที่มีบทลงโทษสูงกว่า เพื่อควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของการเล่นพนันที่ไม่ได้รับอนุญาตในสังคม 5.พ.ร.บ.การพนัน พ.ศ. 2478 มาตรา 12 (2): กล่าวถึงการลงโทษในกรณีที่มีการจัดให้มีการเล่นการพนันเองหรือเป็นผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการดำเนินการเล่นพนันโดยตรง โดยระบุโทษที่เข้มงวดเพื่อป้องกันการกระทำดังกล่าว หลักกฎหมายเหล่านี้เป็นพื้นฐานในการพิจารณาความผิดและลงโทษในกรณีที่เกี่ยวข้องกับการพนันที่ไม่ได้รับอนุญาตในประเทศไทย ซึ่งใช้ในการควบคุมและป้องกันการส่งเสริมให้เกิดการเล่นพนันที่อาจส่งผลเสียหายต่อสังคม คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 910/2567 โจทก์บรรยายฟ้องว่า วันเกิดเหตุจำเลยทั้งสิบหกร่วมกันประกาศโฆษณาหรือชักชวนผู้อื่นให้เข้าเล่นการพนันบาการา สล๊อทแมชีน สลากกินรวบ และทายผลฟุตบอลออนไลน์ บนเว็บไซต์ผ่านแอปพลิเคชันไลน์และเฟซบุ๊ก พนันเอาทรัพย์สินกันโดยไม่ได้รับอนุญาตรวมกันมาในข้อเดียวกัน ไม่ได้บรรยายฟ้องให้ปรากฎชัดเจนว่าจำเลยทั้งสิบหกร่วมกันประกาศโฆษณาหรือชักชวนให้เล่นการพนันแต่ละประเภทแยกต่างหากออกจากกันเป็นแต่ละกรรมต่างกัน ทั้งคำขอท้ายฟ้องของโจทก์ก็ไม่ได้อ้าง ป.อ. มาตรา 91 มาด้วย แสดงว่าโจทก์ประสงค์ให้ลงโทษจำเลยทั้งสิบหกฐานร่วมกันประกาศโฆษณาหรือชักชวนให้ผู้อื่นเข้าเล่นการพนันหลายประเภทตามที่กล่าวในฟ้องเป็นความผิดกรรมเดียวกัน และต้องถือตามคำฟ้องของโจทก์ว่า การกระทำของจำเลยทั้งสิบหกมีเจตนาเดียวจึงเป็นการกระทำกรรมเดียว ****โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสิบหกตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 มาตรา 4, 4 ทวิ, 5, 6, 10, 12, 15 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33, 83 ริบของกลาง และให้จำเลยทั้งสิบหกจ่ายสินบนนำจับตามกฎหมาย *จำเลยทั้งสิบหกให้การรับสารภาพ *ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งสิบหกมีความผิดตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 มาตรา 4 วรรคหนึ่ง, 4 ทวิ และ 12 (2) ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 จำคุกคนละ 2 เดือน และปรับคนละ 2,000 บาท จำเลยทั้งสิบหกให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้คนละกึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุกคนละ 1 เดือน และปรับคนละ 1,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 ริบของกลาง ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 29/1, 30 และให้จำเลยทั้งสิบหกจ่ายสินบนนำจับตามกฎหมาย *โจทก์อุทธรณ์ โดยอธิบดีอัยการสำนักงานคดีศาลสูงภาค 9 ซึ่งอัยการสูงสุดมอบหมายรับรองให้อุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง *ศาลอุทธรณ์ภาค 9 พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ลงโทษจำเลยทั้งสิบหกฐานร่วมกันจัดให้มีการเล่นการพนันสลากกินรวบด้วย และเป็นการกระทำความผิดหลายกรรมต่างกัน ไม่ลงโทษปรับ ไม่รอการลงโทษและไม่จ่ายสินบนนำจับ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น *จำเลยทั้งสิบหกฎีกา *ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า มีปัญหาข้อกฎหมายต้องวินิจฉัยในประการแรกเสียก่อนว่า การกระทำของจำเลยทั้งสิบหกเป็นการกระทำความผิดหลายกรรมต่างกันตามคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ภาค 9 หรือไม่ เห็นว่า คดีนี้โจทก์บรรยายฟ้องสรุปความได้ว่า วันเกิดเหตุจำเลยทั้งสิบหกร่วมกันประกาศโฆษณาหรือชักชวนให้ผู้อื่นเข้าเล่นการพนันบาการา สล๊อทแมชีน สลากกินรวบ และทายผลฟุตบอลออนไลน์บนเว็บไซต์ผ่านแอปพลิเคชันไลน์และเฟซบุ๊ก พนันเอาทรัพย์สินกันโดยไม่ได้รับอนุญาต รวมกันมาในข้อเดียวกัน ไม่ได้บรรยายฟ้องให้ปรากฏชัดเจนว่าจำเลยทั้งสิบหกร่วมกันประกาศโฆษณาหรือชักชวนให้เล่นการพนันแต่ละประเภทแยกต่างหากออกจากกันเป็นแต่ละกรรมต่างกัน ทั้งคำขอท้ายฟ้องของโจทก์ก็ไม่ได้อ้างประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 มาด้วย จึงเป็นการกระทำกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท หาใช่เป็นการกระทำความผิดหลายกรรมต่างกันดังที่ศาลอุทธรณ์ภาค 9 วินิจฉัยไม่ จึงต้องลงโทษจำเลยทั้งสิบหกฐานร่วมกันประกาศโฆษณาหรือชักชวนให้ผู้อื่นเข้าเล่นการพนันสลากกินรวบ ตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 มาตรา 4 วรรคสอง และมาตรา 12 (1) ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 ทั้งโจทก์มิได้ฟ้องขอให้ลงโทษฐานร่วมกันจัดให้มีการเล่นการพนันสลากกินรวบดังที่ศาลอุทธรณ์ภาค 9 พิพากษาให้ลงโทษด้วย กรณีเป็นปัญหาข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย แม้ไม่มีคู่ความฝ่ายใดฎีกา ศาลฎีกามีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยและแก้ไขให้ถูกต้องได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 195 วรรคสอง ประกอบมาตรา 225 และพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวง พ.ศ. 2499 มาตรา 4 อย่างไรก็ตามที่ศาลชั้นต้นพิพากษาตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 มาตรา 4 วรรคหนึ่ง, 4 ทวิ และ 12 (2) ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 ให้ลงโทษจำคุกจำเลยทั้งสิบหกคนละ 2 เดือน และปรับคนละ 2,000 บาท ก่อนลดโทษให้นั้นเป็นการลงโทษบทเบากว่าความผิดฐานร่วมกันประกาศโฆษณาหรือชักชวนให้ผู้อื่นเข้าเล่นการพนันสลากกินรวบ ตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 มาตรา 12 (1) ซึ่งเป็นบทหนักและมีระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 3 เดือนขึ้นไปจนถึง 3 ปี และปรับตั้งแต่ 500 บาท ขึ้นไปจนถึง 5,000 บาท แต่เมื่อโจทก์ไม่อุทธรณ์ ฎีกา ศาลฎีกาจึงไม่อาจลงโทษจำเลยทั้งสิบหกให้เป็นไปตามโทษที่กำหนดในความผิดฐานดังกล่าวได้ เพราะจะเป็นการพิพากษาเพิ่มเติมโทษจำเลยทั้งสิบหก อันเป็นการต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 212 ประกอบมาตรา 225 และพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวง พ.ศ. 2499 มาตรา 4 *ส่วนที่จำเลยที่ 8 ที่ 9 และที่ 12 ฎีกาในทำนองเดียวกันว่า จำเลยที่ 8 ที่ 9 และที่ 12 สมัครเข้าทำงานโดยเข้าใจว่าทำหน้าที่แอดมินเพจและคอยตอบคำถามให้แก่ลูกค้าทางออนไลน์เท่านั้น มีลักษณะเป็นการฎีกาโต้แย้งทำนองว่า จำเลยที่ 8 ที่ 9 และที่ 12 ไม่ได้ประกาศโฆษณาหรือชักชวนให้ผู้อื่นเข้าเล่นการพนันตามฟ้อง อันเป็นการขัดแย้งกับคำให้การรับสารภาพของจำเลยที่ 8 ที่ 9 และที่ 12 จึงเป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ภาค 9 ต้องห้ามมิให้ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 225 วรรคหนึ่ง ประกอบมาตรา 252 และพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวง พ.ศ. 2499 มาตรา 4 ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้ *คงมีปัญหาต้องวินิจฉัยในปัญหาข้อเท็จจริงตามฎีกาของจำเลยทั้งสิบหกว่า กรณีมีเหตุสมควรรอการลงโทษจำคุกให้แก่จำเลยทั้งสิบหกหรือไม่ เห็นว่า การที่จำเลยทั้งสิบหกกับพวกร่วมกันประกาศโฆษณาหรือชักชวนให้ผู้อื่นเล่นการพนันบาการา สล๊อทแมชีน สลากกินรวบ และทายผลฟุตบอล ออนไลน์บนเว็บไซต์ผ่านทางแอปพลิเคชันไลน์และเฟซบุ๊ก พนันเอาทรัพย์สินกัน โดยจำเลยทั้งสิบหกกับพวกเป็นฝ่ายเจ้ามือรับกินรับใช้ทำหน้าที่ให้บริการคอยตอบคำถามให้แก่ลูกค้า (admin) และชักชวนให้ลูกค้าเข้าเล่นการพนันดังกล่าวเป็นส่วนสำคัญทำให้การพนันแพร่กระจายไปสู่สังคมได้รวดเร็วยากแก่การตรวจสอบและควบคุม ก่อให้ประชาชนลุ่มหลงในอบายมุข โดยเฉพาะในหมู่เยาวชน อันเป็นการแสวงหาผลประโยชน์ที่มิควรได้ส่วนตน ไม่คำนึงถึงความเสียหายที่จะติดตามมาจากการเล่นการพนันอีกหลายประการ นอกจากนั้นจำเลยทั้งสิบหกกับพวกร่วมกันประกาศโฆษณาหรือชักชวนให้ผู้อื่นเข้าเล่นการพนันออนไลน์บนเว็บไซต์เป็นจำนวนมากถึง 8 เว็บไซต์ โดยเมื่อลูกค้าสนใจเข้าร่วมเล่นการพนันสามารถสมัครเล่นผ่านลิงก์ในข้อความประกาศโฆษณาชักชวนบนแอปพลิเคชันดังกล่าว ลูกค้าจะต้องโอนเงินพนันให้แก่ฝ่ายบัญชี แล้วจำเลยทั้งสิบหกกับพวกจะส่งรหัสสมาชิก (Username Password) และหลักฐานการโอนเงินแก่ลูกค้า จากนั้นลูกค้าจึงจะสามารถเข้าไปเล่นการพนันออนไลน์ต่าง ๆ ภายในเว็บไซต์ดังกล่าวได้ อันมีลักษณะกระทำการเป็นขั้นเป็นตอน ประกอบกับขณะเกิดเหตุเจ้าพนักงานตำรวจจับกุมจำเลยทั้งสิบหกกับพวกพร้อมยึดเครื่องคอมพิวเตอร์ 15 เครื่อง เครื่องเร้าเตอร์กระจายสัญญาณไวไฟ 4 เครื่อง และโทรศัพท์เคลื่อนที่ 6 เครื่อง รวม 25 รายการ แสดงว่าจำเลยทั้งสิบหกกับพวกร่วมกันกระทำเป็นขบวนการเครือข่ายเล่นการพนันออนไลน์รายใหญ่ กระทำเป็นอาชีพ ส่งผลกระทบต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของสังคมและระบบเศรษฐกิจโดยรวม พฤติการณ์แห่งคดีนับว่าเป็นเรื่องที่ร้ายแรง แม้จะไม่ปรากฏว่าจำเลยทั้งสิบหกเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อนและมีเหตุผลความจำเป็นดังที่กล่าวอ้างมาในฎีกาก็ตาม แต่ก็ยังมิใช่เป็นเหตุผลเพียงพอที่จะรับฟังเพื่อรอการลงโทษจำคุกให้แก่จำเลยทั้งสิบหก ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 9 พิพากษาไม่รอการลงโทษจำคุกให้แก่จำเลยทั้งสิบหกมานั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาของจำเลยทั้งสิบหกฟังไม่ขึ้น *พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยทั้งสิบหกมีความผิดตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 มาตรา 4 วรรคหนึ่งและวรรคสอง, 4 ทวิ และ 12 (1) (2) ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 การกระทำของจำเลยทั้งสิบหกเป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษฐานร่วมกันประกาศโฆษณาหรือชักชวนให้ผู้อื่นเข้าเล่นการพนันสลากกินรวบ ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 ส่วนโทษและนอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 9
****ตัวอย่างร่างคำฟ้องคดีอาญาตามรูปแบบกฎหมายไทยที่อิงจากข้อเท็จจริงในคำพิพากษาศาลฎีกา สามารถใช้เป็นแนวทางได้ดังนี้: คำฟ้องคดีอาญา คดีหมายเลขดำที่ .../... ระหว่าง โจทก์: พนักงานอัยการ จำเลย: นาย ก. และพวก รวม 16 คน บรรยายฟ้อง ข้อ 1: เมื่อวันที่ ... จำเลยทั้ง 16 ได้ร่วมกันกระทำการประกาศโฆษณาและชักชวนให้ผู้อื่นเข้าเล่นการพนันประเภทต่าง ๆ ได้แก่ บาการา สล๊อทแมชีน สลากกินรวบ และทายผลฟุตบอลออนไลน์ โดยใช้วิธีการเผยแพร่ข้อมูลผ่านเว็บไซต์และแอปพลิเคชันสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ เช่น ไลน์ และเฟซบุ๊ก เพื่อให้มีการพนันเอาทรัพย์สินกัน โดยการกระทำดังกล่าวไม่ได้รับอนุญาตตามกฎหมาย ข้อ 2: การกระทำของจำเลยทั้ง 16 นั้น มีเจตนาร่วมกันในการโฆษณาและชักชวนให้เล่นการพนัน ซึ่งเป็นการกระทำที่ต้องห้ามตาม พ.ร.บ. การพนัน พ.ศ. 2478 มาตรา 4 วรรคหนึ่ง และมาตรา 12 (1) และ (2) ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 คำขอท้ายฟ้อง ด้วยเหตุนี้ โจทก์จึงขอศาลได้โปรดพิจารณาและมีคำพิพากษาดังนี้: 1.ลงโทษจำเลยทั้ง 16 ตาม พ.ร.บ. การพนัน พ.ศ. 2478 มาตรา 4 วรรคหนึ่ง และมาตรา 12 (1) และ (2) ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 2.ให้ริบของกลางทั้งหมดที่ใช้ในการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33 3.หากจำเลยไม่ชำระค่าปรับ ขอให้บังคับตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29 และมาตรา 29/1 และ 30 4.ให้จำเลยจ่ายสินบนนำจับตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ลงชื่อ (พนักงานอัยการ) วัน เดือน ปี หมายเหตุ: ร่างคำฟ้องนี้เป็นเพียงแนวทางที่ช่วยในการศึกษาและทำความเข้าใจเท่านั้น นักศึกษากฎหมายและทนายความจบใหม่ควรศึกษากฎหมายที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนการใช้งานในคดีจริง
การอ้างอิงกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการบังคับให้จำเลยจ่ายสินบนนำจับในคดีอาญานั้น อาจเกี่ยวข้องกับหลักกฎหมายต่อไปนี้: 1. พระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 ตาม มาตรา 30 และ 31 ของพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 กำหนดให้สามารถริบทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดและสามารถนำเงินที่ได้มาใช้ในการดำเนินการตามกฎหมาย รวมถึงการจัดสรรเพื่อเป็นสินบนนำจับแก่ผู้แจ้งเบาะแส การที่ศาลสั่งให้จำเลยจ่ายสินบนนำจับจึงอาจเป็นไปตามขั้นตอนการริบทรัพย์สินหรือเงินที่ได้มาจากการกระทำความผิด 2. ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 161/1 ระบุเกี่ยวกับสิทธิและหน้าที่ของฝ่ายโจทก์ในการเรียกร้องค่าชดเชยที่เกี่ยวข้อง โดยหลักการที่เกี่ยวข้องอาจเปิดโอกาสให้มีการพิจารณาคำขอให้จำเลยชดใช้เงินบางประเภทที่ใช้เป็นการชดเชยหรือการจ่ายสินบนนำจับ 3. หลักกฎหมายและการตีความ ในทางปฏิบัติ การสั่งให้จำเลยจ่ายเงินสินบนนำจับมักอ้างอิงถึงการที่ศาลมีอำนาจพิจารณาสั่งให้จำเลยชดใช้ค่าชดเชยที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการจับกุมหรือเบาะแสที่นำไปสู่การจับกุม หากพบว่าการกระทำผิดก่อให้เกิดผลกระทบและมีการริบทรัพย์สิน การที่ศาลจะพิจารณาสั่งให้มีการจ่ายสินบนนำจับอาจอยู่บนพื้นฐานการใช้อำนาจของศาลในการพิจารณาคดีที่เป็นธรรมตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
สรุป: กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการบังคับให้จำเลยจ่ายสินบนนำจับสามารถอ้างอิงจาก พระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ. 2478 มาตรา 31 ซึ่งกำหนดการริบทรัพย์สินและจัดสรรเพื่อนำมาใช้ในการดำเนินคดี และการใช้ดุลพินิจของศาลในการสั่งชดใช้ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา และหลักกฎหมายทั่วไปที่เกี่ยวข้องกับการบังคับใช้คำพิพากษา. |